ตอนที่ Michael Jackson เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2009 จากภาวะหัวใจวายเฉียบพลันที่ลอสแอนเจลิสในวัยเพียง 50 ปี ปรากฏว่าเขามีหนี้จำนวนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.84 หมื่นล้านบาท กับเจ้าหนี้กว่า 65 ราย ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการยื่นเอกสารต่อศาลให้ผู้จัดการมรดกของเขาชดใช้เงินย้อนหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ค่ำคืนก่อนที่ Michael Jackson จะเสียชีวิตนั้น เขากำลังซ้อมใหญ่ติดต่อกัน 6 ชั่วโมงอยู่ที่ลอสแอนเจลิสสำหรับโชว์ระยะยาวอย่าง This Is It ที่มีกำหนดแสดงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2009 จนถึงเดือนมีนาคม 2010 ณ The O2 Arena แห่งกรุงลอนดอน ซึ่งเขาก็ทำงานอย่างหนัก ทั้งซ้อมคอนเสิร์ตให้ออกมาสมบูรณ์แบบและยังเขียนเพลงใหม่เอาไว้อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม มีการรายงานว่า ด้วยนิสัยใช้เงินฟุ่มเฟือยของเขา ทำให้เขาต้องการเงินสำหรับจ่ายชดใช้หนี้จำนวนปีละ 30 ล้านดอลลาร์
โดยผู้ตรวจสอบบัญชีนามว่า William R. Ackerman ให้การบนชั้นศาลในคดีสืบสวนเรื่องการตายของ Michael Jackson เมื่อปี 2013 ในฐานะพยานฝ่ายจำเลยในนามของ AEG Live ถึงวิถีการใช้จ่ายของ Michael Jackson ว่าเขาใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับการบริจาคเพื่อการกุศล ของขวัญ งานศิลปะ เครื่องประดับ และเฟอร์นิเจอร์ และเขาก็สิ้นเนื้อประดาตัวไปแล้ว
ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1993 Michael Jackson เริ่มสั่งสมหนี้สินจำนวนมาก จนกระทั่งปี 1998 เขาเป็นหนี้ถึง 140 ล้านดอลลาร์ และในระหว่างปี 2001 จนถึงปี 2009 หนี้ของเขาก็พอกพูนไปจนถึง 170 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Ackerman ยังให้การอีกว่า Michael Jackson กู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ตั้งแต่จำนวนน้อยกว่า 7% ไปจนถึง 16.8% โดยเขาใช้เงินส่วนแบ่งจากแคตตาล็อกเพลงจำนวน 270 ล้านดอลลาร์ เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินจาก Bank of America ในแต่ละครั้ง
อย่างไรก็ตาม อดีตซีอีโอแห่ง AEG Live เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า ในช่วงท้ายของชีวิต Michael Jackson พร้อมที่จะหยุดใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายและกลับมาตั้งใจทำงานหาเงิน แต่เขาก็เสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งการเสียชีวิตของเขาก็ส่งผลให้เกิดความเสียหายจำนวนมหาศาล และทำให้เขาเป็นหนี้คอนเสิร์ตโปรโมเตอร์อย่าง AEG จำนวน 40 ล้านดอลลาร์ โดยในเดือนมีนาคม 2024 ทนายผู้จัดการมรดกของเขาได้เผยว่า Michael Jackson เกือบจะมีสถานะล้มละลายตอนที่เขาจากไป แต่ในตอนนี้มรดกของเขาก็มีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์
Michael Jackson ถูกยื่นฟ้องมากกว่า 6 คดีจากทั่วโลก และมีเจ้าหนี้มากกว่า 65 ราย และนับตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิต ทนายของเขาต้องรับมือกับการฟ้องร้อง 15 คดีในสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงในยุโรปและประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่คดีเหล่านี้จบสิ้นไปแล้ว
ภาพ: Pete Still / Redferns
อ้างอิง:
