วันนี้ (10 กรกฎาคม) สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง, พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษก DSI และ วิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ในฐานะโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีและการติดตามทรัพย์สินในคดีทุจริต หุ้น บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK คดีพิเศษที่ 57/2566 กรณีดังกล่าว DSI ได้มีความเห็นทางคดีและส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 และต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องรวม 11 ราย ได้แก่
- ชนินทร์ (สงวนนามสกุล) อดีตประธานกรรมการบริษัท
- วนรัชต์ (สงวนนามสกุล) อดีตกรรมการบริษัท
- ศรัทธา (สงวนนามสกุล) อดีตกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน
- กิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด
- ยสบวร (สงวนนามสกุล) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและกรรมการบริษัทย่อย
- นาตยา (สงวนนามสกุล) อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี
- บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด
- บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด
- บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยภายหลังจากที่มีการจับกุมชนินทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคนสำคัญ ทำให้ปัจจุบันพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาครบถ้วนแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทุกรายอยู่ในการควบคุมตัวในเรือนจำเพื่อรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล โดยกำหนดวันนัดพิจารณาคดีนัดแรกในวันที่ 14 มกราคม 2568 จนถึงนัดสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2568
ในส่วนของความเสียหายในคดีอาญาคดีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 14,778 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้จำนวน 9,198 ล้านบาท และหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 5,580 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา DSI และ ปปง. ได้มีการยึด/อายัดทรัพย์สินรวมจำนวนประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลอาญา และศาลอาญามีคำสั่งยึด/อายัดทรัพย์สินของ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น และบริษัทที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว ตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อีกส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ DSI อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีที่มีการโอนหรือรับโอนทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลที่โอนและรับโอนโดยมิได้มีมูลหนี้ตามกฎหมาย โดยเฉพาะการรับโอนเงินจากอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงินคือศรัทธา (สงวนนามสกุล) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมร่วมกับ ปปง. เป็นคดีพิเศษที่ 32/2567 รวมทั้ง DSI ยังมีการพิจารณาดำเนินคดีกับกรรมการบางรายเพิ่มเติมตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีการกล่าวหา
สำหรับประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งแต่งตั้ง พิชัย นิลทองคำ เป็นประธานคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) นั้น เนื่องจากพิชัยแจ้งความประสงค์ขอถอนตัวจากการเป็นประธานคณะทำงานดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจึงได้มีคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 171/2567 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ยกเลิกคำสั่งเดิม และมีคำสั่งแต่งตั้ง พงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะทำงานแทน และมีการเพิ่มเลขาธิการ ก.ล.ต., นายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เข้ามาเป็นคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่ศึกษาแผนประทุษกรรมกรณีดังกล่าวต่อไป