×

หุ้นกลุ่มพาณิชย์ – ยังคงอยู่บนเส้นทางการเติบโต

27.06.2022
  • LOADING...
หุ้นกลุ่มพาณิชย์

เกิดอะไรขึ้น:

ยอดขายสาขา (SSS) เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงเดือนเมษายนถึงปัจจุบัน หลังจากเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q21 ยอดขายสาขา (SSS) ของกลุ่มพาณิชย์น่าจะเติบโต 7%YoY ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม (เทียบกับ 9%YoY ใน 2Q21 และ 6%YoY ใน 1Q22) โดยได้รับการสนับสนุนจาก 

 

  1. ฐานต่ำของปีก่อนจากการเริ่มระบาดระลอกที่ 3 ของโควิด 
  2. กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การกลับมาเปิดโรงเรียนและสถานบันเทิงยามค่ำคืน เช่น ผับและบาร์ และการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งของนักท่องเที่ยวชาวไทย (79 ล้านคน, เพิ่มขึ้น 126%YoY ใน 5M22) และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (1.3 ล้านคน, เพิ่มขึ้น 3,677%YoY ใน 5M22)
  3. การปรับราคาสินค้าสืบเนื่องมาจากเงินเฟ้อ (นำโดยสินค้ากลุ่มอาหารสด YTD ซึ่งเป็นบวกต่อผู้ประกอบการค้าปลีกกลุ่มสินค้าจำเป็น) 

 

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากโมเมนตัมแยกตามกลุ่ม ยอดขายสาขา (SSS) ของผู้ประกอบการค้าปลีกกลุ่มแฟชั่น (ห้างสรรพสินค้า) และกลุ่มอาหารเติบโต YoY ในอัตราที่เร็วกว่า 1Q22 แต่ชะลอตัวลงสำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกกลุ่มสินค้าปรับปรุงและตกแต่งบ้าน อันเป็นผลมาจากการหยุดพักกิจกรรมการก่อสร้างในช่วงวันหยุดยาวและฝนที่ตกหนักกว่าปีก่อน 

 

โดยในบรรดาผู้ประกอบการทั้งหมดในกลุ่มพาณิชย์ CRC มีแนวโน้มที่จะรายงาน SSS เติบโตดีที่สุดในกลุ่ม (เพิ่มขึ้นมากกว่า 20%YoY) ตามด้วย CPALL (เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก YoY), BJC และ MAKRO (เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY), HMPRO (เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ YoY) และ GLOBAL (ทรงตัว YoY)

 

กระทบอย่างไร: 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มพาณิชย์ (SETCOMM) ปรับตัวลดลง 7.74%MoM ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 3.98%MoM

 

มุมมองต่อผู้ประกอบการ:

ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มพาณิชย์ปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ย 12% Underperform SET Index อยู่ 6% ซึ่ง SCBS มองว่า สะท้อนถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น 

 

ซึ่งแม้อัตราเงินเฟ้อสูง แต่ SSS ของกลุ่มพาณิชย์น่าจะเติบโตเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันที่ 7%YoY ใน 2Q22TD และจะเติบโต YoY ต่อไปอีกใน 2H22 จากฐานต่ำใน 3Q21 สืบเนื่องมาจากมาตรการล็อกดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ประกอบกับรายได้เกษตรกรและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของยอดขายมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ 

 

อย่างไรก็ดี SCBS ชอบ CRC, CPALL และ BJC เนื่องจากคาดว่ากำไรปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฟื้นตัวจะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ (ผลประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างหนักในปี 2020-2021) และกำไร 3Q22 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากฐานต่ำใน 3Q21 อันเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อประมาณการผลการดำเนินงานคือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ต้นทุนโลจิสติกส์ ค่าสาธารณูปโภค และค่าแรงของกลุ่มพาณิชย์ คิดเป็นสัดส่วน 1-2% ของยอดขาย, 1-2% ของยอดขาย และ 4-9% ของยอดขาย (ลูกจ้างส่วนใหญ่ได้รับค่าจ้างสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ) 

 

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว จึงประเมินได้ว่า อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น 1% จะส่งผลกระทบทำให้กำไรสุทธิปี 2023 ของกลุ่มพาณิชย์ปรับลดลงโดยเฉลี่ย 6% โดย CRC จะได้รับผลกระทบมากที่สุด (9%) ตามด้วย CPALL และ BJC (7%), MAKRO (6%), GLOBAL (3%) และ HMPRO (1%)

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising