×

มิเกล อาร์เตต้า กับความท้าทายที่รอคอย ในฐานะกุนซือคนใหม่ของอาร์เซนอล

20.12.2019
  • LOADING...
Mikel Arteta

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • อาร์เซนอลเซ็นสัญญากับ มิเกล อาร์เตต้า อดีตนักเตะของสโมสรมาเป็นผู้จัดการทีมพร้อมสัญญา 3 ปีครึ่ง
  • อาร์เตต้าถูกมองว่ามีโอกาสเติบโตขึ้นเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จทั้งจาก อาร์เซน เวนเกอร์ และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จากความชื่นชอบในฟุตบอลและการวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไข 
  • ความท้าทายที่รอเขาอยู่ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม คือการแก้ไขปัญหาเกมรับและภาวะของความเป็นผู้นำภายในทีม 
  • อาร์เตต้าเผยถึงปรัชญาการทำทีมไว้เมื่อปี 2014 ว่า “เราต้องการให้ทุกคนทุ่มเท 120% และนั่นคือสิ่งแรก ถ้าคุณไม่มีสิ่งนี้ คุณจะไม่ได้เล่นให้ผม” 

กลายเป็นเทรนด์สำหรับการตั้งผู้จัดการทีมในยุคปัจจุบันที่เลือกเอาอดีตนักเตะของสโมสรกลับมาสู่ทีมในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งล่าสุดอาร์เซนอลเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่เลือกใช้อดีตนักเตะอย่าง มิเกล อาร์เตต้า กลับเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ 

 

โดยนักวิเคราะห์ฟุตบอลต่างประเทศมองว่า สาเหตุสำคัญที่อาร์เซนอลตัดสินใจเลือกอาร์เตต้า นอกจากการเป็นหนึ่งนักเตะที่คุ้นเคยการทำทีมของ อาร์เซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมที่ครั้งหนึ่งเคยพาสโมสรสู่ความสำเร็จมาแล้ว อีกปัจจัยสำคัญคือการที่ อาร์เตต้าเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง และได้รับการไว้วางใจจากกุนซือทั้ง 2 คน แม้ว่าจะยังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมอย่างเป็นทางการมาก่อน 

 

วันนี้หลังจากที่อาร์เตต้าได้รับตำแหน่งกุนซือทีมอาร์เซนอลอย่างเป็นทางการแล้ว THE STANDARD จึงอยากสำรวจความเหมาะสม และความท้าทายที่รอคอยอดีตกัปตันทีมอาร์เซนอล เพื่อคาดการณ์ว่าเขาจะนำพาสโมสรไปในทิศทางใดในอนาคต 

 

อาร์เตต้า คนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา อาร์เซน เวนเกอร์ และ เมาริซิโอ โปเชตติโน ไว้วางใจ 

 

Mikel Arteta

 

อาร์เตต้าในวันที่เขาเป็นนักฟุตบอลก็มีความเชื่อจากหลายฝ่ายว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นเป็นกุนซือได้ในอนาคต โดยในยุคที่เขาทำงานร่วมกับเวนเกอร์ มีบางครั้งที่กุนซือชาวฝรั่งเศสอนุญาตให้อาร์เตต้าคุมการฝึกซ้อมของทีม 

 

โดยสาเหตุเพราะว่าเวนเกอร์เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะศึกษาเกม การวิเคราะห์แท็กติกของแต่ละเกม ทำให้เวนเกอร์เห็นศักยภาพของอาร์เตต้าที่มีมากกว่านักฟุตบอล นี่เป็นสาเหตุให้ทั้งกวาร์ดิโอลา เวนเกอร์ และโปเชตติโน ต่างก็แย่งตัวเขามาเป็นโค้ช หลังจากที่เขาแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2016 

 

จนสุดท้ายอาร์เตต้าก็ตัดสินใจไปร่วมงานกับเป๊ป คนที่เขารู้จักมาตั้งแต่วัย 15 ปีที่บาร์เซโลนา 

 

Mikel Arteta

 

กวาร์ดิโอลาออกปากยอมรับว่า ความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมป์คาราบาว คัพ 2 สมัย และเอฟเอคัพเกิดขึ้นจากความช่วยเหลือของอาร์เตต้า

 

“เขาช่วยผมเยอะมาก ตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่แค่ 2 ฤดูกาลแรก แต่นับตั้งแต่วันแรก เขามีวิธีการทำงานที่ดีเยี่ยม และเขามีความสามารถพิเศษในการวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ปัญหา” กวาร์ดิโอลายอมรับว่าความสำเร็จของทีมเกิดขึ้นจากความช่วยเหลือของอาร์เตต้า 

 

Mikel Arteta

 

“เราพูดคุยกันถึงสิ่งที่เขาเชื่อและรู้สึก เขาช่วยผมเยอะมากในปีแรก เขารู้จักพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี 

 

“เขามีความสุขมากเมื่อเราชนะ แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เราพ่ายแพ้ ดังนั้นเขาจึงมองหาทางแก้ไขปัญหาตลอดเวลา 

 

“เขาเป็นคนที่ดีเยี่ยม ที่มาพร้อมกับการเป็นคนที่ให้ความสำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวกันของทีมภายในห้องแต่งตัว เขาเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม และเขาจะมีเส้นทางของความสำเร็จในอนาคต” 

 

อาร์เตต้ายังมีโอกาสได้เห็นปัญหาของอาร์เซนอลจากขอบสนาม และพบกับความท้าทายที่รอคอยเขาอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ จากเกมที่อาร์เซนอลเปิดบ้านพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถึง 0-3 

 

เขาได้เห็นกองหลังของอาร์เซนอลถอยหนีเกมรุกของซิตี้ โดยเฉพาะ เควิน เดอ บรอยน์ พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม เดินเกมบุกใส่ตลอดเกม จนถึงการเห็นแฟนบอลบนอัฒจันทร์เดินออกจากสนามด้วยความผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง 

 

Mikel Arteta

 

สถานการณ์ของอาร์เซนอลในเวลานี้พวกเขามีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นพอๆ กับโควตาไปยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจะได้รับคำตอกย้ำถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่จากกวาร์ดิโอลาที่เผยว่า ซิตี้เล่นได้ดีกว่านี้ในเกมที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

สำหรับอาร์เซนอล นี่เป็นครั้งแรกที่สโมสรมีประตูได้เสียติดลบ รวมถึงพวกเขาไม่เคยเก็บชัยชนะได้น้อยขนาดนี้นับตั้งแต่ปี 1994/95 ที่พวกเขาจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 12 

 

สถานการณ์ในเวลานี้ของอาร์เซนอลเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับกุนซือที่ยังไม่มีประสบการณ์คุมทีมมาก่อน แต่การที่อาร์เตต้าเป็นชื่อที่สโมสรอาร์เซนอลเรียกหา เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าทางสโมสรมีความไว้วางใจเขาขนาดไหนในการพาสโมสรก้าวไปข้างหน้า 

 

Mikel Arteta

 

ชื่อของอาร์เตต้าเป็นชื่อแรกๆ ที่ถูกพูดถึงในวันที่เวนเกอร์ก้าวจากตำแหน่งผู้จัดการทีม แต่สุดท้ายก็เป็น อูไน เอเมรี ที่เข้ามารับตำแหน่งไปแทน

 

แต่มาถึงวันนี้ อาร์เตต้าก็ได้รับตำแหน่งกุนซือของทีมที่เขาเคยได้สัญญาไว้ในวันที่เขาเป็นนักเตะว่า หากเขาเป็นผู้จัดการทีมในอนาคต เขาจะนำพาสโมสรกลับสู่เส้นทางของเกมรุกที่กล้าแสดงออก และฟุตบอลที่มีความสนุกตื่นเต้นในการรับชม เหมือนในอดีต 

 

แต่ปัญหาใหญ่ของอาร์เซนอลที่ต้องเร่งแก้ไขในเวลานี้คือเกมรับ ซึ่งต้องการระบบ และระเบียบในพื้นฐานเกมรับให้กลับมาแข็งแกร่งก่อนที่จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ 


“ทุกครั้งที่ผมดูพวกเขาเล่น เมื่อใดก็ตามที่อีกฝั่งบุกมา กองหลังอาร์เซนอลก็ถอยหนี พวกเขาถอยหนีแทนที่จะเข้าเพรส และเข้าเพรสขณะที่ควรจะถอยมาดักรอ เหมือนกับว่าพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่’ เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล และนักวิเคราะห์ฟุตบอลของ Sky Sports เผยถึงปัญหาในเกมรับของอาร์เซนอล

 

Mikel Arteta

 

นอกจากปัญหาในกองหลังแล้ว อาร์เซนอลยังมีปัญหาเกมรับที่เกิดขึ้นในแดนกลางที่ขาดนักเตะมาช่วยสกรีน โดยปัจจุบันมีเพียงแค่ กรานิต ชากา ที่ขาดความเร็วและความคล่องตัว ขณะที่ ลูคัส ตอร์เรรา และ มัตเตโอ เกนดูซี ก็ยังขาดประสบการณ์

 

สิ่งที่อาร์เตต้าต้องทำคือการสร้างความเข้าใจในตำแหน่งให้กับนักเตะเหล่านี้ และเปลี่ยนทัศนคติในเกมรับให้กับนักเตะทั้งทีม แต่เขาจะมีเวลาในการปรับจูนมากขนาดไหน เพราะจากการเข้ารับตำแหน่งของเขา จะเป็นเหมือนกับกุนซือที่เป็นอดีตนักเตะของสโมสรหลายคน นั่นคือการรับตำแหน่งพร้อมกับแผนการระยะยาว 

 

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกฝ่ายคาดหวังให้มีพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับฟุตบอลเปลี่ยนโค้ชในทีมอื่นๆ 

 

ตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงเดือนมกราคม 2020 จะเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างทีมใหม่ของอาร์เตต้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับบอร์ดบริหารของสโมสรว่าพวกเขาพร้อมแค่ไหนที่จะไว้วางใจอาร์เตต้ากับวิธีการแก้ไขปัญหาของเขา 

 

ปัญหาใหญ่ที่สุดของอาร์เซนอลในเวลานี้คือ ภาวะผู้นำภายในทีมซึ่งประสบปัญหาอย่างหนักภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี ที่ผ่านมา แต่หากสโมสร แฟนบอล และ นักเตะพร้อมใจกันทำงานภายใต้การบริหารของอาร์เตต้า ด้วยความเชื่อที่ว่าอดีตกัปตันทีมจะนำพาดีเอ็นเอของสโมสรกลับมาสู่ทีมได้อีกครั้ง สุดท้ายชัยชนะอาจเริ่มกลับคืนสู่สโมสรแห่งนี้อีกครั้ง 

 

Mikel Arteta

 

ซึ่งเมื่อปี 2014 อาร์เตต้าได้แสดงภาวะความเป็นผู้นำด้วยให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังในการเป็นผู้จัดการทีมในอนาคตว่า 

 

“ปรัชญาของผมชัดเจน เราต้องการให้ทุกคนทุ่มเท 120% และนั่นคือสิ่งแรก ถ้าคุณไม่มีสิ่งนี้ คุณจะไม่ได้เล่นให้กับทีมผม 

 

“เมื่อใดก็ตามที่เราต้องทำงาน เราจะทำงานเท่านั้น และเมื่อใดก็ตามที่เรามีเวลาสนุก ผมก็จะเป็นคนแรกที่เริ่มต้น แต่ความทุ่มเทคือสิ่งที่สำคัญที่สุด 

 

Mikel Arteta

 

“สำหรับฟุตบอล ผมอยากให้ฟุตบอลของผมมีความกล้าแสดงออกและสนุก ผมไม่สามารถให้แผนการเล่นของผมขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้เพียงอย่างเดียว เราต้องเป็นคนควบคุมเกม เราต้องเป็นฝ่ายริเริ่มสิ่งต่างๆ ในเกม และเราต้องสร้างความสนุกตื่นเต้นให้กับคนที่มาดูเราเล่น

 

“ผมเชื่อมั่น 100% ในสิ่งเหล่านี้ และผมเชื่อว่าผมสามารถทำได้”

 

สำหรับโมเดลของการนำพาอดีตนักเตะกลับมาสู่สโมสรในฐานะผู้จัดการทีมถือว่าเป็นสิ่งที่หลายทีมกำลังทดลองทำ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าโมเดลนี้เกิดขึ้นจากความสำเร็จของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กับบาร์เซโลนาในอดีต 

 

แต่แท้จริงแล้วหลายสโมสรที่ทดลองเดินหน้าทำตามโมเดลนี้ยังไม่มีสโมสรใดสามารถยกระดับความสำเร็จได้เหมือนที่คาดหวังไว้ เนื่องจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลามีหลายปัจจัยที่เกินกว่าที่คาดเดาได้จากการตัดสินใจเพียงแค่อย่างเดียว 

 

แต่สำหรับ มิเกล อาร์เตต้า ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่กับคนคุ้นเคยที่ได้รับการไว้วางใจ จึงเป็นกุนซือที่น่าสนใจว่าจะนำพาอาร์เซนอลในยุคโพสต์เวนเกอร์ไปในทิศทางใด เมื่อวันนี้โอกาสที่เขารอคอยได้มาถึงแล้ว 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising