พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) และนายกรัฐมนตรีเมียนมา ได้กล่าวอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินเมียนมา โดยอวยพรให้ประชาชนทั่วโลก รวมถึงประชาชนทุกเชื้อชาติของสหภาพเมียนมารอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ พร้อมยืนยันเมียนมากำลังมุ่งหน้าสู่ระบบประชาธิปไตย คาดจัดเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2025
เมียนมาต้องเผชิญกับภัยพิบัติร้ายแรงถึงสองเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไต้ฝุ่นยางิได้พัดถล่มเมืองและหมู่บ้านหลายแห่ง ก่อให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ปีนี้ ยังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ทำให้เกิดความสูญเสียและความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งพื้นที่ประสบภัยจำเป็นต้องได้รับการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์อย่างเร่งด่วน
มิน อ่อง หล่าย ยังระบุว่า ตนได้เชิญชวนและเปิดรับให้มีการช่วยเหลือจากทั้งภายในและต่างประเทศ และได้หารือกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ระหว่างการประชุมสุดยอด BIMSTEC ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เพื่อขอความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติแผ่นดินไหวในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอบคุณอย่างจริงใจต่อทีมกู้ภัยทั้งภายในและต่างประเทศ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในพื้นที่ประสบภัย และขอขอบคุณผู้บริจาคทั้งในประเทศและต่างประเทศทุกท่าน ที่ให้ความช่วยเหลือด้านสิ่งของ เครื่องใช้ และเงินสดสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
รัฐบาลเมียนมากำลังดำเนินการตามวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคที่แท้จริงและมีระเบียบวินัย และสร้างสหภาพที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของประชาธิปไตยและระบบสหพันธรัฐ โดยรัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งทั่วไปแบบหลายพรรคที่เสรีและเป็นธรรมอย่างสมบูรณ์ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เพื่อให้สามารถเริ่มต้นระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนปรารถนาได้โดยเร็ว
มิน อ่อง หล่าย ขอให้ประชาชนชาวเมียนมาร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วง หากปรารถนาที่จะได้อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคอย่างแท้จริง รัฐบาลของเรากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนทุกคน
รัฐบาลเมียนมาตัดสินใจที่จะทุ่มเทความพยายามอย่างสูงสุดในการดำเนินมาตรการฟื้นฟูในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างที่ทำการและหน่วยงานของรัฐบาลขึ้นใหม่ รวมถึงบ้านพักอาศัย และโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง
รวมถึงจะต้องเร่งเสริมสร้างการผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ในทำนองเดียวกัน ผู้ประกอบการในธุรกิจ MSME ทุกคนจำเป็นต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการผลิตสินค้าให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ การศึกษายังเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น ประชาชนทุกคนจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนที่อยู่ในวัยเรียนสามารถเข้าถึงการศึกษาในปีการศึกษาที่จะมาถึงนี้
พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า สันติภาพและเสถียรภาพมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาของประเทศ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้พยายามสร้างสันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืน รัฐบาลของเราได้เชิญชวนทุกฝ่ายให้ร่วมกันแก้ไขปัญหาทางการเมืองด้วยแนวทางทางการเมือง เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น มิน อ่อง หล่าย เชื่อมั่นว่า ในฐานะที่เราทุกคนล้วนเป็นพี่น้องร่วมชาติเดียวกัน ทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลด้วยจิตวิญญาณแห่งสหภาพ ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเดินหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคต่อไป
ภาพ: The Global New Light Of Myanmar
อ้างอิง:
