กว่า 191 ปีตั้งแต่ก่อตั้งมาที่เมือง Saint-Imier ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Longines ก็ได้ก้าวมาหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาลักชัวรีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทั่วโลก ด้วยเรื่องราวของดีไซน์ กลไก และประวัติความเป็นมาที่โดดเด่นและมีชั้นเชิง โดยล่าสุด THE STANDARD POP มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ Matthias Breschan ซีอีโอ Longines ณ งาน Longines Press Meeting 2023 ที่ Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River ซึ่งมีการนำเสนอนาฬิการุ่นใหม่ประจำปี 2023 ครั้งแรกในประเทศไทย โดยงานในครั้งนี้มีสอง Friend of Longines ประจำประเทศไทยอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ และ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต มาร่วมงานด้วย
ช่วงสัมภาษณ์ Matthias Breschan เราได้พูดคุยกับเขาเรื่องธุรกิจของ Longines ความสำคัญของตลาดไทย ความสำคัญของกลุ่มลูกค้า Gen Z และ Jennifer Lawrence ที่เป็น Global Brand Ambassador ฝั่งฮอลลีวูดคนล่าสุด
Matthias Breschan
ตอนนี้ภาพรวมของธุรกิจ Longines เป็นอย่างไรบ้าง
เรายังคงเป็นแบรนด์นาฬิกา 1 ในท็อป 5 ของโลก พร้อมมีเป้าหมายที่จะทำยอดขายให้เกิน 2 พันล้านฟรังก์สวิสภายในปี 2025 โดยมาวันนี้ผมเชื่อมั่นและกล้าพูดว่า แม้สภาพแวดล้อมของโลกเราจะถูกท้าทายและเราต้องผ่านอะไรซับซ้อนมากมายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ Longines ก็ยังคงแข็งแกร่งและสร้างมูลค่าทางบวกได้ท่ามกลางช่วงวิกฤต
ปี 2023 Longines มีอะไรอยากนำเสนอเป็นพิเศษไหมกับนาฬิกาที่จะปล่อยออกมา ทั้งในเชิงดีไซน์และกลไก
ผมคิดว่าหนึ่งในจุดแข็งของ Longines คือเราเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ขายดีพอๆ กันทั้งสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ในหมวดนาฬิกาสปอร์ตและนาฬิกาคลาสสิก ที่ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผมว่าเราจำเป็นต้องรักษาสิ่งนี้ไว้ในอนาคต ส่วนภาพรวมของนาฬิกาในคอลเล็กชัน Novelties 2023 มีทั้งรุ่นคลาสสิกหรูหรา และยังมีนาฬิกาแนวสปอร์ตที่มาพร้อมกลไกเฉพาะของ Longines ซึ่งสะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกของแบรนด์ได้ดี
คุณอาจจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วเราเปิดตัวนาฬิการุ่น Spirit Zulu Time ที่อิงกับฟังก์ชัน GMT ที่ Longines ได้คิดค้นในปี 1925 ซึ่งนี่ก็จะเป็นทิศทางที่เราจะเดินหน้าไปในอนาคต เราอยากจะพัฒนากลไกเฉพาะในนาฬิกาของ Longines ที่ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์และกลายเป็นมรดกของเรา
นาฬิกาคอลเล็กชัน Novelties 2023
Longines Pilot Majetek
คุณคิดว่า Longines แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไรบ้าง
คู่แข่งของเราบางแบรนด์ พอเขาพัฒนาและผลิตนาฬิการุ่นใหม่ออกมา เขาก็จะพยายามสร้างเรื่องแบบ Storytelling ขึ้นมาใหม่ เพื่อจะขายสินค้าและทำให้คนเชื่อ แต่สำหรับ Longines เราโชคดีที่ทุกครั้งเราสามารถย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของแบรนด์จริงๆ ตลอด 191 ปี และเลือกมาหนึ่งช่วงเวลาเพื่อจะพัฒนานาฬิกาและกลไกใหม่ๆ ซึ่งจะไม่เหมือนใครในตลาด
ตอนนี้ตลาดไทยสำคัญต่อ Longines มากน้อยขนาดไหน
