ในปี 1963 อาร์มิ ราเทีย ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Marimekko เคยกล่าวว่า “ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ขายเสื้อผ้า แต่ฉันนำเสนอวิถีแห่งการใช้ชีวิต Marimekko คืองานออกแบบ ไม่ใช่แฟชั่น ฉันขายไอเดียให้คนออกแบบชีวิตมากกว่าขายชุดเดรสให้คนแค่นำไปใส่”
ความคิดนี้ได้ถูกถ่ายทอดและสะท้อนผ่านแบรนด์ Marimekko มาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อตั้งในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในปี 1951 โดย อาร์มิ ราเทีย และริตตา อิมโมเนน ก่อนจะโด่งดังทั่วโลกกับราว 160 สาขาใน 40 ประเทศทุกวันนี้ และบริษัทยังเปิดขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ฟินแลนด์ ซึ่งยอดขายสินค้าของปี 2017 อยู่ที่ 193 ล้านยูโร
ล่าสุดทางแบรนด์ได้เปิดตัวคอลเล็กชัน Spring/Summer 2018 ที่ใช้ชื่อว่า Growth Story เล่าเรื่องการเติบโตของแบรนด์ที่ได้นำลวดลายคลาสสิกจากอาร์ไคฟ์ช่วงปี 1950-1960 ของดีไซเนอร์ระดับไอคอนิกอย่าง ไมยา อิโซลา และแอนนิกา ริมาลา มาใช้ พร้อมยังผสมผสานผลงานของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ปาโว เฮโลเนน และเออร์ยา เฮอร์วี เพื่อสร้างมิติใหม่ โดยเนื้อผ้าทั้งหมดยังคงผลิตที่โรงงานพิมพ์ผ้าในเมืองเฮลซิงกิ
ด้านโครงของชุดที่มีการไปโชว์ที่ Paris Fashion Week มาแล้วก็ยังมีความฟังก์ชันนัลกับรูปทรงที่สวมใส่ง่าย ไม่ซับซ้อนจนเกินไป และทำให้เป็นชุดที่ดูร่วมสมัย แต่ไม่พยายามเดินตามเทรนด์และเป็นสินค้าที่ใส่ได้แค่ชั่วคราว
ส่วนอีกหนึ่งความพิเศษของคอลเล็กชันนี้คือมีการทำกระเป๋าผ้า Tote Bag-Exclusively for Thailand กับลายดอกป๊อปปี้ (Unikko) สีชมพูและสีเบจ ผลิตเพื่อประเทศไทยเท่านั้นในโอกาสฉลอง 3 ปีในตลาดบ้านเรา โดยใครช้อปครบ 20,000 บาทที่ร้าน Marimekko จะได้รับฟรี 1 ใบ หรือถ้าใครซื้อสินค้าในเครือธนจิรา (Pandora, Jonathan Adler, Cath Kidston, Tilda) ครบ 5,000 บาท ก็สามารถแลกซื้อกระเป๋านี้ในราคา 1,500 บาท
Tote Bag-Exclusively for Thailand
อ้างอิง:
