เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (3 ตุลาคม) บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลท. โดยมีราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ที่หุ้นละ 2.51 บาท ตามความประสงค์ของ Nomura Asia Investment (Singapore) Pte Ltd (NAIS) ซึ่งถือหุ้นทางตรงใน CNS 85.78% ของจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้วทั้งหมด (1.84 พันล้านหุ้น)
ทั้งนี้กลุ่มบริษัท Nomura ในฐานะบริษัทแม่ของ NAIS ชี้แจงว่า “การเพิกถอนหลักทรัพย์ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการดำเนินการตามกลยุทธ์ทางธุรกิจของกลุ่ม Nomura และจะทำให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มีความรวดเร็วขึ้น อันจะทำให้สามารถเสนอบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า” โดยราคา Tender Offer ที่หุ้นละ 2.51 บาท สูงกว่าราคาปิดวันก่อนหน้าราว 61.93% จึงเป็นเหตุให้ CNS ยื่นเรื่องขอขยายราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ต่อ ตลท. ในเช้าวันนี้ (4 ตุลาคม) ซึ่งทาง ตลท. ได้กำหนดให้ราคาสูงสุดและต่ำสุดในวันนี้ไม่เกิน 1 เท่าจากราคาปิดวันก่อนหน้า
สำหรับขั้นตอนต่อไปคือ การเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญให้ลงความเห็นซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562
กระทบอย่างไร:
เช้านี้ราคาหุ้น CNS เปิดบวกกระโดดขึ้นมาทันทีที่ราคาหุ้นละ 2.42 บาท เพิ่มขึ้น 56.13%DoD และพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 58.71%DoD พร้อมมีปริมาณซื้อขายหนาแน่นกว่า 16.3 ล้านหุ้น ซึ่งสูงกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้าที่ 6.6 หมื่นหุ้น และติด 10 อันดับหุ้นที่มีอิทธิพลทางบวก (Top Positive Impact) ต่อ SET Index ในการซื้อขายช่วงเช้านี้
มุมมองระยะสั้น:
การทำ Tender Offer ข้างต้นไม่ได้กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แต่ด้วยราคาเสนอซื้อที่สูงกว่าราคาปิดวันก่อนหน้า ย่อมส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นในระยะสั้น เนื่องจากหากพิจารณาแล้วว่าส่วนต่างระหว่างราคาตลาดกับราคา Tender offer ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ นักลงทุนย่อมสามารถใช้โอกาสนี้เข้าซื้อเก็งกำไร (Arbitrage) ด้วยการเข้าไปซื้อหุ้นที่ราคาตลาดเพื่อนำไปขายให้แก่ผู้เสนอซื้อที่ราคา Tender Offer
มุมมองระยะยาว:
จากการที่ ตลท. และสำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศเปิดเสรีใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2555 ทำให้มีบริษัทหลักทรัพย์รายใหม่ๆ เข้ามาในธุรกิจเพิ่มขึ้น และเกิดภาวะการแข่งขันด้านราคากันรุนแรงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อบวกกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้มีบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งต้องมีค่าใช้จ่ายพัฒนาการให้บริการด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือระบบซื้อ-ขายอัตโนมัติ (Bot) เพื่อจะได้ตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมของนักลงทุนเองที่หันมาซื้อขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์ปัจจุบันต้องเผชิญแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรเป็นอย่างมาก
ดังนั้นการเพิกถอนหุ้น CNS ออกจากหลักทรัพย์จดทะเบียนครั้งนี้จึงน่าติดตามในระยะยาวว่าบริษัทจะมีความคล่องตัวในการดำเนินงานและตัดสินใจมากขึ้นตามที่คาดหวัง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้ารายใหม่ให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทมีผลกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นตามที่คาดหวังไว้ได้หรือไม่
ข้อมูลพื้นฐาน:
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายทั้งหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน ธุรกิจจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ธุรกิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ ตลอดจนธุรกิจตัวแทนสนับสนุนการขายและซื้อคืนหน่วยลงทุน
ปัจจุบันมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET+MAI) ทั้งสิ้น 711 แห่ง ซึ่งในปีนี้มีบริษัทที่เพิกถอนหลักทรัพย์ไปแล้วทั้งสิ้น 8 แห่ง และบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ 15 แห่ง ข้อมูล ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2562