×

รู้ให้จริง! ‘ความหวานไม่ใช่ผู้ร้าย’ กินได้และมีประโยชน์ถ้ารู้จักเลือก [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
14.09.2021
  • LOADING...
Milo Nestlé

HIGHLIGHTS

2 mins. read
  • ความหวานจากน้ำตาลธรรมชาติมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำตาลแลคโตสในนม จะเปลี่ยนเป็นกลูโคสเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้พลังงาน หรือน้ำตาลมอลโตสที่มีอยู่ในมอลต์ เป็นน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างช้าๆ ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานต่อเนื่อง ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างสมดุล
  • เครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ หวานน้อยก็อร่อยได้ อย่าง ‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’ ปรับสูตรให้อร่อยกลมกล่อมแบบไมโล แต่น้ำตาลน้อยลง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค โดยมีน้ำตาลเพียง 12 กรัม ซึ่งได้จากแลคโตสในนมตามธรรมชาติ 7 กรัม มอลโตสจากมอลต์สกัดจากข้าวบาร์เลย์ 1 กรัม และน้ำตาลทราย 4 กรัม และยังมีแคลเซียม 40% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน มีมอลต์ นม และโกโก้ ประโยชน์เต็มกล่อง ดื่มได้ทุกวัน

‘ความหวาน’ ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการขัดขวางหนทางสู่การมีสุขภาพดีมาโดยตลอด น่าแปลกที่ผลไม้ก็มี ‘น้ำตาล’ เป็นส่วนประกอบ แต่กลับได้ข้อยกเว้นให้อยู่ในหมวดของอาหารสุขภาพไปได้ หรือยังมีความจริงบางประการเกี่ยวกับความหวานที่ตกหล่นไปจนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน 

 

 

‘ประเภท’ และ ‘ปริมาณ’ คือ คีย์หลักในการเลือกบริโภคน้ำตาลให้ได้ประโยชน์

ข้อเท็จจริงที่ทุกคนรับรู้มาตลอดจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (The American Heart Association: AHA) หรือแม้แต่สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลที่แนะนำให้เติมในอาหารก็คือ ไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของปริมาณพลังงานทั้งหมดที่ได้รับในแต่ละวัน

จำง่ายๆ คือ เด็กเล็กถึงเด็กอายุ 13 ปี ควรรับประทานน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาหรือ 16 กรัมต่อวัน เพื่อให้มีพลังงานไปทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันเต็มที่ ส่วนวัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงผู้ใหญ่ ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัมต่อวัน

ปริมาณน้ำตาลที่ควรได้รับต่อวันว่าสำคัญแล้ว แต่ประเด็นหลักที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ‘ความหวาน’ ยังมีเรื่อง ‘ประเภทน้ำตาล’ ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราอีกด้วย ในเมื่อแต่ละวันเรามีโควตาน้ำตาลจำกัด ยิ่งต้องเลือกความหวานที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด นั่นคือความหวานจากน้ำตาลธรรมชาติ คราวนี้รู้แล้วใช่หรือไม่ว่า ทำไมผลไม้ที่มีความหวานถึงได้สิทธิ์อยู่ในกลุ่มอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 


ที่แน่ๆ ยังช่วยแก้ข้อกล่าวหาที่ว่า ‘ความหวาน’ เป็นผู้ร้าย แต่กลายเป็นสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายแทน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลฟรุกโตสที่มีอยู่ในผักผลไม้ หรือน้ำตาลแลคโตสที่มีอยู่ในนม และน้ำตาลมอลโตสที่มีอยู่ในมอลต์  


เพราะน้ำตาลเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต จึงเป็นแหล่งพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย อย่าง น้ำตาลแลคโตส เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกย่อยที่บริเวณลำไส้เล็กโดยเอนไซม์แลคเตสจากลำไส้ และเปลี่ยนเป็นกลูโคสกับกาแลคโตส เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น น้ำตาลแลคโตสยังช่วยดูดซึมแคลเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น สังกะสี ทองแดง หรือแม้กระทั่งเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งจะไปทำงานร่วมกับพรีไบโอติก เพื่อทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น 

หรือน้ำตาลมอลโตสที่มีอยู่ในมอลต์ เป็นน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างช้าๆ ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานต่อเนื่อง ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างสมดุล และด้วยรสชาติที่หวานน้อยกว่า จึงมักถูกเลือกให้เป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์อย่างไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่าเป็นต้น

 



สูตรความอร่อยกลมกล่อมแบบไมโลจาก ‘ไมโลสูตรปกติ’ สู่ ‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’

พูดถึงเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ที่คุ้นเคย หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่หลายคนยังจดจำรสชาติความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างดีก็คือ ‘ไมโล’ เครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ แน่นอนว่าเอกลักษณ์ของรสชาติจากนม มอลต์ และโกโก้ ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ด้วยความใส่ใจของไมโล จึงมุ่งมั่นพัฒนาสูตรต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกยุคสมัย โดยเฉพาะเทรนด์รักสุขภาพในตอนนี้

นับตั้งแต่ไมโลสูตรแรกได้ถือกำเนิดขึ้น โดย Thomas Mayne นักวิจัยของเนสท์เล่ ในปี 1934 หลังจากที่เห็นเด็กในออสเตรเลียขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพเป็นจำนวนมาก การรณรงค์ให้เด็กกินผักหรืออาหารที่มีประโยชน์ในยุคนั้นเป็นไปได้ยาก เขาจึงคิดค้นเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ที่ให้พลังงานและสารอาหารที่ดีต่อการเจริญเติบโต เพื่อให้เด็กๆ ได้ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย 


กว่า 8 ศตวรรษ ส่วนผสมพื้นฐานในไมโลยังคงอุดมด้วยโภชนาการที่มีคุณประโยชน์ ได้แก่ นม โกโก้ วิตามิน แร่ธาตุ มอลต์สกัดเข้มข้นจากข้าวบาร์เลย์ และน้ำตาล 

 


‘น้ำตาล’ หนึ่งในส่วนผสมของไมโล เป็นสิ่งที่ทีมนักวิจัยของ Nestlé Research Center ให้ความสำคัญอย่างมาก ประการแรก ปริมาณน้ำตาลในโมโลต้องเป็นไปตามมาตรฐานโภชนาการของเนสท์เล่ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ประการต่อมา ไมโลยังพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จาก ‘ไมโลสูตรปกติ’ ที่มีปริมาณน้ำตาลตามมาตรฐานสากลอย่างที่บอกไป ไมโลก็ได้มีการปรับสูตรเพิ่ม 2 สูตร ได้แก่ ‘ไมโลสูตรไม่มีน้ำตาลทราย’ ซึ่งยังคงคงความอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือถูกใจคนชอบไม่หวาน เพราะได้ความหวานจากน้ำตาลธรรมชาติของนม 8 กรัม และน้ำตาลธรรมชาติมอลโตสจากมอลต์ 3 กรัม ส่วนอีกสูตรคือ ‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’ เป็นอีกทางเลือกให้กับคนรักสุขภาพที่มองหาเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์เติมพลังระหว่างวัน หรือคุณแม่ที่ต้องการเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้กับลูก แม้จะหวานน้อยกว่าเดิมแต่ยังคงความอร่อยกลมกล่อมเอกลักษณ์เฉพาะของไมโล 

 


แกะสูตร ‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’ ทั้งอร่อย ทั้งได้ประโยชน์  

‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’ เป็นสูตรที่ได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) ผ่านเกณฑ์พิจารณาแล้วว่ามีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมที่เหมาะสม เป็นทางเลือกให้คนรักสุขภาพที่ขาดหวานไม่ได้ เป็นไปตามปณิธานการผลิตเครื่องดื่มคุณภาพของทีมนักวิจัย

ปริมาณน้ำตาล 12 กรัมที่ปรากฏข้างกล่อง ประกอบด้วย แลคโตสจากนมตามธรรมชาติ 7 กรัม มอลโตสจากมอลต์สกัดจากข้าวบาร์เลย์ 1 กรัม และน้ำตาลทราย 4 กรัม ทำให้ได้รสชาติที่หวานน้อยลง แต่ยังอร่อยกลมกล่อมแบบไมโล อีกทั้งอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียมสูงเทียบเท่ากับ 40% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน โปรตีน 5,000 มิลลิกรัมจากนม ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยเสริมปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นอกจากปริมาณที่ได้รับจากมื้ออาหารปกติ  

 


นอกจากนี้ ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า ยังอัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกกว่า 9 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 2, บี 3, บี 6, บี 12, วิตามินซี, วิตามินดี, เหล็ก, แคลเซียม และฟอสฟอรัส ล้วนมีส่วนช่วยเสริมให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก

เมื่อรวมทุกคุณประโยชน์ดีๆ จากส่วนผสมใน ‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’ ยิ่งมั่นใจว่าคนรักสุขภาพที่ไม่อยากตัดขาดความหวาน หรือคุณแม่ที่มองหาเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ให้กับลูกๆ จะมีทางเลือกมากขึ้น แค่ต้องรู้จักเลือกความหวานที่มีประโยชน์ และเลือก ‘ไมโล’ สูตรที่คุณลูกชอบ คุณแม่ว่าใช่ เพียงเท่านี้ก็มีความสุขกับการกินได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่ทำร้ายสุขภาพแล้ว


พบกับ ‘ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า’  ได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X