×

พริษฐ์แจงปมสอบ 2 สส. คุกคามทางเพศ ย้ำโหวตขับไชยามพวานพ้นพรรค ยืนยันทุกอย่างอยู่บนหลักการ

โดย THE STANDARD TEAM
02.11.2023
  • LOADING...
พริษฐ์ วัชรสินธุ

วันนี้ (2 พฤศจิกายน) พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ชี้แจงผ่าน X (Twitter) กรณีที่ประชุมร่วมกันของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกล หาข้อยุติกรณีเรื่องร้องเรียนกล่าวหา 2 สส. ของพรรคก้าวไกลมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ คือ วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส. ปราจีนบุรี และ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม 

 

โดยระบุข้อความว่า อย่างที่หลายคนทราบจากแถลงการณ์ของหัวหน้าพรรคเมื่อคืน (1 พฤศจิกายน) ว่าในส่วนของข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศของ สส. ก้าวไกลใน 2 กรณี กรรมการบริหารพรรคได้พิจารณาข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า ทั้ง 2 กรณีมีพฤติการณ์ที่คุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรงของพรรค โดยเสนอให้ขับพ้นจากสมาชิกพรรค 

 

เมื่อมีข้อเสนอดังกล่าว รัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดไว้ว่า การขับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเป็นการลงมติในที่ประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมการบริหารพรรค โดยการลงมตินั้นจะต้องได้รับเสียง 3 ใน 4 ของจำนวน สส. และกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ (ไม่ใช่แค่ที่มาประชุม) ซึ่งจะอยู่ที่จำนวน 116 เสียง จาก 154 เสียง ผลที่ปรากฏจากการลงมติของ สส. และกรรมการบริหารพรรคที่มาร่วมประชุมทั้งหมด 128 คน 

 

  1. กรณี วุฒิพงศ์ ทองเหลา (สส. ปราจีนบุรี) 120 คนลงมติให้ขับออก จึงทำให้การขับออกเกิดขึ้นได้ (เนื่องจากมากกว่า 116 เสียง ตามเกณฑ์ 3 ใน 4) 

 

  1. กรณี ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ (สส. กทม.) 106 คนลงมติให้ขับออก จึงทำให้การขับออกยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ (เนื่องจากน้อยกว่า 116 เสียง ตามเกณฑ์ 3 ใน 4) 

 

ผมเข้าใจดีว่า สส. ในที่ประชุมแต่ละคนได้อภิปรายและลงมติบนข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการเปิดเผยความเห็นหรือการลงมติรายบุคคล แต่ล่าสุดมีบางเพจที่ได้กล่าวหาว่าผมเป็น 1 ใน สส. ที่ลงมติไม่เห็นชอบกับการขับออกคุณไชยามพวาน รวมถึงกล่าวหาว่าผม ‘รวบรวมเสียง’ ให้คนโหวตไม่เห็นด้วยกับการขับออกเพื่อปกป้อง ‘พวกพ้อง’ เนื่องจากผมรู้จักกับไชยามพวานมาก่อนที่เขาจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ผมถือว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง และเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก 

 

จึงจำเป็นต้องชี้แจงความจริงดังต่อไปนี้

 

  1. ผมยืนยันว่าจุดยืนและการทำงานของผมตลอดที่ผ่านมา ยึดอยู่บนหลักการที่ผมคิดว่าถูกต้องและข้อเท็จจริงเท่านั้นในทุกกรณี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่ผมรู้จักหรือเคยร่วมงานกันมามากน้อยแค่ไหน

 

  1. แม้ผมไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการวินัยและกรรมการบริหารพรรคที่รับผิดชอบเรื่องการพิจารณาข้อเท็จจริงของทุกข้อร้องเรียนทางวินัย แต่ในฐานะโฆษกพรรค ผมย่อมต้องมีการทำงานร่วมกันกับคณะกรรมการวินัยในขั้นตอนที่ต้องมีการเตรียมการสื่อสาร ดังนั้นเมื่อผมทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนต่อไชยามพวาน ผมจึงได้ระมัดระวังและเว้นระยะห่างเป็นพิเศษจากกระบวนการทั้งหมดในกรณีนี้ โดยได้แจ้งเหตุผลดังกล่าวต่อประธานกรรมการวินัยพรรค และหลีกเลี่ยงในการแสดงความเห็นใดๆ นอกรอบกับ สส. ทุกคนในพรรคที่สอบถามเข้ามา

 

  1. ในที่ประชุมเมื่อวานที่คณะกรรมการวินัยและกรรมการบริหารพรรคได้มีการรายงานข้อเท็จจริงต่อ สส. ทุกคน เพื่อเปิดให้มีการอภิปรายความเห็นก่อนจะลงมติ ผมก็ได้ลุกขึ้นอภิปราย 

 

โดยมีประเด็นที่สำคัญว่า ในมุมมองของผมการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่มีความผิดที่ชัดเจน คือการมีความสัมพันธ์กับทีมงานของตนเอง เพราะไม่ว่าสถานการณ์เฉพาะหน้าดูเหมือนจะมีการยินยอมหรือไม่ แต่ในเมื่อทั้งสองอยู่ใน ‘ความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน’ ที่ฝ่ายหนึ่งสามารถให้คุณให้โทษอีกฝ่ายหนึ่งได้ในหน้าที่การงาน ดังนั้น จึงไม่สามารถถูกตีความได้ว่าเป็น ‘ความยินยอม’ ที่แท้จริง

 

หากตระหนักว่ากระทำผิดดังกล่าว ทางออกที่ควรจะเป็นคือการที่ผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง โดยที่ไม่ต้องรอให้มีกระบวนการวินิจฉัยลงโทษอย่างเป็นทางการ

 

  1. ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงเป็น 1 คนที่ลงมติเห็นด้วยกับการขับออกไชยามพวาน ซึ่งเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยที่เพื่อนๆ สส. ทุกคนรับรู้ และเป็นการตัดสินใจบนหลักการและเหตุผลที่ผมยึดถือ 

 

  1. ผมขออภัยเพื่อนๆ สส. ที่ผมจำเป็นต้องเปิดเผยการลงมติของตนเองต่อสาธารณะ แต่ผมจำเป็นต้องชี้แจงข้อกล่าวหาที่รุนแรงว่าผมได้ใช้เหตุผลเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวในการลงคะแนนและโน้มน้าวคนอื่นในการลงคะแนน ซึ่งไม่เป็นความจริง และผมเชื่อว่า สส. คนอื่นที่เห็นต่างกับผมและลงมติไม่เห็นด้วยกับการขับออกไชยามพวาน ก็ได้ตัดสินใจบนหลักการและเหตุผลที่เขายึดถือ ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือการปกป้องพวกพ้อง

 

ผมเชื่อว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับเหตุผลหรือการตัดสินใจของผม แต่ผมยืนยันว่าทุกการตัดสินใจของผมยึดอยู่บนหลักการที่ผมเชื่อว่าถูกต้อง และเป็นหลักการที่ต้องนำมาใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาค 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising