ระหว่างวันที่ 11-25 พฤศจิกายนนี้ ยานสำรวจทั้งในวงโคจรและบนพื้นผิวดาวอังคาร จะหยุดการติดต่อสื่อสารกับทีมภารกิจบนโลกของเรา จากปรากฏการณ์ ‘Mars Solar Conjunction’ ที่ดาวอังคารจะอยู่อีกฟากหนึ่งของระบบสุริยะเมื่อสังเกตจากโลก
NASA ออกมายืนยันว่าพวกเขาได้หยุดส่งคำสั่งไปยังยานอวกาศทั้งหมดบนดาวอังคารในช่วงนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกๆ 2 ปี เนื่องจากอนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์สามารถไปรบกวนคลื่นวิทยุที่ส่งไปจากโลก จนอาจทำให้ยานได้รับคำสั่งที่ผิดพลาดไปได้
อย่างไรก็ตาม ยานอวกาศทั้งหลายก็ยังคงปฏิบัติภารกิจสำรวจตามชุดคำสั่งที่ถูกส่งไปก่อนหน้า เช่น ยาน Perseverance และ Curiosity จะคอยตรวจดูความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและค่ารังสีในระหว่างที่จอดนิ่งอยู่กับที่ เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ Ingenuity ที่ใช้กล้องศึกษาการเคลื่อนไหวของดินทรายจากบนพื้นผิวเช่นกัน
ส่วนยานในวงโคจรอย่าง Mars Reconnaissance Orbiter และ 2001 Mars Odyssey จะยังคงถ่ายภาพความละเอียดสูงตามชุดคำสั่งเดิม เช่นกันกับยาน MAVEN ที่คอยเก็บข้อมูลปฏิสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศดาวอังคารและดวงอาทิตย์ ก่อนจะส่งข้อมูลทั้งหมดกลับโลกหลังผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไป
Roy Gladden ผู้จัดการด้านระบบสื่อสารกับดาวอังคารของ Jet Propulsion Laboratory ระบุว่า “ทีมของเราใช้เวลาหลายเดือนเตรียมลิสต์สิ่งต่างๆ ให้ยานอวกาศบนดาวอังคารของเราทำ และแม้จะส่งคำสั่งไปไม่ได้ แต่เราสามารถคอยดูสถานะของยานเหล่านี้ได้ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่จะมาถึง”
ทั้งนี้ จะมีช่วงเวลา 2 วันที่ทีมภารกิจบนโลกไม่สามารถรับรู้ความเป็นไปบนดาวอังคารได้เลย เนื่องจากดาวแดงดวงนี้จะถูกดวงอาทิตย์บดบังเมื่อสังเกตจากพื้นโลก ทำให้คลื่นวิทยุไม่สามารถเดินทางผ่านมาได้
หลังจากปรากฏการณ์ดังกล่าว โลกและดาวอังคารจะค่อยๆ โคจรมาอยู่ในตำแหน่งใกล้กันยิ่งขึ้น ก่อนถึงจุดใกล้สุดในปรากฏการณ์ ‘Mars Opposition’ วันที่ 16 มกราคม 2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีภารกิจต่างๆ จากทั่วโลก ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ดาวอังคาร เนื่องจากเป็นเวลาการปล่อยยานที่ใช้เชื้อเพลิงและระยะเวลาน้อยสุดในรอบสองปี
ภาพ: NASA
อ้างอิง:
