×

วันวานแห่งการถนอมพนักงานจบลง เมื่อ Meta โตช้าลง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เลยต้องการให้ทำงานหนักขึ้น แต่จะมีคนทนได้มากแค่ไหน?

09.08.2022
  • LOADING...

ตั้งแต่มีคำว่า Facebook ปรากฏขึ้นมาบนโลกออนไลน์ ซีอีโออย่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็มีนิสัยติดตัวในการพูดคุยกับพนักงานอย่างตรงไปตรงมาในช่วงถาม-ตอบประจำสัปดาห์ และแทบไม่มีหัวข้อใดที่เกินขอบเขต แต่เมื่อบริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลาถาม-ตอบนี้มีความ ‘เฟก’ มากขึ้น โดยเขาเริ่มไม่มาถาม-ตอบ และให้ผู้บริหารคนอื่นตอบคำถามแทน

 

ตัวตนที่แท้จริงของเขาปรากฏตัวขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน โดยบางครั้งเขาดูเหมือนนายพลที่กำลังเตรียมกองทหารสำหรับออกรบ บางครั้งเขาก็เหมือนผู้มีวิสัยทัศน์แสนอัศจรรย์ แต่ส่วนใหญ่เหมือนเขาแค่หงุดหงิด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


โดยจากคำถามของพนักงานคนหนึ่งที่ถามถึงวันหยุดเพิ่มเติมของ ‘Meta’ ที่ถูกเพิ่มมาในช่วงการระบาดของโควิดว่าจะทำในปีต่อๆ ไปหรือไม่ นั่นทำให้มาร์กไม่ชอบใจสักเท่าไรนัก “เอ่อ โอเค” พร้อมทุบโต๊ะไปด้วย

 

เขากล่าวว่า ‘ขาลงของเศรษฐกิจที่แย่ที่สุด’ กำลังมาเยือน และได้หยุดจ้างงานในหลายตำแหน่งไปแล้ว พร้อมทั้งการที่คู่แข่งอย่าง TikTok ได้แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปหมด โดยบริษัทต้องรออีกนานกว่าจะเห็นหนทางในการแย่งคืน

 

“ฟังจากน้ำเสียงของผมในช่วงถาม-ตอบนี้นะ พวกคุณคงคิดได้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับคำถามนั้น” มาร์กกล่าว พร้อมทั้งยกเลิกวันหยุด Meta Days

 

สำหรับมาร์ก บริษัทที่เขาก่อตั้งกำลังเผชิญกับภัยอันตรายมากมาย ทั้ง Facebook และ Instagram ถูกดีไซน์ใหม่เพื่อแข่งกับ TikTok และจากอัปเดตความเป็นส่วนตัวใหม่จาก Apple ทำให้ธุรกิจการโฆษณามูลค่าหลายพันล้านของพวกเขาต้องชะงักลง ส่งผลให้เขาต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมภายในบริษัทอย่างเร่งด่วน

 

“ตามจริงเลยนะ มีหลายคนมากที่ไม่ควรอยู่ที่นี่” เขากล่าวในการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นั่นทำให้วันวานแห่งการถนอมพนักงานจบลง ณ Meta 

 

พนักงานส่วนใหญ่ไม่เชื่อสิ่งที่พวกเขาได้ยิน “แล้วใครเป็นคนจ้างพวกเรามากัน?” พนักงานคนหนึ่งกล่าว และนั่นทำให้เกิดความตึงเครียดครั้งใหญ่ระหว่างซีอีโอของบริษัทและพนักงาน

 

แย่กว่าที่คิด

สำหรับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ช่วงการระบาดของโควิดคือเวลาแห่งการทำกำไร ซึ่งต่างจากอุตสาหกรรมอื่นตรงที่บริษัทเทคโนโลยีนั้นเหมาะกับการทำงานทางไกลมากกว่า และมาร์กได้ยืดอกรับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างผ่าเผย “เราจะเป็นบริษัทชั้นนำในการทำงานทางไกล” เขากล่าวกับ The Verge ในปี 2020

 

เมื่อเกิดการล็อกดาวน์ Facebook หยุดการประเมินพนักงาน และให้ระดับการประเมิน ‘เกินความคาดหมาย’ แก่ทุกคนพร้อมโบนัส 1,000 ดอลลาร์ โดยเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว ทุกคนสามารถทำงานเวลาไหนก็ได้ที่ต้องการ และในช่วงเดียวกันบริษัทก็ได้จ้างพนักงานเพิ่มเป็นจำนวนมาก

 

และล่าสุดระหว่างการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน จากรายงานของ Reuters และ The New York Times มาร์กกล่าวชัดเจนว่าบริษัทของเขาในยุคการระบาดนี้นั้น ‘อ่อนแอ’ เกินไป และถึงเวลาการรีบู๊ตวัฒนธรรมการทำงานใหม่

 

“ในยุคโควิดผมคิดว่าได้เอนเอียงไปทางความยืดหยุ่นและความสบายสำหรับพนักงานมากเกินไป” เขากล่าว แต่ตอนนี้เขาเห็นว่าหลายคนเริ่มหายไปทำเรื่องส่วนตัวขณะทำงาน ซึ่งมันทำให้ยากสำหรับเขาที่จะเรียกทุกคนมาประชุมร่วมกัน

 

“จากสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดตอนนี้ ผมว่ามันเป็นเวลาที่ต้องเอียงไปทาง ‘ตัดสินใจตอนนี้ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง’” โดยหลังจากนี้พนักงานทุกคนต้องว่างตอนเที่ยงเพื่อคอยประชุม

 

และไม่ใช่แค่ตารางเวลาที่ต้องปรับ มาร์กต้องการให้พนักงาน ‘คำนึงถึงต้นทุน’ ผ่านการหยุดและลดจำนวนพนักงานของโปรเจกต์ที่มีความสำคัญน้อย และลดแผนการจ้างวิศวกรของปีนี้ลง 30%

 

Facebook กลายเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี 2012 และกลายเป็นตลาดกระทิงได้นานที่สุดในประวัติศาสตร์ของหุ้นในสหรัฐฯ โดยเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด นักลงทุนต่างหลั่งไหลเข้าสู่หุ้นของบริษัทเทคโนโลยี ทำให้มูลค่าของ Facebook พุ่งทะลุเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และได้รีแบรนด์เป็น Meta ในเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว ไม่กี่เดือนก่อนที่ตลาดหุ้นจะร่วงดิ่งมาจนถึงตอนนี้

 

และมีสัญญาณหลายอย่างที่จะทำให้ Meta อยู่ในจุดเสี่ยง หนึ่งในนั้นคือการรีแบรนด์เพื่อตอบรับความฝันของมาร์กกับโลกจำลองเสมือนจริงอย่าง ‘Metaverse’ ที่ยังเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม และบริษัทคงยังไม่เห็นกำไรแน่ๆ ในทศวรรษนี้

 

สองคือการที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีตัดสินใจที่จะโฟกัสไปที่ ‘ความเป็นส่วนตัว’ มากขึ้น โดยแนะนำระบบใหม่อย่างการอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถปิด ‘การติดตามข้ามแอปพลิเคชัน’ ได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ของ Apple ได้จมธุรกิจโฆษณาของ Facebook ที่พึ่งพาการติดตามข้ามแอปเพื่อข้อมูลโฆษณาที่ตรงยิ่งขึ้น ให้หายไปกับน้ำทะเล

 

