มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เดิมพันอนาคตของบริษัทตนเองกับ Virtual Reality โดยเมื่อปีที่แล้วบริษัทได้เปลี่ยนชื่อตัวเองจาก Facebook เป็น Meta เพื่อฉายไฟไปยังโลกเสมือนของตนเองที่มีชื่อว่า ‘Metaverse’ ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงที่มาร์กวาดฝันไว้ว่าผู้คนจะเข้ามาใช้เวลาของพวกเขาในนั้นมากขึ้น
Meta กล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ทางบริษัทจะใช้จ่ายอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.6 แสนล้านบาท เพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี Virtual Reality และ Augmented Reality ในปีนี้
และล่าสุดมาร์กได้ออกมาเผยความคืบหน้าของเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของตน โดยการเปิดเผยต้นแบบหูฟังมากมายที่ยังสร้างไม่เสร็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Meta เปิดตัวฟีเจอร์ร้านเสื้อผ้าสำหรับตัวอวาตาร์ ที่มีแบรนด์แฟชั่นทั้ง Balenciaga, Prada และ Thom Browne มาขายด้วย
- การเดิมพันครั้งใหญ่ของ Meta ใน Metaverse อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด
Meta กำลังพัฒนาจอ VR รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่สมจริงพอให้กับผู้ใช้ เพื่อให้รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องกับ Avatar ในโลกเสมือนจริงๆ มาร์กกล่าวระหว่างการสาธิต โดยจอภาพในปัจจุบันมีความละเอียดต่ำ การแสดงผลภาพที่ไม่ตรง และใส่นานไม่ได้
“อีกไม่นานเราจะสามารถสร้างภาพที่ตรงและสมบูรณ์แบบได้” มาร์กกล่าว “มันเหมือนอยู่ตรงนั้นจริงๆ มากกว่าการจ้องจอคอมพิวเตอร์”
ไม่กี่ปีมานี้ Meta มักโชว์ความคืบหน้าของตัวต้นแบบของอุปกรณ์ VR และแว่น AR ให้พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจและสื่อทั้งหลายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดงให้นักลงทุนเห็นว่าโครงการนี้คุ้มค่า คุ้มเวลา ตลอดจนให้พนักงานมีประสบการณ์กับ VR และ AR
“ต้นแบบพวกนี้มีทั้งสั่งทำและที่ทำขึ้นเองในห้องแล็บของเรา พวกมันจึงไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่พร้อมใช้งาน” มาร์กกล่าว
โดยต้นแบบที่โชว์ ได้แก่
- Butterscotch อุปกรณ์ทดสอบจอภาพที่มีความละเอียดสูงจนตาเปล่าของมนุษย์ไม่สามารถแยกได้
- Half Dome 3 ชุดหูฟังสำหรับ VR โดยบริษัทได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2017 เพื่อทดสอบจอประเภทที่เปลี่ยนจุดโฟกัสของเลนส์แว่นได้ โดยเทคโนโลยีของ Half Dome ความละเอียดและคุณภาพของภาพเพิ่มขึ้นพอที่จะให้ผู้ใช้สร้าง ‘จอคอมบิ๊กเบิ้ม’ ภายในชุดแว่น VR ของตนเองได้
- Holocake 2 ‘ชุดแว่น VR ที่เบาและบางที่สุด’ ของบริษัท สามารถใช้ซอฟต์แวร์ VR ใดๆ ก็ได้ได้อย่างเต็มที่หากเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แต่ต้องใช้เซ็นเซอร์ของบริษัทที่มีราคาแพงเกินสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
“ในชุดแว่น VR ส่วนใหญ่ เลนส์มีความหนาและต้องอยู่ห่างจออย่างน้อย 2-3 นิ้ว เพื่อให้สามารถโฟกัสและแสดงผลได้อย่างเหมาะสม” โดยใน Holocake 2 จะใช้เลนส์โฮโลแกรมแบบแบนเพื่อลดความเทอะทะ
Starburst เป็นการวิจัยจอประเภทแสดงผลสูง ความสว่างและความกว้างที่เพิ่มขึ้น บริษัทกล่าวว่า HDR เป็นเทคโนโลยีเดียวที่เชื่อมความสมจริงและความลึกของภาพมากที่สุด ซึ่งมาร์กกล่าวว่า “เป้าหมายของทุกงานคือการกำหนดทิศเพื่อปูทางไปสู่โลกเสมือนจริง”
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP