เดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังจากเยอรมนี ประกาศวิสัยทัศน์ 2039 ออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม โดยตั้งเป้าให้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรูปแบบวางจำหน่ายให้ได้ภายในอีก 20 ปีต่อจากนี้ เริ่มต้นจากการผลิตให้ได้ในสัดส่วนมากกว่า 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาดในปี 2030 ก่อน
สำหรับรถยนต์พลังงานทางเลือกที่เดมเลอร์ตั้งเป้าไว้ว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์จะต้องผลิตให้ได้มากกว่า 50% ในสเตปแรกสำหรับปี 2030 จะต้องครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrids) ที่ใช้ทั้งเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิมและพลังงานไฟฟ้าควบคู่กันเพื่อเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ปูทางสู่การปรับตัวของเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างเต็มรูปแบบและกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน
เดมเลอร์ระบุว่าความตั้งใจของเมอร์เซเดส-เบนซ์คือการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ดี ยั่งยืน และน่าสนใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ท้าทายพอสมควร ทั้งยังส่งผลเชิงบวกต่อปัญหาวิกฤตสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก
“เราจำเป็นจะต้องก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนเพื่อหาวิธีการใหม่ๆ ในการก้าวไปข้างหน้า เรากำลังมองหาแนวทางการทำงานที่ใกล้ชิดร่วมกับทีมงานและตัวแทนของพวกเราในเส้นทางนี้ (วิสัยทัศน์ 2039) การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นหน้าที่ของคนในรุ่นเรา เรามั่นใจว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้เราอยู่ในสถานะผู้นำของอุตสาหกรรมรถยนต์ได้”
ทั้งนี้เดมเลอร์ยืนยันว่าไม่ใช่แค่ตัวเทคโนโลยีจะต้องยั่งยืนและน่าสนใจ แต่ราคาของผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายจะต้องไม่สูงเกินจับต้องได้ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: