×

IVL – 4Q65 ผลประกอบการแย่กว่าคาด เพราะรายการพิเศษ

27.02.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) รายงานผลประกอบการ 4Q65 พลิกเป็นขาดทุน 1.15 หมื่นล้านบาท แย่กว่าคาด โดยมีสาเหตุมาจาก core EBITDA/t ที่อ่อนแอกว่าคาด และรายการด้อยค่าสินทรัพย์สำหรับกลุ่มธุรกิจเส้นใยในยุโรปและกลุ่มธุรกิจ Combined PET (CPET) ในเอเชีย 

 

ขณะที่ขาดทุนสินค้าคงเหลือจำนวน 4.6 พันล้านบาท (133 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ก็มากกว่าคาดด้วย ส่วนกำไรหลักสุทธิอยู่ที่ 411 ล้านบาท (ลดลง 92%YoY และ 96%QoQ) เนื่องจาก core EBITDA/t ลดลงสู่เพียง 82 ดอลลาร์สหรัฐ (ลดลง 34%YoY และ 48%QoQ) เพราะได้รับผลกระทบจากการระบายสต๊อกจำนวนมาก 

 

สำหรับกำไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้น 18% สู่ระดับที่ทำสถิติสูงสุดที่ 3.1 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจาก core EBITDA/t ที่แข็งแกร่ง (เพิ่มขึ้น 31%YoY) หลักๆ เกิดจากธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) 

 

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น IVL ไม่เปลี่ยนแปลง DoD อยู่ที่ระดับ 37.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.23%DoD อยู่ที่ระดับ 1,630.23 จุด (ณ เวลา 12.30 น.)

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 และกลยุทธ์การลงทุน:

ผู้บริหาร IVL กล่าวว่า อุปสงค์และส่วนต่างราคา PET ฟื้นตัวดีขึ้นจาก 4Q65 เนื่องจากการระบายสต๊อกทำให้สินค้าคงเหลือในตลาดลดลง ขณะที่ Sentiment ตลาดเป็นบวกมากขึ้นหลังจีนกลับมาเปิดประเทศ 

 

โดยคาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์จะกลับคืนสู่ระดับปกติในปี 2566 หลังพุ่งสูงขึ้นเป็นเวลาหลายปี โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดชะงักของอุปทานและข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์ ซึ่งทำให้พรีเมียมของส่วนต่างราคา Integrated PET ในยุโรปและอเมริกาเหนือกว้างขึ้น ผลกระทบจากต้นทุนก๊าซสูงน่าจะลดลงจาก >500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 

 

ความสามารถในการแข่งขันของ IVL ยังคงแข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาดระดับสูงของบริษัท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอุปทานที่เชื่อถือได้ ส่วนแบ่งกำไรเต็มปีจาก Oxiteno จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการ YoY โดยเกิดจากอุปสงค์สารลดแรงตึงผิวและ MTBE เพื่อใช้ผสมในน้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่ง ส่วนปริมาณการขายของ IVL คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5%YoY สู่ 15.4 ล้านตันในปี 2566 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ InnovestX Research คาดว่าผลประกอบการ 1Q66 จะฟื้นตัว QoQ เนื่องจากการระบายสต๊อกชะลอตัวลงและ Sentiment ตลาดปรับตัวขึ้น เพราะจีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง แต่ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2566 ลดลง 26% เพื่อสะท้อนสมมติฐาน core EBITDA/t ที่สมเหตุสมผลมากขึ้น (จาก 138 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เป็น 133 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน) 

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนให้เรตติ้ง Outperform ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 62 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PBV 1.7 เท่า (ปี 2566) คิดเป็น EV / EBITDA ที่ 7 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 11 เท่า Valuation ยังไม่แพง ซึ่งปัจจุบันหุ้น IVL เทรดที่ P/E เพียง 7.7 เท่า (ปี 2566) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ >10 เท่า ค่อนข้างมาก

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ 

 

  1. อุปสงค์ลดลง
  2. การปรับปรุงประสิทธิภาพของสินทรัพย์ใหม่ได้ต่ำกว่าคาด
  3. การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลาสติก

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising