Microsoft (MSFT) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 ออกมา (หรือตรงกับช่วงไตรมาส 3 ปีงบการเงินบริษัท) และพบว่าบริษัทมีรายได้รวมในช่วงไตรมาสนี้อยู่ที่ 41,706 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่ 19% ซึ่งรายได้ที่สูงเช่นนี้ส่งผลให้พวกเขาสามารถกวาดรายรับรวมรายไตรมาสได้สูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2018 (อ้างอิงจากข้อมูลโดย CNBC)
ขณะที่ในช่วงไตรมาสแรกนี้ Microsoft มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15,457 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.85 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากถึงกว่า 43.7%
สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของ Microsoft เปิดเผยหลังบริษัทปิดงบไตรมาสแรกด้วยตัวแรกสุดสวยหรูว่า “ตลอดปีแห่งโรคระบาดที่ผ่านมา การ Adopt ใช้งานโลกดิจิทัลไม่ได้มีทิศทางลดลงเลย ตรงกันข้าม มันกลับเติบโตอย่างรวดเร็ว และในเวลานี้มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น พวกเราได้สร้างแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับรองรับการใช้งานในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ขยายตลาดของเราและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในทุกๆ เลเยอร์ของภาคส่วนและมิติของเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานและลูกค้าของเรายืดหยุ่น และพร้อมสำหรับการทรานส์ฟอร์ม”
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การที่ Microsoft ฟันรายรับรวมในช่วงไตรมาสแรกของปีได้สวยหรูเช่นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากการที่ธุรกิจคลาวด์ของพวกเขาได้รับความนิยมจากภาคองค์กร บริษัทเอกชนต่างๆ โดยพบว่า ไตรมาสแรกปี 2021 กลุ่มผลิตภัณฑ์ Cloud Azure มีอัตราการเติบโตในเชิงรายได้โดดเด่นเหนือทุกๆ แผนกธุรกิจที่ระดับ 50% รองลงมาคือ Dynamics 365 กลุ่มผลิตภัณฑ์บริหารทรัพยากรองค์กรที่มีอัตราการเติบโต 45% และบริการและคอนเทนต์ของเครื่องเกมคอนโซล Xbox ที่มีอัตราการเติบโตระดับ 34%
ด้าน CFO ของบริษัท เอมี ฮู้ด ระบุว่า Microsoft Cloud ซึ่งเป็นโซลูชันแบบ End-to-end ที่ทาง Microsoft ได้นำเสนอให้กับลูกค้านั้น สามารถทำรายได้ให้กับธุรกิจคลาวด์เชิงพาณิชย์ได้มากถึง 17,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากถึง 33% สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจในกลุ่มคลาวด์ที่มีต่อศักยภาพในการเดินหน้าหารายได้ และทิศทางการพัฒนาธุรกิจในอนาคตของบริษัทได้เป็นอย่างดี
สำหรับหุ้นของบริษัท Microsoft ปิดตลาดเมื่อวันองคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ที่ราคา 261.97 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น 0.16% จากวันก่อน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
