×

HMPRO – 3Q67 กำไรเป็นไปตามที่ตลาดคาด

31.10.2024
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 1.44 พันล้านบาท ลดลง 6%YoY และ 11%QoQ เป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยหากไม่นับขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 42 ล้านบาท ใน 3Q67 (เทียบกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 27 ล้านบาท ใน 3Q66 และ 9 ล้านบาท ใน 2Q67)

 

กำไรปกติอยู่ที่ 1.48 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ลดลง 8%QoQ กำไรปกติที่อยู่ในระดับทรงตัว YoY สะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายที่ลดลงจาก SSS และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้น

 

รายการที่สำคัญใน 3Q67 มีดังนี้

 

รายได้ลดลง 3%YoY สู่ 1.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก SSS ที่หดตัวลงไปหักล้างการขยายสาขา ซึ่งประเมินได้ว่า SSS ในร้านโฮมโปร (81% ของยอดขาย) ลดลง 5.8%YoY และร้านเมกาโฮม (17% ของยอดขาย) ลดลง 3.9%YoY ในประเทศไทย เพราะได้รับผลกระทบจาก:

 

  1. การที่ผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ท่ามกลางความกดดันทางด้านปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ

 

  1. ผลกระทบจากฝนที่ตกสูงกว่าเฉลี่ยในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย และสถานการณ์น้ำท่วมเป็นวงกว้างในภาคเหนือและภาคกลางตอนบน

 

  1. ผลกระทบจากการก่อสร้างถนนหน้าร้านโฮมโปร ราชพฤกษ์ ที่ยังคงดำเนินการอยู่ (ทำให้ SSS ลดลงราว 1%YoY) โดนประเมินว่า SSS ที่ร้านโฮมโปรในประเทศมาเลเซีย (2% ของยอดขาย) ลดลง 1.4%YoY

 

ทั้งนี้ ใน 3Q67 HMPRO เปิดสาขาใหม่ 3 สาขา (โฮมโปร หนองคาย, โฮมโปร ระยอง, และเมกาโฮม ระยอง) ส่งผลทำให้บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 133 สาขา ณ สิ้น 3Q67 (เพิ่มขึ้น 3%YoY และ 2%QoQ)

 

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 30 bps YoY สู่ 27.1% จากการมีสัดส่วนยอดขายสินค้า Private Brand ที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เกิดจากร้านเมกาโฮม และส่วนหนึ่งเกิดจากร้านโฮมโปร EBIT Margin แคบลง 20 bps YoY สู่ 12.3% จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 42 ล้านบาท

 

ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง (ลดลง 1%YoY จากค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายจากการจ้างแรงงานภายนอกที่ลดลงมากกว่าค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่ที่สูงขึ้น) ในอัตราที่ช้ากว่ายอดขาย (ลดลง 3%YoY) และรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นในระดับทรงตัว (รายได้ค่าเช่าและบริการสำหรับมอลล์ในแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 8%YoY ถูกหักล้างโดยรายได้อื่นที่ลดลง 8%YoY จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าลดลง)

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น HMPRO ปรับลง 6.86% อยู่ที่ 9.50 บาทต่อหุ้น ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.34% อยู่ที่ 1,450.67 จุด

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:

 

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 3% เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 42 ล้านบาท ใน 3Q67 ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคมถึงปัจจุบันคาดว่า SSS ของ HMPRO จะหดตัวลง โดยจะลดลงในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำถึงระดับกลาง YoY ในร้านโฮมโปร (ลดลงในอัตราที่ช้าลง เทียบกับลดลง 5.8%YoY ใน 3Q67)

 

แต่จะกลับมาเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำถึงระดับกลาง YoY ในร้านเมกาโฮม (เทียบกับลดลง 3.9%YoY ใน 3Q67) จากความต้องการปรับปรุงและซ่อมแซมเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

 

กำลังซื้อที่ดีขึ้นจากการแจกเงิน 10,000 บาทให้แก่กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 157%YoY ในเดือนตุลาคมถึงปัจจุบัน) คาดการณ์ว่า SSS จะปรับตัวดีขึ้น (ด้วยฐานปกติจากผลกระทบเฉพาะสาขาจากการซ่อมถนนในช่วงปลาย 4Q67) การเปิดร้านโฮมโปรใหม่ 2 สาขาตามเป้า และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ากำไร 4Q67 จะเติบโต YoY และ QoQ

 

ปัจจุบันหุ้น HMPRO ซื้อขายที่ PE ปี 2567 ระดับ 20 เท่า (ต่ำกว่าระดับ -2 S.D. จาก PE เฉลี่ย 10 ปีที่ 22 เท่า) และผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 3.9%

 

กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ InnovestX Research ยังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ HMPRO โดยปรับราคาเป้าหมายกลางปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7.0% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) ใหม่เป็น 13 บาทต่อหุ้น (จาก 13.5 บาท)

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือการเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อและนโยบายรัฐบาลใหม่ ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญคือ การบริหารจัดการพลังงานและของเสีย ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) และการบริหารจัดการคุณภาพผลิตภัณฑ์ แนวปฏิบัติด้านการจ้างงาน และความปลอดภัยของข้อมูล (S)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

HMPRO – 3Q67 กำไรเป็นไปตามที่ตลาดคาด: https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/hmpro-20241030

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X