×

รอยร้าวแรกระหว่าง ‘อาร์เตตา-โอบาเมยอง’ กับบทเรียนของความเป็นผู้นำ

16.03.2021
  • LOADING...
รอยร้าวแรกระหว่าง ‘อาร์เตตา-โอบาเมยอง’ กับบทเรียนของความเป็นผู้นำ

North London is RED!

 

ไม่มีชัยชนะใดที่จะหอมหวานสำหรับเหล่ากูนเนอร์สมากไปกว่าการชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คู่ปรับและคู่แค้นตลอดกาลร่วมถิ่นลอนดอนตอนเหนือ

 

อาร์เซนอลแสดงให้เห็นถึงการเป็นทีม ที่ดีกว่าในชัยชนะ 2-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม แม้ว่าจะถูกทำประตูออกนำไปก่อนจากลูกยิง Rabona หรือลูกไขว้ ของ เอริก ลาเมลา ก็ตาม แต่ประตูของ มาร์ติน โอเดอการ์ด และจุดโทษของ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ก็ช่วยเปลี่ยนให้ลอนดอนตอนเหนือเป็นสีแดง

 

ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้กูนเนอร์สทั้งผองหัวใจฟู แม้จะไม่มีแฟนบอลอยู่ในสนามเลยแม้แต่คนเดียว แต่เหล่านักเตะและสตาฟฟ์ของทีมก็ฉลองชัยครั้งนี้แทนทุกคน

 

ยกเว้นคนเดียวที่ไม่อยู่ร่วมฉลองด้วยคือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ศูนย์หน้ากัปตันทีมที่ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมนี้

 

เหตุผลในการโดนดร็อปของโอบาเมยองไม่ใช่ความลับอะไร เพราะ มิเกล อาร์เตตา เปิดเผยชัดเจนว่า กัปตันทีมอาร์เซนอลมาไม่ทันเวลานัดหมายของทีม เป็นการกระทำผิดทางวินัย ซึ่งในฐานะผู้ดูแลทีม นายใหญ่ชาวสเปนไม่สามารถจะหลับตาข้างเดียวได้

 

โดยเฉพาะรู้กันอยู่ นี่คือเกมที่ใหญ่ สำคัญ และมีความหมายมากที่สุดสำหรับทุกคนที่สโมสร ในอีกฤดูกาลที่พวกเขามีโอกาสจะแล้งไร้ความสำเร็จและยังอยู่ห่างจากการเป็นทีมระดับท็อป ชัยชนะเหนือสเปอร์สคือยาชุบชูใจสำหรับวันนี้ และเป็นต้นทุนกำลังใจสำหรับวันข้างหน้าเป็นอย่างดี

 

แล้วเหตุใดกัปตันทีมอย่างโอบาเมยองจึงมาสาย?

 

กระบี่อาญาสิทธิ์ของอาร์เตตาที่ฟาดลงมายังดาวเตะชาวกาบอง ผู้ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดของสโมสร เป็นการประกาศกร้าวอย่างชัดเจนว่าไม่ว่าใครก็ตาม จะเก่งแค่ไหนก็ตาม หากไม่ปฏิบัติตามกฎของทีม ทุกคนจะต้องถูกลงโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น

 

เดิมทีโอบาเมยองมีชื่อเป็นผู้เล่น 11 ตัวจริง และเขาควรจะได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมเดินนำหน้าเด็กที่เป็นความหวังใหม่ของทีมลงสนาม

 

อาร์เซนอลเป็นสโมสรที่วันนี้ผลงานอาจจะยังไม่ดีเด่นเข้าตา แต่อย่างน้อยคนรักฟุตบอลก็รู้ว่าพวกเขามีนักเตะอนาคตไกลหลายคนอยู่กับทีม

 

คีแรน เทียร์นีย์ แบ็กซ้ายจอมบุกชาวสกอตแลนด์ เป็นแหล่งพลังงานทางฝั่งซ้ายที่ไม่มีวันยุบ 

 

กาเบรียล มาร์กัลเญส แข็งแกร่งและมีโอกาสจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก

 

เอมิล สมิธ โรว์ เพชรเม็ดงามที่ถูกค้นพบในฤดูกาลนี้ เป็นกองกลางตัวทำเกมสมัยใหม่ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้อาร์เซนอลเล่นกันเป็นโล้เป็นพาย หลังประสบช่วงเวลาปัญหาหนักในครึ่งแรกของฤดูกาล

 

และ มาร์ติน โอเดอการ์ด ที่ได้รับการเปรียบเปรยว่า เป็น ‘ศิลปินลูกหนังผู้ไม่กลัวการทำงานหนัก’ ในขณะที่เท้าซ้ายของเขาเหมือนไม้เท้าวิเศษ แต่ก็ไม่อิดออดที่จะวิ่งไล่บอลเหมือนนักสู้คนอื่นๆ และประตูในเกมดาร์บีมีโอกาสจะเป็นการปลดล็อกให้กับเด็กคนนี้ด้วย

 

เหล่านี้คืออนาคตของทีมที่ควรจะได้เดินตามรอยของผู้นำที่ดี คนที่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เหมือนเช่น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ระดับฝีเท้าและพรสวรรค์มีขีดจำกัด แต่ใช้ความมานะและการวางตัวที่ดี จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่น่ายกย่องที่สุดในเกมฟุตบอล

 

ทั้งนี้ แม้ว่าอาร์เตตาจะยืนยันในระหว่างการให้สัมภาษณ์หลังเกมจบลงว่า เรื่องนี้ ‘จบแล้ว’ สำหรับเขาและพร้อมที่จะ ‘เดินหน้ากันต่ออีกครั้ง’ ที่เหลือจะเป็นการจัดการกันภายใน

 

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในระหว่างที่กุนซือชาวสเปนกำลังให้สัมภาษณ์กับสื่ออยู่นั้น โอบาเมยองไม่ได้อยู่ในสนามแล้ว เสียงเครื่องยนต์ม้าลำพองของรถเฟอร์รารีคันเก่งของเขาดังกระหึ่มชนิดที่ใครได้ยินก็ต้องรู้ว่านี่คืออาชาตัวเก่งของสตาร์วัย 31 ปี

 

ตามการเปิดเผยจาก The Athletic ในระหว่างที่ทีมกำลังฉลองกันหลังจบเกม โอบาเมยองได้วิ่งกลับเข้าอุโมงค์สนามทันที และในขณะที่สตาฟฟ์กำลังนำวอร์มดาวน์ให้กับผู้เล่นและอาร์เตตาให้สัมภาษณ์กับสื่อ เขาก็ได้ขับรถออกไปจากสนามแล้ว โดยไม่คิดที่จะแวะทักทายหรือร่วมฉลองไปกับแฟนกูนเนอร์สบางส่วนที่มารออยู่ในละแวกใกล้สนามด้วย

 

เรียกได้ว่าเขามาถึงสนามเป็นคนสุดท้าย และกลับออกจากสนามเป็นคนแรก

 

ก่อนหน้านี้โอบาเมยองเคยทำผิดกฎและปรากฏเป็นข่าว เช่น การพลาดการตรวจหาโควิด-19 ก่อนเกมสโมสรยุโรป และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ด้วยการไปสักบนร่างกาย

 

และมีรายงานว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาสายด้วย

 

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นกัปตันทีมที่ได้รับการคัดเลือกมาจากการโหวตของผู้เล่นด้วยกันในทีม ยังคงเป็นนักเตะที่ได้รับความชื่นชอบจากเพื่อนร่วมทีม และเดิมก็ไม่เคยมีประวัติเสียหายในเรื่องของความประพฤติ แต่อาร์เตตาก็ปล่อยผ่านไม่ได้

 

สิ่งที่น่าจับตามองต่อจากนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน

 

ความเด็ดขาดของอาร์เตตาเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าเขาคาดหวังจากโอบาเมยองมากกว่านี้มาก ไม่เช่นนั้นคงไม่พยายามเกลี้ยกล่อมอย่างหนักจนยอมต่อสัญญาใหม่ ซึ่งถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของเขาและสโมสร

 

อีกอย่างกุนซือผู้นี้เองก็เคยเป็นกัปตันอาร์เซนอลมาก่อนเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายอาชีพการเล่นของอดีตมิดฟิลด์ห้องเครื่องชาวสเปนที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ซึ่งอาร์เตตารู้ดีว่าทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ต้องมีผู้นำที่ยิ่งใหญ่ด้วย

 

ในอดีตอาร์เซนอลเคยมี โทนี อดัมส์, ปาทริก วิเอรา และเธียร์รี อองรี ในยุคทองของ จอร์จ เกรแฮม และ อาร์แซน เวนเกอร์

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาไม่ได้มีผู้นำที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้อีก ไม่ว่าจะเป็น วิลเลียม กัลลาส (ผู้นั่งงอนอยู่กลางสนาม), โธมัส แฟร์มาเลน (เจ็บบ่อยจนอาจจะเรียกว่าแวะมาเล่น), แพร์ แมร์แตซัคเกอร์ (ผู้นำที่ยอดเยี่ยมแต่ร่างกายเปราะบาง) หรือ กรานิต ชากา ที่ไม่ได้มีวุฒิภาวะของผู้นำเลย

 

นักเตะที่คาดหวังได้มากกว่าอย่าง เชสก์ ฟาเบรกาส หรือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ก็ไม่อาจทนอยู่กับทีมที่ล้มเหลวได้ แม้แต่ โลร็องต์ กอสเซียลนี ก็ย้ายออกหลังจากได้รับปลอกแขนแค่ฤดูกาลเดียว

 

ด้วยวัยและฝีเท้า โอบาเมยองมีความพร้อมไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่น สิ่งที่เขาอาจจะขาดคือความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ที่ไม่ใช่จะสร้างกันได้ตามบุคลิกแล้ว

 

แต่อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะพยายามได้ดีกว่านี้

 

มีความเป็นไปได้ที่หลังจากนี้โอบาเมยองอาจจะตระหนักถึงบทบาทของตัวเองและกลับมาตั้งใจใหม่เป็นผู้นำที่ดีจริงๆ ของกันเนอร์ส

 

และมีความเป็นไปได้เช่นกันที่รอยร้าวเล็กๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองจะปริแตกกว้างกว่าเก่าจนยากจะต่อ

 

เมื่ออาร์เตตาได้เลือกจุดยืนของเขาแล้ว

 

ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวของโอบาเมยองเองว่าจะเลือกแบบไหน

 

ป.ล. หลังเกิดเหตุการณ์ ยังไม่มีการออกมาขอโทษจากโอบาเมยองแต่อย่างใด มีแต่การโพสต์ภาพและข้อความว่า ‘North London is Red and that’s it!’

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising