×

หุ้นกลุ่มเงินทุน – พรีวิว 2Q66: Credit Cost เพิ่มขึ้น

03.08.2023
  • LOADING...
market focus หุ้นกลุ่มเงินทุน

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q66 ของบริษัทกลุ่มเงินทุน ภายใต้การวิเคราะห์จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC), บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR), บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) และ บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI)

 

กระทบอย่างไร: 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มเงินทุน (SETFIN) ปรับตัวลดลง 5.49%MoM ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 2.20%MoM 

 

พรีวิวผลประกอบการ 2Q66:

MTC: คาดว่ากำไร 2Q66 ของ MTC จะเพิ่มขึ้น 2%QoQ (NII ที่สูงขึ้นจะถูกหักล้างไปเป็นส่วนใหญ่โดย ECL ที่เพิ่มขึ้น) แต่จะลดลง 21%YoY (ECL เพิ่มขึ้น) สู่ 1.1 พันล้านบาท โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4%QoQ และ 22%YoY ใน 2Q66 ขณะที่คาดว่า NIM จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ เนื่องจากคาดว่าต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจะถูกชดเชยโดยผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล (จำนวนวันในการคำนวณ EIR เพิ่มขึ้น) และคาดว่า Credit Cost จะเพิ่มขึ้น 28 bps QoQ (เพิ่มขึ้น 190 bps YoY) สู่ 3.8% ใน 2Q66 เพราะ NPL จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2Q66 อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ โดย OPEX จะเพิ่มขึ้น QoQ เล็กน้อยใน 2Q66 อันเป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

 

TIDLOR: คาดว่ากำไร 2Q66 ของ TIDLOR จะลดลง 2%QoQ (NII ที่สูงขึ้นจะถูกหักล้างโดย ECL และ OPEX ที่เพิ่มขึ้น) และ 5%YoY (ECL เพิ่มขึ้น) สู่ 940 ล้านบาท โดนคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อ QoQ จะเร่งตัวขึ้นสู่ 3% (22%YoY) ใน 2Q66 จาก 2% (29%YoY) ใน 1Q66 โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่คาดว่า NIM จะเพิ่มขึ้น 4 bps QoQ เนื่องจากคาดว่าผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล (จำนวนวันในการคำนวณ EIR เพิ่มขึ้น และสัดส่วนสินเชื่อรถบรรทุกลดลง) ในอัตราที่สูงกว่าต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอยู่เล็กน้อย Credit Cost คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 24 bps QoQ (+169 bps YoY) สู่ 3.38% (เทียบกับเป้าหมายเต็มปีของบริษัทที่ 3-3.5%) เพื่อรองรับการตัดหนี้สูญเพิ่มขึ้น 

 

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น 5%QoQ และเพิ่มขึ้น 29%YoY โดยได้แรงหนุนส่วนใหญ่จากรายได้ธุรกิจนายหน้าประกันภัย อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ (แต่ลดลงต่อเนื่อง YoY) โดยมีสาเหตุมาจาก OPEX ที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตลาดและ IT 

 

SAWAD: คาดว่ากำไร 2Q66 ของ SAWAD จะเพิ่มขึ้น 2%QoQ (NII ที่สูงขึ้นจะถูกหักล้างโดย ECL ที่เพิ่มขึ้น) และ 17%YoY (NII เพิ่มขึ้น) สู่ 1.22 พันล้านบาท โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 72%YoY และ 9%QoQ โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ขณะที่คาดว่า NIM จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญราว 107 bps QoQ โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลงจาก >30% สู่ 23% หลังจาก พ.ร.บ.เช่าซื้อ ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 และคาดว่า Credit Cost จะเพิ่มขึ้น 61 bps QoQ (เพิ่มขึ้น 168 bps YoY) สู่ 2% เพราะ NPL จะเพิ่มขึ้นหลังจากขยายสินเชื่อเชิงรุกตั้งแต่ปี 2565 ส่วน OPEX คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการปรับอัตราค่าคอมมิชชันสำหรับดีลเลอร์ลดลงเมื่อเพดานอัตราดอกเบี้ยมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม

 

THANI: คาดว่ากำไร 2Q66 ของ THANI จะลดลง 2%QoQ และ 11%YoY (ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น) สู่ 440 ล้านบาท โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 2%QoQ และ 7%YoY ขณะที่คาดว่า NIM จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ เนื่องจากคาดว่าต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจะถูกชดเชยโดยผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่สูงขึ้น (สัดส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถสูงขึ้น และจำนวนวันในการคำนวณ EIR เพิ่มขึ้น) Credit Cost คาดว่าจะทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY

 

กลยุทธ์และคำแนะนำการลงทุน:

โดยภาพรวม 2Q66 คาดว่ากำไรของบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ภายใต้การวิเคราะห์จะลดลง YoY และค่อนข้างทรงตัว QoQ โดยบริษัทส่วนใหญ่มีแนวโน้มตั้งสำรองเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เพราะ NPL เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้น QoQ (ยังแข็งแกร่ง YoY) และ NIM จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ

 

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคปรับตัวลดลงค่อนข้างมากแล้ว แต่แนะนำให้รอจนกว่าจะเห็นกำไรฟื้นตัว (หวังว่าจะเกิดขึ้นใน 2H66) เพราะคาดว่า NPL จะไหลเข้ามากขึ้นใน 2Q66

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1. ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, 2. ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น, 3. การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคารพาณิชย์ และ 4. ความเสี่ยงด้านกฎหมาย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising