หน่วยเลือกตั้งในหลายรัฐของสหรัฐฯ ทยอยเปิดให้ประชาชนเข้าลงคะแนนในการเลือกตั้งกลางเทอมในวันนี้ (8 พฤศจิกายน) โดยรัฐแรกที่เปิดหีบลงคะแนนคือรัฐเวอร์มอนต์ ทางตะวันออกของสหรัฐฯ เมื่อเวลา 05.00 น. ตามเขตเวลาตะวันออก (EST) หรือประมาณ 17.00 น. ตามเวลาในไทย ตามด้วยรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต และรัฐอื่นๆ แถบชายฝั่งตะวันออก
การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการกำหนดอนาคตในการบริหารรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวาระ 2 ปีหลัง โดยมีการเลือก ส.ส. ทั้งหมด 435 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิกอีก 35 ที่นั่ง จาก 100 ที่นั่ง รวมถึงมีการลงคะแนนเลือกผู้ว่าการใน 39 รัฐและเขตแดนของสหรัฐฯ ตลอดจนการเลือกตั้งทั้งในระดับรัฐและระดับท้องถิ่นอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ 6 รัฐที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นศูนย์กลางของการเลือกตั้งกลางเทอมรอบนี้คือ รัฐแอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน และเนวาดา โดย 5 รัฐแรกไบเดนพลิกกลับมาชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 หลังจากที่ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครเดโมแครตในเวลานั้น แพ้ให้โดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2016
ทั้ง 6 รัฐดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นรัฐ Swing State หรือรัฐที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมีการแข่งขันอย่างสูสี โดยผลเลือกตั้งใน 6 รัฐนี้อาจชี้ชะตาว่าพรรคใดจะได้ครองอำนาจเสียงข้างมากในวุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร และอำนาจรัฐบาลระดับรัฐ และอาจกระทบไปถึงการบริหารนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลไบเดน ทั้งเรื่องสิทธิในการทำแท้ง นโยบายเศรษฐกิจ การศึกษา และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ในบางรัฐ แต่กระทบไปทั่วประเทศ
ขณะที่การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังประสบปัญหา อีกทั้งประชาชนทั่วประเทศยังมีความกังวลต่อปัญหาอาชญากรรมและปัญหาผู้ลักลอบอพยพ ซึ่งผลการเลือกตั้งนอกจากจะมีผลอย่างยิ่งต่อการทำหน้าที่ของประธานาธิบดีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นอาจส่งผลไปถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 ซึ่งเป็นไปได้ว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจลงชิงตำแหน่งอีกครั้งในนามพรรครีพับลิกัน
ภาพ: JEFF KOWALSKY / AFP
อ้างอิง: