เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 1.17 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12%QoQ, เพิ่มขึ้น 6%YoY) เป็นไปตามคาด แต่สูงกว่า consensus คาด 5% โดย NIM ที่แย่กว่าคาดถูกชดเชยโดยกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและเงินลงทุนที่มากกว่าคาด
รายการที่สำคัญของ KTB ใน 1Q68 มีดังนี้:
- คุณภาพสินทรัพย์: NPL อยู่ในระดับทรงตัว QoQ (เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับ 5% ใน 4Q67 ถ้านำยอดตัดหนี้สูญบวกกลับเข้ามา ซึ่งบ่งชี้ถึง NPL ที่ไหลเข้าเพิ่มขึ้น) credit cost เพิ่มขึ้น 20 bps QoQ (ลดลง 1 bps YoY) มาอยู่ที่ 1.23% LLR coverage ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 182% จาก 183% ณ 4Q67 InnovestX Research คงประมาณการ credit cost ปี 2568 ไว้ที่ 1.15% (ลดลง 3 bps)
- สินเชื่อ: ลดลง 1.3%QoQ, เพิ่มขึ้น 1.7%YoY การเติบโตของสินเชื่อแยกตามกลุ่ม: สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 5.2%QoQ, ลดลง 11%YoY; สินเชื่อภาครัฐ เพิ่มขึ้น 2 QoQ, เพิ่มขึ้น 25.5%YoY; สินเชื่อ SME ลดลง 1.8%QoQ, ลดลง 6.8%YoY; และสินเชื่อรายย่อย 0%QoQ, เพิ่มขึ้น 3.3%YoY ส่วนปี 2568 คงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 0%
- NIM: แย่กว่าคาด, ลดลง 26 bps QoQ (ลดลง 26 bps YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง 37 bps ต้นทุนทางการเงินลดลง 13 bps QoQ ส่วนปี 2568 ปรับประมาณการ NIM ลดลง 18 bps มาอยู่ที่ 2.87% (ลดลง 35 bps) โดยใช้สมมติฐานว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 100 bps ในปี 2568
- Non-NII: สูงกว่าคาด, เพิ่มขึ้น 35%QoQ (เพิ่มขึ้น 7%YoY) หลักๆ เกิดจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและเงินลงทุนที่มากกว่าคาด รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง 6%QoQ (ลดลง 2%YoY) ส่วนปี 2568 ปรับประมาณการการเติบโตของ non-NII เพิ่มขึ้นจาก 2% มาอยู่ที่ 9% เพื่อสะท้อนกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและเงินลงทุนที่มากกว่าคาด
- อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ ลดลง 744 bps QoQ (เพิ่มขึ้น 266 bps YoY) มาอยู่ที่ 25% จากปัจจัยฤดูกาล opex ลดลง 6%QoQ และ 8%YoY
กระทบอย่างไร:
หลังรายงานผลประกอบการ 1Q68 วันนี้ 21 เมษายน 2568 ราคาหุ้น KTB ปรับลง 3.80% สู่ 20.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.7% สู่ 1,143.06 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:
InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลดลง 3% ซึ่งเป็นผลมาจากปรับประมาณการ NIM เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 1Q68 โดยปัจจุบันคาดว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะลดลง 5% ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 0% NIM ที่ลดลง 35 bps credit cost ที่ลดลง 3 bps non-NII ที่เพิ่มขึ้น 9% และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่า KTB จะยังคงจ่ายเงินปันผลที่ 1.55 บาทต่อหุ้น (อัตราจ่ายเงินปันผล 52%) สำหรับปี 2568 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.25%
กลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำ OUTPERFORM และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 27 บาทต่อหุ้น (อิงกับ PBV ปี 2568 ที่ 0.8 เท่า)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง,การขยายสินเชื่อได้ช้าลงเพราะความต้องการสินเชื่อต่ำและการแข่งขันสูง และ ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) และความปลอดภัยทางไซเบอร์
KTB – 1Q68 NIM ที่แย่กว่าคาดถูกชดเชยโดยกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและเงินลงทุนที่ดีกว่าคาด
https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/ktb-update-20250421