สื่อต่างประเทศจับภาพ เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือเชลซี เขวี้ยงหมวกและเตะทิ้งถึง 2 ครั้งในช่วงระหว่างการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายของทีมเชลซีที่สนามโอลิมปิกสเตเดียม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมนัดชิงยูโรปาลีกกับอาร์เซนอลในค่ำคืนนี้ เวลา 2.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
โดยเบื้องต้นสื่อรายงานว่าสาเหตุที่ซาร์รีเกิดอาการโมโหนั้นมาจากการมีปากเสียงกันระหว่าง ดาวิด ลุยซ์ กับกอนซาโล อิกวาอิน ในสนามซ้อม โดยแม้ว่าเจ้าตัวจะเดินเข้าไปห้ามก็ยังไม่สามารถทำให้ทีมกลับมาซ้อมต่อได้ จึงเดินออกจากสนามพร้อมกับการเตะหมวกทิ้ง
ทางสโมสรเชลซีได้ออกมาปฏิเสธว่าอาการหงุดหงิดของซาร์รีนั้นเกิดจากการมีปากเสียงของสองนักเตะ แต่เหตุผลหลักเกิดจากการไม่สามารถฝึกซ้อมลูกตั้งเตะได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของการฝึกซ้อม
นอกจากนี้อีกหนึ่งสาเหตุอาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ในแดนกลางของทีมที่เหลือนักเตะเพียง 3 คน สำหรับ 3 ตำแหน่ง ประกอบไปด้วย มาเตโอ โควาซิช, รอส บาร์คลีย์ และจอร์จินโญ่ ส่วนทางด้าน รูเบน ลอฟตัส-ชีก และแคลลัม ฮัดสัน-โอดอย หมดสิทธิ์ลงสนามจากอาการบาดเจ็บ
ขณะที่ เอ็นโกโล ก็องเต ยังอยู่ในช่วงเช็กความฟิต หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า
“มันไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่ร้ายแรง เพียงแต่มันมาในช่วงเวลาที่ไม่ดี เขายังอยู่ในสภาพความพร้อมแบบ 50-50 เราจะพยายามรักษาเขาให้ทัน แต่ตอนนี้เรายังไม่มั่นใจ” ซาร์รีให้สัมภาษณ์ถึงอาการบาดเจ็บของกองกลางคนสำคัญ
“เรามีปัญหาในแดนกลาง ตอนนี้มีนักเตะ 3 คน สำหรับ 3 ตำแหน่ง สำหรับเรา เอ็นโกโลคือนักเตะที่สำคัญมากๆ เขาเป็นกลางรับคนเดียวที่เรามี ดังนั้นเราจะพยายามรักษาเขา และจะรอดูสภาพอีกทีเช้าวันพุธนี้”
นอกจากนี้ซาร์รียังได้เผยถึงอนาคตกับสโมสรเชลซีหลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศว่าเตรียมเข้าไปพูดคุยกับทางสโมสร แต่ในเวลานี้เขาขอโฟกัสที่นัดชิงชนะเลิศก่อน
“ผมอยากคิดถึงแต่นัดชิงชนะเลิศ นอกจากนี้ผมยังมีสัญญาอีก 2 ปีกับเชลซี ดังนั้นผมจะเข้าไปพูดคุยกับสโมสร แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ ตอนนี้เราต้องคิดถึงรอบชิงชนะเลิศเพียงเท่านั้น เพราะเรารู้สึกว่าเราสมควรที่จะได้แชมป์
“สำหรับผมแล้ว ในช่วงต้นฤดูกาลเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำความเข้าใจนักเตะและทำความเข้าใจสภาพจิตใจของพวกเขา แต่หลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ พวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป หรือไม่แน่ว่าอาจจะเป็นผมเองที่เปลี่ยน
“ตอนนี้ผมรักพวกเขา เพราะผมมี 20-22 นักเตะและคนที่ดีเยี่ยม ตอนนี้ผมจึงมีความสุขมากๆ กับพวกเขา ผมต้องพิจารณาอนาคต และผมต้องพิจารณาจากจุดที่ผมรักฟุตบอลอังกฤษ และผมรักพรีเมียร์ลีก”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: