×

Market Outlook 2025 ปีแห่ง Trump’s Trade

20.12.2024
  • LOADING...
Market Outlook 2025

หลังจากที่ Donald Trump ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ และเตรียมกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2025 นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาและคาดการณ์ว่า ปีหน้าอาจเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอนในตลาดการเงินจากนโยบายเศรษฐกิจ ต่างประเทศ และการค้า

 

อย่างไรก็ดี ทิศทางการลงทุนในปัจจุบันกลับไม่ได้สะท้อนความกังวลเท่ากับเศรษฐกิจ

 

นับตั้งแต่ Trump ชนะการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำผลตอบแทนดีเกินคาด ดัชนี S&P 500 เดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ความผันผวนในตลาดทรงตัวในระดับต่ำ จนทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า เราอาจกังวลกับ Trump’s Trade มากเกินไปหรือไม่ และควรเตรียมตัวพร้อมมากกว่านี้ไหม

 

เพื่อให้การวางกลยุทธ์ลงทุนในปี 2025 มีความน่าสนใจมากขึ้น ผมลองผนวกแนวคิดจากหนังสือ The Art of the Deal ที่เขียนโดย Donald Trump ในปี 1987 เพื่อให้นักลงทุนไทยรู้ทันแนวคิดของ Trump พร้อมนำมาประยุกต์กับการลงทุน โดยผมประเมินกรณีที่น่าจะเกิดขึ้นสำหรับตลาดการเงินปี 2025 เป็น 3 แบบ

 

กรณีฐาน Trade Deal เพราะ Trump สอนว่าต้อง ‘Maximize your options’ 

 

ทางออกของนโยบายต่างประเทศและการค้าไม่ได้มีแค่การเก็บภาษี ผมประเมินว่าการเจรจาต่อรองหรือ Trade Deal มีโอกาสเกิดขึ้น 60% 

 

เป้าหมายหลักของ Trump คือทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่ง นโยบายที่ดีที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงควรเป็นการทำให้เกิดการลงทุน จ้างงานชาวอเมริกันในประเทศ และผลักดันธุรกิจที่ Trump ต้องการรักษาความเป็นอันดับหนึ่งของโลกไว้ในสหรัฐฯ

 

การดึงภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกมาตั้งฐานการผลิตจะเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดในกรณีนี้ ขณะที่การทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าจะช่วยหนุนให้ประเทศคู่ค้าตัดสินใจเร็วขึ้นและสามารถลดการขาดดุลการค้าไปพร้อมกันด้วย

 

ผมประเมินว่าในกรณีนี้ ตลาดจะคล้ายกับปี 2019 ดัชนีหุ้นกลุ่ม DM (Developed Markets) มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า ราคาน้ำมันลดลง Fed ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.50% ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ระยะยาวทรงตัว

 

สำหรับการลงทุน กรณีดีที่สุดคือนโยบายกลับทิศหรือ Trade Backfire

 

กรณีนี้จะเกิดขึ้นถ้านโยบายเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ส่งผลให้นักลงทุนเสียความเชื่อมั่น เศรษฐกิจชะลอตัว

 

แนวคิดของ Trump คือ ‘Low Rent, High Stakes’ ลงทุนน้อย แต่ถ้าประสบความสำเร็จจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มาก หมายความว่านอกจากการค้า Trump จะเน้นไปที่การกำหนดกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศอื่นๆ เช่น ประเด็นผู้อพยพ หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ไปพร้อมกัน

 

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลลบกับสหรัฐฯ เอง เพราะนโยบายลดการใช้จ่าย แม้จะถูกต้องในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจทำให้การบริโภคโดยรวมของสหรัฐฯ ลดลง และหากดำเนินการเร็วเกินไปอาจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ผมจึงเรียกกรณีนี้ว่า Backfire และประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นราว 20%

 

อย่างไรก็ดี กรณีนี้จะดีที่สุดกับการลงทุนเป็นเพราะ Fed จะลดดอกเบี้ยลงต่ำกว่า 3.00% เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ และแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเสี่ยงถดถอย แต่ผมมองว่าสถานการณ์นี้ไม่ได้เป็นลบต่อการลงทุนมากนัก เพราะหุ้นกลุ่ม Tech และหุ้นขนาดกลางในสหรัฐฯ จะได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่า

 

กรณีที่แย่จริงคือ Trade War หรือสงครามการค้าเกิดขึ้นจริง เมื่อ Trump เดินหน้าเก็บภาษีการค้าเพื่ออุดช่องโหว่ทางการคลัง

 

ผมให้โอกาสเกิดขึ้นของกรณีนี้ราว 20% เพราะแนวคิดของ Trump คือ ‘Deliver the Goods’ หรือทำตามสัญญาที่ให้ไว้ อย่างน้อยจึงอาจต้องมีการเก็บภาษีให้เห็นก่อนการเจรจา

 

ด้วยตลาดการเงินปัจจุบันที่ไม่ได้เตรียมพร้อมรับกับกรณีนี้ โลกการเงินจะเข้าสู่โหมดตกใจและปิดรับความเสี่ยงเช่นเดียวกับปี 2018 ข้อเสียของการเก็บภาษีคือเงินเฟ้อที่อาจทรงตัวสูง ทำให้ Fed ลดดอกเบี้ยยาก ทั้งหุ้นและบอนด์จึงมีโอกาสปรับตัวลงพร้อมกัน

 

จากการประเมินเหตุการณ์ทั้งหมดในปี 2025 ผมมองว่ากลยุทธ์ต้อง Think Big สอดคล้องกับภาพใหญ่

 

แม้ Trump จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่คาดเดายาก แต่ภาพใหญ่ปี 2025 เป็นปีที่นโยบายการเงินทั่วโลกมีแนวโน้มผ่อนคลาย การลงทุนจึงไม่ควรแย่

 

หากมี Trade Deal เงินดอลลาร์จะมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ส่งเสริมให้เกิดการกระจายการลงทุนไปยังทั่วโลก ในกรณีฐาน นักลงทุนจึงควรทยอยสะสมหุ้นนอกสหรัฐฯ พื้นฐานดีไว้ก่อน

 

โอกาสการลงทุนจะสดใสมากขึ้นหาก Fed ลดดอกเบี้ยแรง หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพเติบโตสูงจึงเป็นอีกกลุ่มที่ควรมีในพอร์ต

 

แค่ต้องไม่ลืมว่าความเสี่ยงหลักคือ Trade War ยังคงอยู่ ดังนั้นจึงควรชะลอการลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มถูกตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเติม รวมไปถึงกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ทางเลือก เช่น Private Asset หรือ Hedge Fund ที่มีความสัมพันธ์กับหุ้นและบอนด์ต่ำไว้ด้วย

 

สำหรับการลงทุนปี 2025 คำแนะนำที่ดีที่สุดจาก Trump ผมเลือกเป็น ‘Protect the downside and the upside will take care of itself’ จัดการกับความเสี่ยงให้ได้ แล้วโอกาสจะเผยตัวเองออกมา แล้วพบกันอีกครั้งในปี 2025 ครับ

 

Screenshot

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X