วันนี้ (19 สิงหาคม) หลังจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘นักเรียนเลว’ ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความเชิญชวนให้นักเรียนออกมาปกป้องอนาคตของชาติ ปกป้องนักเรียน และนัดหมายให้มาผูกโบขาวหน้ากระทรวงศึกษาธิการ พร้อมชูสามนิ้ว ร้องเพลงชาติ และเป่านกหวีดไล่ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ขณะที่บรรยากาศที่ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการเริ่มมีนักเรียนทยอยเดินเท้ามาร่วมกิจกรรมตั้งแต่เวลา 15.30 น. โดยกลุ่มแรกที่มาถึงเป็นนักเรียนจากโรงเรียนที่อยู่ใกล้กับทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ นำโบขาวมาถูกที่ข้อมือและผม
ขณะที่บรรยากาศภายในสนามหญ้าหน้ากระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีได้สั่งให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเก้าอี้ไว้สำหรับเด็กนักเรียน 100 คน ให้เข้าไปพบปะพูดคุยภายในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อต้องการพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มนักเรียนโดยตรง โดยไม่มีบุคคลที่สามหรือกลุ่มบุคคลอื่นเข้ามาร่วมด้วย
ต่อมาแกนนำกลุ่มนักศึกษาได้ประกาศนัดหมายให้นักเรียนมานั่งรวมตัวกันที่หน้ากระทรวงฯ เพื่อให้รัฐมนตรีออกมารับหนังสือข้อเรียกร้อง ซึ่งรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ออกมารับหนังสือแทน แต่ทางแกนนำยืนยันว่า จะต้องเป็นรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้นที่ออกมารับหนังสือ
จากนั้นเวลา 16.48 น. รัฐมนตรีได้เดินออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจะมารับฟังข้อเสนอของเด็กนักเรียน โดยได้เดินฝ่าวงล้อมของมวลชนที่เป่านกหวีดใส่ พร้อมตะโกน “ออกไป” ซึ่งรัฐมนตรีพยายามที่จะเดินเข้าไปในแถวนักเรียนที่นั่งฟังปราศรัยของแกนนำอยู่ แต่กลุ่มนักเรียนได้ตะโกนว่า “ไปต่อแถว” “อย่ามาแทรกกลาง มาช้าควรไปต่อแถวด้านหลัง” รัฐมนตรีจึงตอบตกลง พร้อมทำสัญลักษณ์มือว่า OK แล้วเดินไปนั่งฟังที่ท้ายแถว
จากนั้นรัฐมนตรีได้นั่งรับฟังปัญหาและพูดคุยกับกลุ่มนักเรียนที่มีข้อสงสัยและคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา ซึ่งนักเรียนที่นั่งพูดคุยได้สะท้อนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ทั้งปัญหาทางเพศ การถูกกดขี่จากครูในโรงเรียน และการไม่รับฟังความเห็น รวมไปถึงสะท้อนให้เห็นว่าการแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งโรงเรียนบางแห่งชุดนักเรียนมีราคาแพงมาก จึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ด้วย ซึ่งรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับฟังและขอรับปัญหาที่สะท้อนมาในวันนี้ไปแก้ไข ระหว่างการพูดคุย มีนักเรียนนำนกหวีดและโบสีขาวมามอบให้รัฐมนตรี พร้อมติดไว้ที่เสื้อ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีได้ใช้เวลาในการรับฟังความคิดเห็นนาน 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับเข้าไปในกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมยืนยันว่า จะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน และเปิดพื้นที่ในโรงเรียนให้แสดงออกทางการเมือง โดยจะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะการข่มขู่คุกคามเกิดขึ้นอีก