วันนี้ (18 มิถุนายน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินหน้ายกระดับผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ให้มีการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ มุ่งเน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยล่าสุดได้ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา 19 แห่ง เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘Future Skill x New Career Thailand’ อย่างเป็นทางการ โดยเป็นการนำร่อง 30 หลักสูตรในเบื้องต้น ซี่งส่วนมากเป็นรูปแบบเรียนฟรีที่รัฐให้การสนับสนุน มีเพียงบางหลักสูตรที่อาจจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1,000 บาท เพื่อให้ผู้ว่างงาน แรงงานคืนถิ่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ บัณฑิตที่กำลังจบการศึกษาได้สร้างงาน สร้างอาชีพด้วยตนเอง
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า การอยู่ในศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่แค่รับมือเทคโนโลยีที่จะมาดิสรัปชัน แต่ยังมีเรื่องของภัยคุกคามต่างๆ มากมาย และที่ได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาคธุรกิจอย่างรุนแรง สถานประกอบการหลายแห่งต้องหยุดประกอบการ แรงงานได้รับผลกระทบทางตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยถูกเลิกจ้าง ซึ่งกระทรวง อว. เล็งเห็นถึงปัญหานี้ และจะต้องเร่งพัฒนาทักษะให้กลุ่มผู้ว่างงาน แรงงานคืนถิ่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระให้ที่มีศักยภาพพร้อมทำงานหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อเพิ่มผลิตภาพให้กับธุรกิจและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ มีการระดมสรรพกำลังของสถาบันอุดมศึกษาทั้งรัฐและเอกชนในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ดำเนินโครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ (Reskill / Upskill / Newskill) เพื่อการมีงานทำและการเตรียมความพร้อมรองรับการทำงานในอนาคตหลังวิกฤตโควิด-19 ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้มีงานทำอย่างเร่งด่วน มุ่งพัฒนาวิชาชีพตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อการมีงานทำ ประกอบด้วย
- กลุ่มทักษะสำหรับอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming)
- ทักษะการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ (Care Giver)
- ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอัจฉริยะ (Smart Tourism)
- ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล ด้านการจัดการข้อมูลดิจิทัล (Data Science)
- ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร (Food for the Future)
- ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม (Robotic and AI)
- ทักษะเพื่อการพัฒนาสู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรม (Smart Innovative Entrepreneur)
- ทักษะการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์ (Creative Content) และอื่นๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ
ทางด้าน รศ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า สำนักงานปลัดฯ (สป.อว.) ได้สนับสนุนงบประมาณรวมทั้งสิ้น 14 ล้านบาท ให้สถาบันอุดมศึกษาพัฒนาหลักสูตรเสริมทักษะที่เป็นหลักสูตรฝึกอบรม (Non Degree) เพื่อเป็นการลงทุนในมนุษย์และให้ปัญญามนุษย์ในการต่อสู้กับโควิด-19 อย่างแท้จริง และรับมือการอยู่ในโลกศตวรรษที่ 21 ที่เทคโนโลยีมาดิสรัปชัน
ดังนั้นทักษะต่างๆ แรงงานจะต้องขยับไปข้างหน้าตาม Future Skill Set ได้แก่ สาขาอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ สาขาอุตสาหกรรมดิจิทัล สาขาอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ สาขาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร สาขาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ สาขาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ สาขาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ สาขาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ สาขาอุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยี สาขาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร สาขาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และสาขาอุตสาหกรรมพัฒนาทักษะและกำลังคน
ขณะเดียวกัน ดร.อรสา ภาววิมล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า โครงการนี้มีสถาบันอุดมศึกษานำร่องที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหารโครงการของ อว. จำนวน 19 แห่ง ในหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non Degree) มีมหาวิทยาลัยของรัฐ 17 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแม่โจ้, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และมีมหาวิทยาลัยเอกชนนำร่อง 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ได้พิจารณาคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ประกอบด้วย
- หลักสูตรที่เสนอต้องตรงกับความเชี่ยวของสถาบันอุดมศึกษา
- สามารถระบุความต้องการและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและผูกโยงกับการได้งานทำ และการทำงานที่มีคุณภาพ
- หลักสูตรสามารถระบุทักษะที่มีมาตรฐานพร้อมวิธีวัดและประเมินผล
- แต่ละหลักสูตรต้องมีผู้เข้ารับการอบรมไม่น้อยกว่า 30 คน
- วิทยากรมีคุณวุฒิและประสบการณ์เพียงพอในการถ่ายทอดความรู้
- มีอุปกรณ์ เครื่องมือพื้นฐานเพียงพอต่อการจัดอบรม
- มีการประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานทั้งก่อนและหลังการอบรม
นอกจากนี้ได้จัดให้มีกระบวนการ Post Audit เพื่อการรับรองหลักสูตร ซึ่งหลักสูตรที่ผ่านการรับรองจะได้รับการส่งเสริมให้สามารถสะสมหน่วยกิตเพื่อรับปริญญาได้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทย
อย่างไรก็ตาม ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานกรรมการบริหารการส่งเสริมและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะชั้นสูงตามความต้องการของประเทศ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 นอกจากจะสร้างผลกระทบทางสุขภาพ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นตัวเร่งที่ทำให้อาชีพหลายๆ อาชีพในสังคมหายไป และเชื่อว่าหลังจากสถานการณ์นี้จบลงแล้ว อาชีพจำนวนไม่น้อยก็ยังยากที่จะกลับมาได้เหมือนปกติ บางอาชีพอาจจะไม่ฟื้นตัวอีกเลยก็เป็นไปได้ หรือที่กลับมาก็จะเป็นแบบเดิมๆ ทำให้สังคมไทยเราเผชิญกับวิกฤตซ้ำซาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจำเป็นต้อง Reskill Upskill แพลตฟอร์ม Future Skill x New Career Thailand ของกระทรวง อว. จะเป็นการยกระดับศักยภาพคนไทยให้มีทักษะพร้อมรับมือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ช่วยเพิ่มทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพจากหลักสูตรที่หลากหลาย มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทักษะในผู้เรียนได้อย่างแท้จริงและมีคุณภาพ โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ (18 มิถุนายน) ทาง www.futureskill-newcareer.in.th ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/FutureSkillNewCareerThailand/ หรือ LINE: @fsncth
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า