หน่วยงานกำกับการต่อต้านการผูกขาดของสหราชอาณาจักรแถลงว่า การเสนอซื้อกิจการยักษ์ใหญ่ด้านเกมอย่าง Activision Blizzard ของ Microsoft มูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จะทำให้ Microsoft กลายเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจคลาวด์เกมเป็นอย่างมาก และนั่นอาจส่งผลร้ายต่อวงการเกมในสหราชอาณาจักรและเพิ่มอุปสรรคในการออกกฎระเบียบให้แก่ตลาดเกมทั่วโลก
Competition and Markets Authority (CMA) หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันของสหราชอาณาจักร เสนอให้ Microsoft แยกการซื้อ Activision ซึ่งเป็นสตูดิโอผู้สร้างแฟรนไชส์เกมยักษ์ใหญ่อย่าง Call of Duty ออกจากดีลในครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ใครๆ ก็มี ChatGPT เป็นของตัวเองได้! Microsoft มีแผนที่จะเปิดตัวซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้บริษัทขนาดใหญ่สร้างแชตบอตในรูปแบบเฉพาะตัว
- Microsoft เผยกำไรไตรมาสล่าสุดดีเกินคาด แรงหนุนธุรกิจคลาวด์เติบโตสวนทางยอดขาย Windows และ Office 365
- Google ต้องกลัวจริงหรือ? เมื่อ Microsoft เกทับว่าเป็นผู้นำวิวัฒนาการยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ต หลังเปิดตัว ‘Bing-Edge’ ที่ผสานรวมกับ ChatGPT
อีกทางเลือกหนึ่งคือ กำหนดให้เกม Call of Duty สามารถใช้งานกับผู้ผลิตเกมคอนโซลที่เป็นคู่แข่งอย่าง Sony ได้เช่นเดียวกันกับ Xbox ของ Microsoft
CMA ระบุว่าจะขอให้ทั้งสองบริษัทได้เสนอวิธีคลายความกังวล และจะตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่าจะให้ข้อตกลงดำเนินการต่อไปในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้หรือไม่
ทั้งนี้ Microsoft และ Activision สามารถอุทธรณ์คำตัดสินของ CMA ได้หากขัดกับข้อตกลงในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจดำเนินต่อไปอีกหลายเดือนหรือหลายปี ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงดังกล่าวต้องเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเช่นกัน
โดย Microsoft ได้กล่าวเมื่อวันพุธ (8 กุมภาพันธ์) ว่าบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอทางออกที่มีประสิทธิภาพและเห็นพ้องตรงกันระหว่าง Microsoft และ CMA ยังคงยึดมั่นในการให้สิทธิ์เข้าถึงเกมซีรีส์ Call of Duty ในระยะยาวอย่างเท่าเทียมกันบนแพลตฟอร์มคู่แข่ง รักษาผลประโยชน์ของข้อตกลงต่อเกมเมอร์และนักพัฒนา และเพิ่มการแข่งขันในตลาดเกม
CMA กล่าวว่าการสืบสวนในข้อตกลงนี้ จะรวมถึงการรับฟังผู้นำของ Microsoft และ Activision การเยี่ยมชมสถานที่ และการวิเคราะห์เอกสารภายในมากกว่า 3 ล้านฉบับจากบริษัทต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจมุมมองของพวกเขาที่มีต่อตลาดเกม
หน่วยงานกำกับดูแลยังกล่าวอีกว่าได้ทำแบบสำรวจจากเกมเมอร์ในสหราชอาณาจักรจำนวน 40,000 คน และรวบรวมหลักฐานจากผู้ผลิตคอนโซลรายอื่น ผู้เผยแพร่เกม และผู้ให้บริการคลาวด์เกม
หน่วยงานทั่วโลกกำลังจับตาควบคุมข้อตกลงนี้
ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ ฟ้อง Microsoft หวังขัดขวางข้อตกลงดังกล่าว พร้อมกล่าวว่าเป็นดีลที่ผิดกฎหมาย เพราะจะทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์สามารถควบคุมผู้บริโภคนอกเหนือจากผู้ใช้คอนโซล Xbox และบริการสมัครสมาชิกเข้าถึงเกมของ Activision ซึ่งบริษัทสามารถเพิ่มราคาสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ฮาร์ดแวร์ของ Microsoft ในการเข้าถึงเกม หรือแม้แต่ตัดการเข้าถึงทั้งหมดก็ย่อมสามารถทำได้
ซึ่ง Microsoft แถลงว่าข้อตกลงนี้เป็นผลดีโดยพื้นฐานต่อเกมเมอร์ นักพัฒนา และการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเกม อีกทั้งบริษัทระบุว่าไม่ใช่ผู้ผลิตคอนโซลหรือผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม
ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป ได้เปิดการสอบสวนเชิงลึกเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเช่นกัน และได้ขยายกำหนดเส้นตายสำหรับการตัดสินใจขั้นสุดท้ายถึงการควบรวมกิจการไปจนถึงวันที่ 11 เมษายนในปีนี้
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ได้ประกาศไว้ที่งานประจำปีของ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าบริษัทมีความมั่นใจในการปิดดีลดังกล่าว โดยบริษัทจะยังมีมูลค่า 6.87 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังหักจากเงินสดสุทธิที่ต้องปรับไว้ให้ Activision
อ้างอิง: