×

หุ้นกลุ่มพลังงาน (น้ำมันและก๊าซ) – ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันปี 2565 ลดลง

11.10.2022
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่ม OPEC+ เห็นชอบลดกำลังผลิตน้ำมันลงมากถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 14 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากการผลิตจริง ผลกระทบที่แท้จริงจะอยู่ที่ ~1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565

 

ในขณะที่อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานจากก๊าซมาเป็นน้ำมันจำนวนมากที่ค่าเฉลี่ย 7 แสนบาร์เรลต่อวัน ใน 4Q65-1Q66 EIA คาดการณ์ว่าอุปสงค์ในฤดูหนาวจะส่งผลทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 จากตุลาคม 2565 ซึ่งหมายความว่าตลาดน้ำมันจะยังคงอยู่ในภาวะขาดดุลใน 4Q65-1Q66


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


โดยจะได้รับการชดเชยบางส่วนจากการปล่อยน้ำมันดิบในคลังปิโตรเลียมสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ออกมาเพิ่มเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

 

อย่างไรก็ตาม แหล่งอุปทานน้ำมันทางเลือกนี้จะพึ่งพาได้น้อยลง เนื่องจาก EIA คาดการณ์ว่าน้ำมันดิบใน SPR จะลดลงเหลือเพียง 375 ล้านบาร์เรล ภายในเดือนธันวาคม 2565 (รองรับการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ 18 วัน) จาก 594 ล้านบาร์เรล ในปีที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ยังคงทำได้ช้า เนื่องจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันยังอยู่ที่ 37% ของจุดสูงสุดในปี 2557

 

ใน 3Q65 ราคาน้ำมันที่อ่อนแอ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของ OPEC จะเป็นบวกต่อราคาน้ำมันในระยะสั้น แต่ราคาน้ำมัน YTD ที่ 103.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบของตลาดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ความกลัวเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

InnovestX Research ได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมัน (เบรนท์) สำหรับปี 2565 ลดลงจาก 108 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สู่ 102 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาเฉลี่ยใน 4Q65 จะอยู่ที่ 97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สอดคล้องกับเป้าหมายของ OPEC ที่ต้องการผลักดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ที่ระดับ >90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากราคาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ที่เพียง 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในเดือนกันยายน 2565

 

อย่างไรก็ดี Upside จะเกิดจากอุณหภูมิที่ต่ำผิดปกติในช่วงฤดูหนาวปี 2565/2566 ซึ่งจะส่งผลทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการทำความร้อนมากขึ้น เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติยังอยู่ในระดับสูง

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน (SETENERG) ปรับเพิ่มขึ้น 0.52%WoW ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.80%WoW

 

มุมมองต่อผู้ประกอบการบริษัทน้ำมันและก๊าซ:

การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ เพื่อพยุงราคาน้ำมัน สร้าง Sentiment เชิงบวกต่อตลาดน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9%WoW สู่ระดับเกือบ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ที่ 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งมองว่าประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นของบริษัทน้ำมันและก๊าซในระยะสั้น ขณะที่อุปสงค์ตามฤดูกาลจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนราคาน้ำมันใน 4Q65

 

ทั้งนี้ InnovestX Research เลือกหุ้นเด่นสำหรับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็น PTTEP และ BCP เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการต้นน้ำโดยตรง ดังนั้นหุ้นเด่นจึงเป็น PTTEP

 

ด้านผู้ประกอบการปลายน้ำยังชอบ BCP เพราะบริษัทมีธุรกิจ E&P ในนอร์เวย์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้นจากการขายไปยังตลาดยุโรป ซึ่งกำไร 4Q65 ของ BCP น่าจะฟื้นตัว QoQ จาก GRM ที่ดีขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซล เชื้อเพลิงเครื่องบิน และน้ำมันเตาจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล อีกทั้งยังจะมีกำไรจากสินค้าคงคลังบางส่วนด้วย

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ

  1. ราคาน้ำมัน GRM และอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน
  2. การเปลี่ยนแปลงความชอบที่ผู้บริโภคมีต่อเชื้อเพลิงฟอสซิล
  3. การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงภาษีคาร์บอนและคาร์บอนเครดิต
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising