เกิดอะไรขึ้น:
ใน 4Q66 InnovestX Research คาดว่าการขายที่ดินของ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง และจะหนุนให้เป้าการขายที่ดินในปีนี้เติบโตโดดเด่น ด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่งของ Strategic Location ของประเทศไทย และการย้ายรวมถึงการขยายการผลิตจากต่างประเทศ ทั้งจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น สำหรับเวียดนามคาดยอดการขายที่ดินมีโอกาสชะลอตัวทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจและความชัดเจนของกฎเกณฑ์ต่างๆ
ส่วน AMATA คาดว่าจะทำยอดขายที่ดินในปี 2566 ได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,500 ไร่ จากที่ 9M66 มียอดขายแล้ว 1,203 ไร่ (178 ไร่จากเวียดนาม และ 1,025 ไร่จากในไทย) โดยใน 4Q66 คาดจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ไร่จากกลุ่มนักลงทุนชาวจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เป็นหลักในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (PCB Related) ดังนั้นคาดว่ายอดขายที่ดินในปี 2566 จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 1,700 ไร่ และมีโอกาสสูงถึง 2,000 ไร่ สำหรับยอดขายที่ดินจากนิคมฯ ใหม่ใน สปป.ลาว คาดจะเริ่มในปี 2567
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น AOT ปรับลง 10.04%WoW สู่ระดับ 60.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.56%WoW สู่ระดับ 1,401.42 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
Backlog ในมือแข็งแกร่งมากถึง 10,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาสที่ผ่านมากว่า 4,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดจากในประเทศไทยประมาณ 8,800 ล้านบาท และส่วนที่เหลือมาจากนิคมฯ ในเวียดนาม ดังนั้นคาดรายได้รวมของปี 2566 ที่ 9,075 ล้านบาท เติบโต 40%YoY และกำไรสุทธิที่ 1,897 ล้านบาท (ลดลง 19%YoY) โดยหากลบรายการกำไรจากการขายโรงงานในเวียดนามในปี 2565 ที่ 1,360 ล้านบาท Core Profit เติบโต 110%YoY โดยคาดว่าผลประกอบการ 4Q66 จะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากการโอนที่ดินที่สูงขึ้น และในกรณีที่ดีที่สุดจะมีบันทึกกำไรจากการขายโรงงานในเวียดนามอีก 2 แห่งเข้ามา
ทั้งนี้ InnovestX Research มองว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะในกลุ่ม EV และซัพพลายเชน รวมถึงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ที่ยังมีอุปสงค์ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะหนุนการขายที่ดินของ AMATA ด้วยแรงหนุนของโลเคชันที่ดีและสาธารณูปโภคที่รองรับได้
แม้ยอดขายที่ดินในปี 2566 จะเติบโตสูงและมีโอกาสเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่คาดว่าในปี 2567 จะยังเติบโตได้ต่อจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม การเติบโตของพื้นที่ EEC และยอดขายที่เริ่มเข้ามาจากนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ใน สปป.ลาว
สำหรับ AMATA คงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ฐาน PER ที่ 15.2 เท่า ซึ่งเท่ากับ P/E เฉลี่ยในรอบ 6 ปี ได้ราคาเป้าหมาย 29.10 บาทต่อหุ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ทิศทางเศรษฐกิจโลก ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และติดตามโอกาสและความเสี่ยงของการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