‘สง่างามและแตกต่าง’ ทำความรู้จัก Meghan Markle คู่หมั้น Prince Harry

Vanity Fair ฉบับเดือนตุลาคม 2017 ถ่ายโดย Peter Lindbergh

“สุดท้ายแล้วเราก็แค่คนสองคนที่กำลังมีความสุขและรักกันมาก เราคบกันมามากกว่า 6 เดือนก่อนจะเป็นข่าว และสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือทัศนคติของคน ฉันเองไม่ได้เปลี่ยนตัวเอง ฉันยังเป็นคนเดิมและไม่อยากถูกตีความแค่จากคนที่ฉันกำลังคบอยู่” นี่คือคำพูดที่เฉียบคม จริงใจ และมั่นใจของนักแสดงที่ชื่อ เมแกน มาร์เคิล (Meghan Markle) ที่ให้กับนิตยสาร Vanity Fair ฉบับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

เมแกนกลายเป็นนักแสดงที่ถูกจับตามองมากกว่า เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, เอ็มมา สโตน หรือแอนเจลินา โจลี ภายในข้ามคืน เพราะเธอกำลังคบหากับเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งในปี 2016 เธอก็เป็นนักแสดงหญิงที่ถูกเสิร์ชชื่อมากที่สุดบน Google และช่วงนี้ยอดเสิร์ชก็น่าจะสูงขึ้น หลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีได้ขอเธอหมั้นเป็นที่เรียบร้อย

เมแกนคือใคร?

เรเชล เมแกน มาร์เคิล คือสาววัย 36 ปีที่เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ปี 1981 ที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และเติบโตมาในชีวิตแสงแฟลชของวงการฮอลลีวูด เพราะคุณพ่อ โธมัส มาร์เคิล (Thomas Markle) ประกอบอาชีพเป็นผู้กำกับแสง (Lighting Director) ของซีรีส์ช่วงกลางวันสุดคลาสสิกอย่าง General Hospital และ Married… with Children ที่เขาเคยชนะรางวัล Emmy ส่วนคุณแม่ โดเรีย แรกแลนด์ (Doria Ragland) ก็เป็นผู้หญิงเชื้อชาติแอฟริกัน-อเมริกัน ที่ทำงานเป็นนักจิตวิทยาและครูสอนโยคะ แม้คุณพ่อคุณแม่ของเมแกนจะหย่ากันตั้งแต่เธออายุ 2 ขวบ แต่เธอก็มีชีวิตที่เรียบง่าย สำหรับเด็กที่มีผู้ปกครองทำงานในวงการฮอลลีวูด โดยทุกวันหลังเลิกเรียนก็ใช้ชีวิตที่กองถ่ายซีรีส์ของคุณพ่อเป็นหลัก

ตอนเมแกนอายุ 18 ปี เธอตัดสินใจไปเรียนปริญญาตรี 2 ใบที่มหาวิทยาลัย Northwestern University ด้านการสื่อสารระหว่างประเทศและละครเวที ซึ่งก็ทำให้เธอเป็นคนแรกของครอบครัวที่เรียนจบปริญญาตรี ซึ่งเธอยังมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่สถานทูตอเมริกาที่ประเทศอาร์เจนตินาอีกด้วย พูดได้ว่าสาวคนนี้ไม่ธรรมดาและมีมิติที่ห่างไกลจากคอนเซปต์ปาร์ตี้เกิร์ลที่เติบโตมากับแสงสีเสียงของฮอลลีวูด

หลังจากเรียนจบ เมแกนตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ลอสแอนเจลิสเมืองบ้านเกิดเพื่อตามหาความฝันในการเป็นนักแสดงมืออาชีพ แต่ถึงจะมีโอกาสใช้เส้นสายจากคุณพ่อเป็นทางลัดเพื่อให้ได้งาน แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะใช้มัน อย่างในช่วงแรกเธอต้องไปแคสต์งานพร้อมกับทำงานอื่นๆ เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองไปด้วย เช่น เป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารและเป็นศิลปินคัดลายมือ Calligraphy ซึ่งพอเมแกนเริ่มได้งานในวงการ เธอก็มักได้บทบาทตัวละครสมทบในซีรีส์ทางโทรทัศน์ และยังเคยเป็นหนึ่งในสาวถือกระเป๋าเดินทางในเกมโชว์ Deal or No Deal

ในปี 2011 เมแกนก็ได้บทแจ้งเกิดในซีรีส์แนวดราม่ากฎหมายเรื่อง Suits ของช่องเคเบิล USA ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอเล่นบท Rachel Zane ผู้ช่วยทนายระดับสูง ซึ่งซีรีส์นี้ก็อยู่ในช่วงซีซันที่ 7 แล้ว ล่าสุดมีกระแสออกมาว่าเมแกนอาจจะเล่นเป็นซีซันสุดท้าย เนื่องจากชีวิตรักและการต้องย้ายไปอยู่ลอนดอนที่พระราชวัง Kensington กับเจ้าชายแฮร์รีแฟนหนุ่มของเธอ

Photo: www.popsugar.com

เมื่อเมแกนเจอเจ้าชายแฮร์รี

เป็นที่รู้กันดีว่าทุกครั้งที่มีผู้หญิงเข้ามาพัวพันในชีวิตของเจ้าชายแฮร์รี พวกเธอก็ต้องกลายเป็นข่าวที่สื่อชอบหยิบไปเล่นอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเจ้าชายแฮร์รีคือสมาชิกของราชวงศ์อังกฤษที่ถูกจับตาตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องอื้อฉาวกับภาพลักษณ์ ‘แบดบอย’ ในช่วงวัยรุ่น ยิ่งพอพี่ชายอย่างเจ้าชายวิลเลียมแต่งงานมีลูก สปอตไลต์ก็ฉายแสงจ้ามาที่เจ้าชายแฮร์รีแบบเต็มๆ โดยเฉพาะหัวข้อข่าวและเรื่องคุยประเภท ‘สาวคนไหนจะมามัดหัวใจเขาได้และเป็นเจ้าหญิงคนต่อไป?’

ที่ผ่านมาผู้หญิงแต่ละคน ทั้ง เชลซี เดวี หรือ เครสสิดา โบนัส ที่เจ้าชายแฮร์รีเคยคบหา ต่างกลายเป็นของเล่นของเหล่าปาปารัซซีในชั่วข้ามคืน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเธอจะต้องโดนคุกคามชีวิตส่วนตัวแบบ 24 ชั่วโมง สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับเมแกนตั้งแต่เริ่มคบกับเจ้าชายแฮร์รีหลังเจอกันในเดือนพฤษภาคม ปี 2016 ที่งานการกุศล Invictus Game ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีได้ริเริ่มในปี 2014 เพื่อเป็นการช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำภารกิจไปช่วยชาติตัวเอง

ตอนที่เริ่มมีภาพหลุดของทั้งคู่ออกมา เมแกนต้องผ่านมรสุมที่หนักหน่วงถึงขั้นที่ทางโฆษกส่วนตัวของเจ้าชายแฮร์รีต้องออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2016 ว่า ให้สื่อลดทอนข่าวเกี่ยวกับเมแกนที่สร้างความร้าวฉานและส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเธอและคนรอบข้าง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีทั้งการที่ปาปารัซซีไปแคมป์หน้าบ้านคุณแม่ของเมแกนเพื่ออยากได้ภาพ การที่สื่อบางสำนักพยายามจ่ายเงินให้แฟนเก่าของเมแกนเพื่อให้เปิดโปงเรื่องราวความสัมพันธ์ และการที่ปาปารัซซีพยายามบุกรุกเข้าบ้านของเมแกน แถมเนื้อหาข่าวก็ชอบเล่นประเด็นการเป็นลูกครึ่งผิวสีของเมแกนและการดูถูกเพศหญิง เพราะเธอเคยแต่งงานกับโปรดิวเซอร์หนัง Trevor Engelson ในปี 2011-2013 ซึ่งมหกรรมความอื้อฉาวของข่าวทำให้เรานึกถึงสมัยที่เจ้าหญิงไดอานา แม่ของเจ้าชายแฮร์รี ต้องตกเป็นเป้าของสื่อหลังเธอหย่ากับเจ้าชายชาร์ลส์

เมแกนที่ประเทศรวันดาในฐานะตัวแทน World Vision Canada

อนาคตที่ถูกจับตามองตลอดเวลา

มีการคาดเดากันอย่างเป็นจริงเป็นจังว่า ถ้าบทสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง ‘เมแกน’ กับ ‘เจ้าชายแฮร์รี’ พัฒนาไปถึงขั้นแต่งงานในอนาคต เมแกนจะเป็นชาวอเมริกันคนแรกตั้งแต่กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 8 ที่ตัดสินใจสละราชสมบัติเมื่อ 81 ปีก่อน เพื่อไปแต่งงานกับสาวชาวอเมริกัน วอลลิส ซิมป์สัน (Wallis Simpson) ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เธอมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในฐานะคู่สมรสของเจ้าชายแฮร์รีคือ HRH Princess of Henry of Wales โดยจะประกอบด้วย HRH Princess นำหน้าชื่อ ตามด้วยพระยศของสามี (ตำแหน่งเจ้าชายแฮร์รีคือ Prince Henry of Wales) โดยเจ้าชายแฮร์รีได้ประกาศว่างานแต่งงานของทั้งคู่จะเกิดขึ้นช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า โดยทั้งคู่จะพักอาศัยอยู่ในพระราชวัง Kensington ที่ลอนดอน

ด้านหน้าที่การงานของเมแกนก็คงต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะไม่แปลกใจเลยหากเธอเลือกจะโฟกัสงานใหม่ที่หลากหลายโปรเจกต์ทางสังคม โดยเฉพาะด้านความเท่าเทียมในสังคมที่เธอเป็นตัวแทนสหประชาชาติด้านสิทธิผู้หญิง เมแกนเคยกล่าวว่า “ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงที่วันๆ กินข้าวอย่างเดียว แต่เป็นผู้หญิงที่ทำงาน” แถมเธอยังเคยเป็นตัวแทนไปพูดที่งานของกลุ่มการกุศล One Young World ในปี 2014 มาแล้ว และเคยเดินทางไปประเทศรวันดาเพื่อศึกษาปัญหาน้ำ ภายใต้แคมเปญ ‘Clean Water’ ในฐานะตัวแทน World Vision Canada

ตอนนี้เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกนยังไม่เคยออกมาให้บทสัมภาษณ์หรือพูดคุยกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงถูกตีแผ่และจินตนาการไปต่างๆ นานา จนบางคนอาจรับไม่ได้

แต่สำหรับเราแล้ว คอนเซปต์ที่ว่า ในอนาคตเจ้าหญิงคนใหม่ของประเทศอังกฤษจะเป็นผู้หญิงสามัญชนทั่วไปที่มากความสามารถ วางตัวดี เป็นกระบอกเสียงในหลากหลายปัญหาของโลก และเป็นสาวผิวสี สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่วิเศษและช่วยขยายขอบเขตด้านจินตนาการของผู้คนให้รู้ว่า ความรักไม่ต้องมาพร้อมชนชั้นวรรณะใดๆ สำคัญที่สุด ถึงเวลาแล้วที่เราอาจต้องบันทึกนิยายใหม่แบบปี 2017 ที่ไม่ต้องอิงกับรูปแบบจินตนาการระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิงแบบเดิมๆ อีกต่อไป

Cover Photo: Suits, Courtesy of USA channel

อ้างอิง:

FYI

เมแกนเคยมีเว็บไซต์ไลฟ์สไตล์ชื่อ The Tig ที่ครอบคลุมการเดินทาง บิวตี้ อาหาร และแฟชั่น แต่ประกาศปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังเปิดมาได้ 3 ปี โดยทางเว็บไซต์ไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนก็สันนิษฐานว่า เพราะความสัมพันธ์กับเจ้าชายแฮร์รีที่ซีเรียสขึ้นและต้องปรับชีวิตกับขอบเขตของราชวงศ์