ยักษ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่าง Microsoft ออกมาเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะๆ ทั้งการเปิดตัวเสิร์ชเอนจิน Bing เวอร์ชันใหม่ ที่มีการเพิ่มแชตบอตที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีภาษา GPT- 4 ของ OpenAI ทำให้เสิร์ชเอนจิน Bing มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีกหลายคน และสามารถแปลงข้อความเป็นภาพและวิดีโอได้ดีกว่า GPT-3
จากนั้นไม่นาน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Google ได้ออกมาประกาศว่าจะนำเทคโนโลยีการแชตที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้งานใน Gmail และ Google Docs ช่วยให้สามารถเขียนอีเมลหรือเอกสารได้
ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ หรือที่เรียกว่า Copilot เข้ามาใช้ในโปรแกรมพื้นฐานอย่าง Word, Excel และ PowerPoint
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Microsoft ทุ่มอีกหมื่นล้านดอลลาร์ ลงทุน OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT
- กลุ่มบิ๊กเทคจีนเร่งพัฒนา AI Chatbot ท้าประลอง ChatGPT แต่ผู้เชี่ยวชาญมองการเซ็นเซอร์ และกำกับจากภาครัฐอาจเป็นอุปสรรค
- รู้จัก ‘ChatGPT’ แชตบอตโด่งดังสุดอัจฉริยะ ที่กำลังเขย่าโลก ‘AI’ และอาจจุดชนวน Tech Disruption อีกครั้ง
สำหรับฟีเจอร์ Copilot จะไม่ได้เป็นเพียงการบริการที่เหมือนกับ ChatGPT แต่จะมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยสามารถร่างเอกสารได้เร็วขึ้น และยังสามารถแก้ไขและทำซ้ำได้ ถือว่าช่วยลดขั้นตอนในกระบวนการทำงานได้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี AI อย่าง ChatGPT และ Copilot อาจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้ในบางครั้ง ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้ Microsoft ได้เปิดตัวเสิร์ชเอนจิน Bing เวอร์ชันใหม่ จากเทคโนโลยี GPT-4 ที่สร้างขึ้นโดย OpenAI หากสังเกตจะเห็นว่าเครื่องมือดังกล่าวให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องตามความจริง และแน่นอนว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบทสนทนา
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เช่น Noah Giansiracusa และ Gary Marcus เริ่มกังวลเกี่ยวกับฝั่งผู้ใช้งานที่อาจเชื่อมั่นในระบบซอฟต์แวร์มากเกินไป และมุ่งให้ใช้เครื่องมือคำแนะนำอย่าง ChatGPT จนอาจได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดได้ โดยเฉพาะข้อมูลด้านสุขภาพและการเงิน ดังนั้น Microsoft จึงไม่อาจเพิกเฉยกับเทคโนโลยี AI ที่คลาดเคลื่อนได้
Jaime Teevan หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Microsoft กล่าวว่า เราศึกษา AI มานานหลายปี และสิ่งสำคัญที่สุดคือก่อนจะนำเครื่องมือใหม่ๆ ไปให้ผู้คนได้ใช้ จะต้องมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด
เบื้องต้น Microsoft กำลังทดสอบ Copilot กับลูกค้าองค์กรราวๆ 20 ราย เพื่อรับข้อเสนอและนำมาแก้ไขการบริการให้ได้อย่างรวดเร็ว
โดยผู้บริหาร Microsoft ได้กล่าวถึง Copilot ว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ แม้ว่าผู้ใช้งานอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงบ้าง แต่ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ และยังสามารถส่งอีเมลให้เสร็จได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลายคนยังไม่เชื่อว่าจะมีบริษัทไหนที่สามารถสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเชื่อถือได้เต็มที่ รวมถึง Copilot ด้วย
อ้างอิง:
