ไมเคิล เบอร์รี นักลงทุนชื่อดังผู้สร้างตำนานในช่วง ‘ซับไพรม์’ ได้แสดงมุมมองผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว Cassandra B.C. (@michaeljburry) ว่าการตรวจสอบบัญชี ‘Proof of Reserve’ ในบริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ’ไร้ความหมาย’
โดยเบอร์รีทวีตว่า “ในปี 2005 ตอนผมเริ่มใช้เครื่องมือทางการเงินรูปแบบใหม่ใน ‘Credit Default Swap’ ตอนนั้นพวกนักตรวจสอบบัญชียังเรียนรู้กันใหม่อยู่เลย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย และมันก็กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้กับ FTX, Binance และอื่นๆ ซึ่งการตรวจสอบบัญชีสำหรับกรณีนั้นไร้ความหมาย”
การทวีตนั้นเป็นการแสดงความเห็นต่อจากข่าวที่ทาง Mazars บริษัทตรวจสอบบัญชีสัญชาติฝรั่งเศส ที่ได้รับการจ้างโดย Binance และบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีดังอีกหลายแห่ง เพื่อจัดทำรายงาน Proof of Reserve หรือ PoR ซึ่ง Mazars ได้ประกาศหยุดรับลูกค้าด้านคริปโตไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ธันวาคม)
ซึ่งไอเดียการทำ Proof of Reserve นั้นมาจาก Binance ที่ต้องการออกมาเรียกความมั่นใจให้นักลงทุนในสินทรัพย์ที่ฝากกับทางบริษัท และยืนยันความโปร่งใส หลังเกิดประเด็น FTX ล้มละลายในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
แต่นักวิเคราะห์จำนวนมากต่างมองว่า Proof of Reserve นั้นไม่ชัดเจนเท่าใดนัก และอาจทำให้นักลงทุนเข้าใจเรื่องประเด็น ‘ความเสี่ยงและความโปร่งใส’ ผิดไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
- สรุปการล่มสลายของ FTX ที่อาจจุดชนวนวิกฤตในตลาดคริปโต
- การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
อ้างอิง: