อาร์เซนอลในยุคใหม่ หลังจากที่ อาร์เซน เวนเกอร์ ปิดฉากการคุมทีม 22 ปีกับสโมสรลงเป็นที่เรียบร้อย กำลังเป็นที่จับตาว่าใครจะมาคุมทีมแทน โดยที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีความคาดหวังจากแฟนบอลว่าจะได้กุนซือระดับโลกอย่าง มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี แต่ล่าสุดประกาศยืนยันอยู่กับสโมสรยูเวนตุสต่อในฤดูกาลหน้า หรือ โธมัส ทูเคิล กุนซือชาวเยอรมนีซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์ลีกเอิงเป็นระยะ 2 ปี
ขณะนี้กุนซือที่สื่อต่างประเทศรายงานตรงกันว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ มิเกล อาร์เตต้า อดีตกองกลางชาวสเปนวัย 36 ปี ซึ่งเคยร่วมงานกับอาร์เซนอลในฐานะนักเตะมาแล้ว ซึ่งนอกจากอาร์เตต้าจะเป็นที่ชื่นชอบของบอร์ดบริหารอาร์เซนอลที่ต้องการกุนซือรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อความสำเร็จของอาร์เซน เวนเกอร์แล้ว ประสบการณ์ส่วนตัวของเขาก็ทำให้แฟนบอลตื่นเต้นได้ไม่น้อย
ช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาหลังจากอาร์เตต้าเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลในปี 2016 เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือสมองเพชรรีบเสนอตำแหน่งทีมงานที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้ทันที เนื่องจากทั้งคู่เป็นศิษย์จากสถาบัน ‘La Masia’ ของศูนย์เยาวชนของสโมสรบาร์เซโลนา และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าจะมีอายุห่างกันถึง 11 ปี
แต่เส้นทางเดินของเขาแยกไปคนละทาง โดยเป๊ปกลายเป็นดาวดังที่สโมสรบาร์ซา และนักเตะทีมชาติสเปนต่อด้วยกุนซือที่หลายคนให้การยอมรับว่าเป็นท่ีสุดของฟุตบอลสมัยใหม่ ขณะที่อาร์เตต้า เดินทางด้วยสถานะกองกลางชาวสเปนที่ไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาร่วมงานกันที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และจากการร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาอาจจะกลายเป็นเป๊ปคนต่อไปของวงการฟุตบอลก็เป็นได้
นอกจากนี้เมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังเคยไว้ใจอาร์เตต้าขนาดที่ให้เขาคุมทีมลงสนามพบกับอาร์เซนอลมาแล้ว รวมถึงเป๊ปยังได้ยกเครดิตการเรียกฟอร์มเก่ง ของราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษได้จากการฝึกซ้อมกับ มิเกล อาร์เตต้า
“มิเกิล อาร์เตต้า ทำงานหลายชั่วโมงเป็นเวลาหลายวันหลังการฝึกซ้อมทีมจบลง เกี่ยวกับการควบคุมร่างกายในช่วงเวลาสำคัญหน้าประตู ราฮีมต้องการอยู่ต่อหลังจากการฝึกซ้อมจบลงเพื่อพัฒนาการยิงประตู” เป๊ปได้ให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการทำงานของอาร์เตต้าที่ช่วยเรียกฟอร์มเก่ง และการยิงประตูของราฮีม สเตอร์ลิงกลับมาได้
นอกจากนี้ปรัชญาฟุตบอลของอาร์เตต้ายังมีความคล้ายคลึงกับเป๊ป กวาร์ดิโอลา เป็นอย่างมาก เมื่อปี 2016 เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ arsenal.com ไว้ว่า เขาต้องการคุมทีมแบบเน้นการครองบอล และเน้นการสร้างสรรค์เกมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความคล้ายกับการทำงานของอาร์เซน เวนเกอร์ และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ซึ่งอาร์เตต้ายกย่องให้เป็นตัวอย่างของผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก
“ปรัญชาของผมต้องชัดเจน ผมจะให้ทุกคนทุ่มเท 120% นั่นคือสิ่งแรก ถ้าคุณไม่ทำ คุณจะไม่ได้เล่นในทีมของผม”
“เมื่อถึงเวลาทำงาน คือเวลาทำงาน เมื่อเวลาที่จะสนุก ผมจะเป็นคนแรกที่เริ่มสนุก แต่ความทุ่มเทคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ผมต้องการให้ฟุตบอลของผมสามารถแสดงตัวตนออกมาได้ สนุกสนาน ผมไม่อยากให้ฟุตบอลของผมขึ้นอยู่กับทีมคู่ต่อสู้ เราต้องเป็นคนกำหนดเอง เราต้องเป็นคนเริ่มต้นสิ่งต่างๆ และที่สำคัญเราต้องเอ็นเตอร์เทนคนที่มาดูในสนาม”
นอกจากนี้อาร์เตต้ายังได้พูดถึงความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ว่าเป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาฟุตบอลที่เขาต้องการ
“ผมคิดว่าคุณต้องปรับตัวได้ คุณสามารถมีไอเดียของระบบ แต่คุณต้องสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามนักเตะที่คุณมี คุณมีนักเตะที่มีความเร็วมากแค่ไหน ทีมของคุณมีเทคนิคสูงหรือไม่ ความเสี่ยงแบบไหนที่ทีมคุณสามารถรับได้ และนักเตะของคุณสามารถรับความเสี่ยงนั้นได้หรือไม่”
“การวิเคราะห์นักเตะของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าคุณไม่สามารถเล่นแบบเดิมได้ตลอดเวลา คุณต้องเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของทีมตามสถานการณ์ คุณต้องดูว่าคุณสามารถโจมตีคู่แข่งที่อยู่ตรงหน้าได้ อะไรคือสิ่งที่ทีมคู่แข่งไม่ชอบทำ และเราต้องบังคับให้พวกเขาทำมันให้ได้มากที่สุด”
แต่ในความชื่นชอบในตัวกุนซือทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอลา และอาร์เซน เวนเกอร์ อาร์เตต้าดูจะมีปรัชญาการทำทีมที่คล้ายกับเป๊ปมากกว่า โดยเฉพาะการวางแผน และการกำหนดแผนการเล่นโดยละเอียด สำหรับทุกทีมไม่ว่าจะเป็นทีมลุ้นแชมป์หรือทีมที่อ่อนแอที่สุดในลีก
“สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้จัดการทีม ในคืนวันศุกร์ก่อนเกมจะเริ่ม คุณต้องจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ และเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในวันเสาร์กลายเป็นสิ่งที่คุณไม่คาดคิด แสดงว่าผมยังไม่ดีพอ”
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับแฟนอาร์เซนอลที่กำลังเฝ้ารอคอยผู้จัดการทีมคนใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996 ที่เวนเกอร์เข้ามาคุมทีม อาจไม่ใช่ฉายาที่บางคนมองว่าเขาคือ เป๊ป กวาร์ดิโอลาคนต่อไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจากการที่เขาได้มีโอกาสเรียนรู้จากอาร์เซน เวนเกอร์ ในฐานะนักเตะที่มองฟุตบอลเป็นศิลปะ และได้เรียนรู้จากเป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้ที่ใส่ใจรายละเอียดฟุตบอลอย่างใกล้ชิดในฐานะทีมงานผู้ฝึกสอน
การผสมผสานนี้อาจนำพาความสำเร็จใหม่มาสู่อาร์เซนอลยุคใหม่ก็เป็นได้
Photo: AFP
อ้างอิง:
- www.forbes.com/sites/cybrown/2018/05/16/mikel-arteta-would-bring-the-best-of-both-worlds-as-arsenal-manager/#227ff5fc285c
- www.goal.com/en-us/news/all-you-need-to-know-about-mikel-artetas-importance-to-pep/1sb79795r2ige1uo5984djkey4
- www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/manchester-city-news-pep-guardiola-reveals-secrets-raheem-sterling-form-a8036306.html
- www.skysports.com/football/news/11670/11375377/arsenal-to-hold-talks-with-mikel-arteta-over-managers-job