มีม Coast, Coasters, Me

เกือบจะทันทีหลังมาร์กบอกว่า “มีใครหลายคนไม่สมควรอยู่ที่นี่” พนักงานทั้งหลายตั้งคำถามว่า ‘แล้วมันเป็นใคร?’ หนึ่งในพนักงานโพสต์บน Google Workspace ว่า “คนรอบตัวฉันไม่เห็นขี้เกียจเลย” และ “ผมเห็นแต่พนักงานที่ทำงานหนักและเฉลียวฉลาด เอาจริงเลยนะ ที่ได้ยินว่าบางคนไม่สมควรอยู่ที่นี่จากหัวหน้า แทนคำว่า ‘นี่คือความท้าทายใหม่ มาทำมันไปด้วยกันเถอะ‘ มันทำให้ใจสลายและยากที่จะก้าวข้ามมันไป”

 

คำพูดของมาร์กชัดเจนขึ้นเมื่อหนึ่งในผู้บริหารฝ่ายวิศวกรอย่าง มาเฮร์ ซาบา บอกกับผู้จัดการทั้งหลายให้ส่งรายชื่อ ‘คนที่ต้องการความช่วยเหลือ’ และ ‘ไล่คนที่ไม่ไหวออก‘ 

 

“ถ้าใครไม่ไหวแล้ว หรือทำงานได้ต่ำกว่าเกณฑ์ พวกเขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ พวกเขากำลังทำให้บริษัทตกต่ำ” เขากล่าวในโพสต์ที่ถูกลบซึ่งเผยแพร่โดย The Information โดยข้อความข้างต้นอยู่บนแอป Blind ซึ่งเป็นกระดานข่าวไม่ระบุตัวตนสำหรับนักเทคโนโลยีทั้งหลาย “ในฐานะผู้จัดการ คุณไม่สามารถให้คนที่วางตัวเป็นกลางหรือลบทำงานอยู่ใน Meta ได้”

 

“Coasters รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร” หนึ่งในพนักงานโพสต์บน Google Workspace หลังโพสต์ของซาบาหลุดออกมาสู่สาธารณะ และคำนี้ได้กลายเป็นมีมในบริษัทอย่างแพร่หลาย อย่างคำว่า ‘Coast, Coasters, Me’ ซึ่งเล่นคำกับ ‘Meta, Metamates, Me’ คำโปรยใหม่ของ Meta สำหรับแพลตฟอร์ม 

 

โดยพนักงานคนหนึ่งโพสต์โปสเตอร์ล้อเลียนบน Google Workspace พร้อมคำโปรย ‘คุณควรอยู่ที่นี่หรือไม่’ ตัวใหญ่ และพนักงานอีกคนโพสต์รูปมาร์กขณะอยู่บนกระดานโต้คลื่นพร้อมถือธงสหรัฐฯ ไว้ พร้อมแคปชัน “ดูไอ้หมอนี่ล่องเรือสิ”

 

ทนเจ็บกว่านี้

ในความคิดของมาร์ก ความคาดหวังที่ลดลงคือสัญญาณตาย โดยเขามองว่าอีก 2 ปีข้างหน้าคือจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการเดิมพันไปสู่จุดสูงสุด ซึ่งก็คือการให้ความบันเทิงผู้ใช้จาก ‘Reels’ ที่ต้องทำให้ AI แนะนำคลิปสั้นให้ดีเท่าคู่แข่ง TikTok และการทำให้โฆษณาทั้งหลายใช้ข้อมูลน้อยลง การเดิมพันเหล่านั้นต้องออกมาดี เพื่อนำเงินทุนไปลงกับฝันของเขาอย่าง ‘โลกจำลอง Metaverse’

 

การเดิมพันของเขาคือความคิดที่ว่าอนาคตที่เขาลงทุนนั้นมันน่าหลงใหล และผลกำไรในระยะยาวจะมีค่าตอบแทนมหาศาลจนคุ้มกับการต่อสู้ ณ ตอนนี้ 

 

แต่ในบริษัท หลายคนกังวลว่าเขาอาจคิดผิด โดยหากไม่มีราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้พนักงานมีความสุขขณะลงทุนกับอนาคต ระยะห่างระหว่างเขากับพนักงานก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานใหม่ก็เสมือนกับการสร้างบริษัทใหม่เลยทีเดียว

 

ภาพ: Alex Brandon-Pool / Getty Images

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X