ประเทศไทยถือว่าสำคัญมากสำหรับ Longines เพราะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เชื่อว่าตลาดนี้จะสามารถเติบโตได้ขนาดนี้ แม้นักท่องเที่ยวจะไม่ได้มากัน ซึ่งสิ่งนี้ก็สอนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการต้องโฟกัสกลุ่มลูกค้า Domestic ภายในประเทศของตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเราจะพัฒนาหรือผลิตสินค้าใหม่ เปิดร้านคอนเซปต์ใหม่ หรือทำมาร์เก็ตติ้งอะไรก็ตาม โดยทั้งหมดทั้งมวลผมคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีมาก เพราะแน่นอนว่าแม้ต่อไปนักท่องเที่ยวจะกลับมาเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น และเราก็ยังอยากขายสินค้าให้เขา แต่สิ่งที่เราต้องกลับให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือลูกค้าคนไทยของเราเอง
บน: Jennifer Lawrence Global Brand Ambassador ของ Longines
ล่าง: มาริโอ้ เมาเร่อ และ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต Friend of Longines ประจำประเทศไทย
Longines เพิ่งได้ประกาศแต่งตั้งให้ Jennifer Lawrence เป็น Global Brand Ambassador คนล่าสุด ทำไมแบรนด์ถึงอยากร่วมงานกับเธอ
Jennifer Lawrence คือหนึ่งในบุคคลที่สง่างามที่สุดสำหรับผมทั้งภายนอกและบุคลิกของเธอ โดยความสง่างามคือคีย์เวิร์ดสำคัญที่เข้ากับดีเอ็นเอนาฬิกาของเรา มากไปกว่านั้น Coco Chanel ได้นิยามความสง่างามไว้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผมเมื่อกว่า 100 ปีก่อน โดยเธอพูดไว้ว่า “ความสง่างามจะเกิดขึ้นเมื่อภายในสวยงามเทียบเท่ากับภายนอก” ซึ่งก็เข้ากับประวัติและความเป็นมาของ Longines รวมถึง Jennifer Lawrence เองด้วย โดยผมคิดว่าเมื่อแบรนด์จะหยิบยกสิ่งนี้มาพูด ตัวแทนของเราก็ต้องสะท้อนสิ่งนี้ด้วย ซึ่งลูกค้าของแบรนด์ก็จะเข้าใจทันทีว่าทำไมเราต้องเลือกเธอมาเป็น Global Brand Ambassador และทำไมเธอถึงสื่อความเป็น Authentic ในตัวเองได้อย่างแท้จริง
แล้ว Longines มองว่ากลุ่มลูกค้า Gen Z สำคัญอย่างไรบ้าง
ผมมองว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่โชคดีมาก เพราะลูกค้า Gen Z เริ่มสนใจนาฬิกาวินเทจมากขึ้นเรื่อยๆ และหันมาสนใจแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์และมรดกอันยาวนานที่มีการเขียนในหนังสือประวัติศาสตร์จริงๆ และไม่ได้สร้างขึ้นมาแบบลอยๆ
แน่นอนว่าความยั่งยืนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญมากต่อกลุ่ม Gen Z ซึ่งผมคิดว่านาฬิกาก็เป็นหนึ่งในไอเท็มที่ยั่งยืนที่สุดที่เราหาได้ เพราะหากเราซื้อนาฬิกาในวันนี้ ในวันข้างหน้าเราก็ส่งต่อคนรุ่นอื่นๆ ได้ พร้อมสานต่อเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เป็นมรดกอย่างแท้จริง ซึ่งเพราะเหตุนี้ผมเลยคิดว่าทำไมนาฬิกายังคงได้รับความนิยมในกลุ่ม Gen Z
คุณมองถึงอนาคตของ Longines ไว้อย่างไร
เรายังอยากลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นและสร้างกลไกที่เป็นของเราเอง แต่สิ่งที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ การที่เรายังอยากท้าทายตัวเองอยู่เสมอและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพราะสำหรับผมแล้ว หากคุณไม่ทำสิ่งนี้ คุณก็เหมือนจะฆ่าแบรนด์ของตัวเอง
Matthias Breschan, มาริโอ้ เมาเร่อ, เก้า-สุภัสสรา ธนชาต
และทีมบริหาร Longines