เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q67 ของ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 14 พฤษภาคม 2567
โดยประเมินกำไรปกติ 1Q67 ของ BDMS ได้ที่ 4.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%YoY และ 1%QoQ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรที่ปรับตัวดีขึ้น YoY จะได้แรงหนุนหลักจากรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่กำไรที่เติบโตเล็กน้อย QoQ เป็นผลมาจากฐานสูงของการดำเนินงานที่แข็งแกร่งใน 4Q66
ด้านรายได้ 1Q67 ประเมินได้ที่ 2.55 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%YoY และทรงตัว QoQ เมื่อแยกตามสัญชาติ เชื่อว่ารายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง (เพิ่มขึ้น 11%YoY และ 7%QoQ, 30% ของรายได้) โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากผู้ป่วยจากประเทศจีน (~2% ของรายได้) และยุโรป (~1%) ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยการเติบโตที่คาดว่าจะชะลอตัวลงของผู้ป่วยจากภูมิภาคตะวันออกกลาง (~4%) ในช่วงรอมฎอน (11 มีนาคม – 9 เมษายน) และเมียนมา (~2%) สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในเมียนมา
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ถึงรายได้ที่แข็งแกร่งจากบริการผู้ป่วยชาวไทย (เพิ่มขึ้น 10%YoY และลดลง 2%QoQ, 70% ของรายได้) โดยได้รับการสนับสนุนจากปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น และรายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นผ่านทางความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นที่โรงพยาบาลที่จัดเป็น Center of Excellence (COE) ส่วน EBITDA Margin ประเมินได้ที่ 25.1% ใน 1Q67 เพิ่มขึ้นจาก 24.7% ใน 1Q66 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้น และทรงตัว QoQ
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BDMS ปรับลง 3.45% สู่ระดับ 28.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.80% สู่ระดับ 1,361.02 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:
พรีวิวกำไร 1Q67 ดังกล่าวจะคิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรเต็มปี โดย InnovestX Research ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ไว้ว่าจะเติบโต 13%YoY สู่ 1.6 พันล้านบาท โดยอิงกับรายได้ที่เติบโต 8% (เทียบกับเป้าของ BDMS ที่ 10-12%) และ EBITDA Margin ที่ 24.9% (เป็นตัวเลขด้านสูงของเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ 24-25% เนื่องจากเชื่อมั่นในความสามารถในการกำหนดราคาของธุรกิจโรงพยาบาล และเชื่อว่า BDMS บริษัทจะใช้ประโยชน์สินทรัพย์ได้ดีขึ้น)
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% ดีกว่า SET ที่ปรับตัวลดลง 2% สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกที่ตลาดมีต่อ BDMS ในฐานะที่เป็นตัวเลือกการลงทุนที่ปลอดภัย กลยุทธ์การลงทุน ยังคงคำแนะนำ Tactical Call ระยะ 3 เดือนไว้ที่ Outperform โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 36 บาทต่อหุ้น BDMS เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นในกลุ่มการแพทย์
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจทำให้เกิดการชะลอการรักษาโรคที่ไม่เร่งด่วน และความไม่สะดวกของผู้ป่วยต่างชาติที่จะเดินทางมารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย อย่างไรก็ดี มองว่าความเสี่ยงนี้น่าจะลดทอนลงได้ เนื่องจาก BDMS มีฐานรายได้ขนาดใหญ่จากผู้ป่วยชาวไทย ในขณะที่รายได้จากการให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติมีการกระจายตัว
ส่วนปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ ความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) ซึ่ง BDMS ได้นำเอาระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง