×
SCB Omnibus Fund 2024

สำรวจวิสัยทัศน์ ‘Marriott International’ บนเวทีการประชุม ‘2022 APEC General Managers Summit’ ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ภายใต้แนวคิด ‘Shape Tomorrow’ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
30.09.2022
  • LOADING...
Marriott International

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ
  • แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จัดงานประชุมผู้นำในเครือแมริออทของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) ‘2022 APEC General Managers Summit’ เพื่ออัปเดตสถานการณ์ทั่วโลกพร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อให้ผู้นำทุกคน ‘สร้างอนาคต’ ไปพร้อมกัน
  • งานจัดที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันที่ 13-15 กันยายนที่ผ่านมา
  • นอกจากการประชุมผู้นำตลอด 3 วัน ผู้นำและผู้บริหารในเครือยังร่วมทำกิจกรรมมากมาย เช่น กิจกรรม ‘Serve 360’ แจกจ่ายอาหาร 300 กล่องให้กับชุมชนในท้องถิ่น, เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้รับฟังวิสัยทัศน์และค่านิยมของแมริออทจาก เดวิด แมริออท

นับเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญในรอบ 3 ปี ของกลุ่มผู้นำในเครือแมริออทของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) เพื่อร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เกิดผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมบนเวทีการประชุม ‘2022 APEC General Managers Summit’ ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันที่ 13-15 กันยายนที่ผ่านมา

 

Marriott International

 

ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกมาพูดบนเวทีการประชุมในวันที่ 13 กันยายน คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบทั่วโลกตลอดจนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด วิกฤตค่าครองชีพจากอัตราเงินเฟ้อสูงเป็นประวัติการณ์

 

ในขณะเดียวกัน มาตรการผ่อนปรนการเดินทางได้กระตุ้นการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก และแนวโน้มของเศรษฐกิจระดับมหภาค เช่น อัตราเงินเฟ้อ การทำงานแบบไฮบริด ความเสี่ยงด้านสุขภาพ และการปฏิรูปด้านภูมิรัฐศาสตร์ ก็อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

 

ด้านอินเดียกำลังต่อสู้กับปัญหาว่างงานและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงแบบต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาค APEC ที่พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 5.4 ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2022

 

จะมีก็แต่ประเทศอินโดนีเซียและสาธารณรัฐฟิจิที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องเจอกับความท้าทายด้านแรงงานที่ขาดแคลน เป็นโจทย์ที่อุตสาหกรรมโรงแรมทุกประเทศต้องเริ่มคิดต่าง

 

แอนโทนี่ คาปูอาโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “ช่วงที่ผ่านมาองค์กรของเราได้ฝ่าฝันกับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การระบาดของโควิด ทว่าท่ามกลางวิกฤตเรายังคงยึดถือวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้เข้าพักและพนักงานมาตลอด 95 ปี ค่านิยมที่ว่านี้ช่วยให้เราอดทนต่อความยากลำบาก หล่อหลอมให้เราแข็งแกร่งและฝ่าฝันอุปสรรคมาได้จนถึงวันนี้”

 

Marriott International

แนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโรงแรม

มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้อุตสาหกรรมโรงแรมสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าอย่างไรผู้คนก็ยังต้องการการเดินทาง ความต้องการในการซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผลักดันให้เกิดการฟื้นตัวของการเดินทางโดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก มาตรการการผ่อนปรนการท่องเที่ยวและการเปิดพรมแดนจุดประกายให้คนอยากเดินทางอีกครั้ง ผู้คนเริ่มนำเงินออมสำหรับการท่องเที่ยวมาใช้ และสุดท้ายคือมุมมองต่อโควิดที่เปลี่ยนไป

 

เมื่อดูสถานการณ์การเติบโตของธุรกิจทั่วโลก ไม่พบสัญญาณการชะลอตัว ที่พักทั่วโลกและรายได้ต่อห้อง (RevPAR) ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยรายได้ต่อห้องในไตรมาสที่ 2 ลดลงเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาด และในเดือนมิถุนายนมีการเพิ่มขึ้นอีกด้วย ในขณะที่รายได้ต่อห้องที่ขายได้ (ADR) ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นและมีการเซ็นสัญญาอีกหลายดีล

 

ฟากเอเชียแปซิฟิก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จะเปิดโรงแรมอีกหลายแห่งและมีการจับมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในเวียดนาม สำหรับยอดขายอาหารและเครื่องดื่มฟื้นตัวดีมากเมื่อเทียบกับปี 2019


ด้านออสเตรเลีย อินเดีย เกาหลีใต้ และมัลดีฟส์ ฟื้นตัว 100% ของอุปสงค์ระหว่างประเทศ อินโดนีเซียและไทยมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั่วโลกจนถึงสิ้นปี

 

Marriott International

แล้วแมริออทกำลังมุ่งหน้าไปทางใด?

การประชุมครั้งนี้แมริออทได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ โดยเน้นไปที่กลยุทธ์การเติบโต ตั้งเป้าหมายแรกคือ ‘เชื่อมโยงผู้คนด้วยพลังแห่งการเดินทาง’ เมื่อการเดินทางสร้างการเปลี่ยนแปลง ทำให้มุมมองของเรากว้างขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับผู้คน ภาษา และวัฒนธรรม ตลอดเวลาที่ผ่านมาในฐานะเชนโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วถึง ทำให้แมริออทได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้คนสร้างความทรงจำอันมีค่าให้แก่นักเดินทาง

 

สำหรับวิสัยทัศน์ใหม่ ‘สร้างชุมชนการเดินทางที่มีคุณค่าด้วยการบริการ’ อย่างที่รู้ว่าโรคระบาดสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนตั้งแต่การทำงานไปจนถึงการเดินทาง หลายปีก่อนวิสัยทัศน์ของแมริออทคือ ‘เป็นบริษัทท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกชื่นชอบ’ ทว่าโลกใหม่วิสัยทัศน์ใหม่จะต้องเป็นรูปธรรมและมองการณ์ไกลมากขึ้น โดยยึดเสาหลัก 3 ประการเป็นรากฐาน เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของเรา ได้แก่ ลงทุนกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง ใช้ความได้เปรียบของขนาดและเครือข่ายที่ครอบคลุมของแมริออทสร้างทางเลือกให้กับนักเดินทาง โดยมี Marriott Bonvoy โปรแกรมสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่ว่าจะเป็นคะแนนโบนัส และเอลีท ไนท์ เครดิต (Elite Night Credits) รับโบนัสในแต่ละคืนของการเข้าพัก เลื่อนอันดับเป็นเอลีท สเตตัส (Elite Status) ได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นสำหรับการเข้าพักฟรี และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

 

Marriott International

เพราะความสำเร็จไม่มีจุดหมายปลายทาง

เจดับบลิวแมริออท ซีเนียร์, เจดับบลิวแมริออท จูเนียร์ และ อาร์เน่ โซเรนซัน CEO ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งต่อแนวคิดที่ว่า ‘ความสำเร็จไม่มีที่สิ้นสุด’ ยังสามารถเดินทางได้ต่อเพื่อค้นพบความสำเร็จใหม่ๆ สิ่งนี้เองที่ทำให้แมริออทเป็นโรงแรมระดับโลกที่ประสบความสำเร็จแม้อยู่ท่ามกลางวิกฤต

 

 

Marriott International

 

“อย่าหยุดยั้งที่จะแสวงหาความเป็นเลิศ ก้าวข้ามความท้าทายเพื่อที่จะก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าให้เร็วกว่าเดิม ดีกว่าเดิม และแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม มุ่งมั่นที่จะเป็น ‘บริษัทที่ดีที่สุดในโลก’ เพราะความสำเร็จไม่ใช่จุดหมายสุดท้าย และจงเชื่อว่าพวกเรามีพลังที่จะ ‘สร้างอนาคต’ ร่วมกัน

 

“น่าเสียดายที่พรุ่งนี้ก็คงจะไม่มีอะไรง่ายดายเอาเสียเลย ทั้งธุรกิจของเราและโลกที่พวกเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องซับซ้อน ปัจจุบันแมริออทมีโรงแรมกว่า 8,000 แห่ง 30 แบรนด์ ใน 139 ประเทศและเขตการปกครอง และอีก 29 จุดหมายปลายทางที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

 

“ดังนั้นความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายและความสามัคคีคือทางเดียวที่จะทำให้พวกเราเติบโตไปข้างหน้าและสร้างอนาคตร่วมกัน เพราะผู้นำอย่างพวกคุณที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้คนผ่านพลังแห่งการเดินทาง ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อแมริออท” แอนโทนี่ คาปูอาโน กล่าว

 

Marriott International

Marriott International

 

นอกจากกิจกรรมไฮไลต์บนเวที ในการประชุมผู้นำที่จัดขึ้นวันที่ 13 กันยายน แมริออท ประเทศไทย ยังจัดเตรียมกิจกรรมมากมายเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่แมริออท ประเทศไทย กำลังมุ่งหน้าไปเช่นเดียวกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เช่น การนำเสนอซุ้มอาหารที่ทำจาก Plant-based เพื่อนำเสนอถึงแนวทางความยั่งยืนผ่านเมนูอาหารไทยและอาหารนานาชาติ อีกทั้งยังคัดสรรและเลือกซื้อผลิตผลสดใหม่โดยตรงกับเกษตรกรและชาวประมงท้องถิ่น เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน

 

ตลอด 3 วันของการจัดงาน ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกมากมาย เช่น กิจกรรม ‘Serve 360’ แจกจ่ายอาหาร 300 กล่องให้กับชุมชนในท้องถิ่น โดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมมือกับ Scholars of Sustenance Rescue Kitchen (SOS) พร้อมด้วยพนักงานของแมริออทและผู้บริหารระดับสูงมาร่วมกันเตรียมอาหารเพื่อนำไปแจกจ่าย

 

Marriott International

 

นอกจากนี้ผู้บริหารระดับสูงของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ยังได้เข้าพบกับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางทุกคน

 

ผู้นำจากเอเชียแปซิฟิกยังได้รับฟังวิสัยทัศน์จาก เดวิด แมริออท ตั้งแต่วัฒนธรรมที่ยึดถือ จนกลายเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้แมริออทแตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมวางเป้าหมายต่อจากนี้ในการขยายการเติบโตของโรงแรมในเครือแมริออทอย่างแข็งแกร่งภายในภูมิภาค

 

ก็อย่างที่ผู้นำได้กล่าวบนเวที สิ่งที่ทำให้แมริออทเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก คือการสร้างบริการที่มีคุณภาพและประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับผู้เข้าพัก ไม่แต่เฉพาะการให้ความสำคัญกับลูกค้า แมริออทยังใส่ใจพนักงานทุกคน เพราะพวกเขาคือหัวใจสำคัญของโรงแรมและการบริการ ดังนั้นในฐานะผู้นำด้านการโรงแรม แมริออทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการมอบช่วงเวลาอันน่าจดจำสำหรับผู้เข้าพักและดูแลคนของแมริออทอย่างดีที่สุด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising