ในวันที่ 20 เมษายนนี้ จะถึงคิวการดวลกันในเกมฟุตบอลบิ๊กแมตช์ รายการเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ 2023/24 ระหว่างทัพ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ แข่งขันในเวลา 23.15 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN SPORTS 3
และเช่นเคย THE STANDARD SPORT รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งแมนฯ ซิตี้และเชลซี รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ เกมที่มีผลต่อการลุ้นเข้ารอบชิงฯ รายการฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง ‘เอฟเอคัพ’
ความพร้อมแมนฯ ซิตี้
ฤดูกาลนี้แมนฯ ซิตี้เหลือลุ้นแชมป์เพียง 2 รายการ นั่นคือพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ ขณะที่การตกรอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย คือผลงานล่าสุดของลูกทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา หลังปราชัยต่อเรอัล มาดริด ในการดวลจุดโทษ 3-4 (ผล 2 นัด เสมอ 4-4) เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทัพเรือใบสีฟ้าอาจไม่ได้อยู่ในจุดที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน แต่ปัจจุบันพวกเขายังมีผลงานในภาพรวมที่น่าพอใจ กับการทำผลงานแบบเน้นเกมต่อเกม จนกลับไปยึดจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง ด้วยความที่มีนักเตะชั้นยอดหลายราย รวมถึงแท็กติกที่ดีจากเป๊ปยังทำให้พวกเขาเป็นทีมที่น่าเกรงขาม และไล่บดเกมรับคู่แข่งตลอดเวลา
ส่วนสภาพความพร้อมก่อนเกมนี้ พวกเขาไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ แต่เรื่องความฟิตของเหล่านักเตะตัวหลักยังคงต้องเช็กกันเป็นรายบุคคลอีกครั้ง หลังจากนัดล่าสุดพวกเขาต้องสู้กับราชันชุดขาวแบบ 120 นาทีเต็ม และมีเวลาพักเพียง 2 วันเท่านั้น แต่ก็เชื่อว่าในเกมสำคัญแบบนี้ เป๊ปจะยังยึดผู้เล่นตัวเก่งลงสนามกับแบบครบทีม
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู), จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานยี, รูเบน ดิอาส, ริโก ลูอิส, โรดรี, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด ซิลวา, ฟิล โฟเดน, แจ็ค กรีลิช และ เออร์ลิง ฮาลันด์
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
- แพ้ เรอัล มาดริด 1-1 (จุดโทษ 3-4 / UCL)
- ชนะ ลูตัน ทาวน์ 5-1 (Premier League)
- เสมอ เรอัล มาดริด 3-3 (UCL)
- ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2 (Premier League)
- ชนะ แอสตัน วิลลา 4-1 (Premier League)
ความพร้อมเชลซี
ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสิงห์บลูส์เชลซีในมือของ เมาริซิโอ โปเชตติโน แม้จะมีเกมที่สะดุดเสมอบ้าง แต่พวกเขาไม่แพ้ให้กับทีมใดมาเป็นเวลา 8 นัดติดต่อกันแล้ว และยิงรวมกันได้มากถึง 26 ประตูจากจำนวนเกมดังกล่าว
เกมนัดล่าสุดพวกเขาปล่อยของระเบิดเกมรุกด้วยการถล่มเอฟเวอร์ตัน 6-0 และมีเวลาพักยาวถึง 5 วันเต็มๆ ก่อนเกมนัดนี้ น่าจะทำให้สภาพความพร้อมของทีมอยู่ในจุดที่ดีกับจำนวนผู้เล่นที่มีอยู่
ส่วนปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บตอนนี้มีทั้งหมด 10 ราย เช่น รีซ เจมส์, โรเมโอ ลาเวีย, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู รวมถึง เอนโซ เฟร์นันเดซ กองกลางคนสำคัญเป็นรายล่าสุดที่อยู่ในลิสต์นักเตะบาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นตัวความหวังคนอื่นๆ พร้อมลงสนามในเกมนี้ทั้งหมด
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
จอร์เจ เปโตรวิช (ผู้รักษาประตู), มาโล กุสโต, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก ซิลวา, มาร์ก กูกูเรยา, มอยเซส ไกเซโด, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, โคล พาลเมอร์, โนนี มาดูเอเก, มิไคโล มูดริก และ นิโคลัส แจ็คสัน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 3 เสมอ 2
- ชนะ เอฟเวอร์ตัน 6-0 (Premier League)
- เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2 (Premier League)
- ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 (Premier League)
- เสมอ เบิร์นลีย์ 2-2 (Premier League)
- ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 (FA Cup)
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกันเป็นฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีสถิติเหนือกว่าชัดเจน โดยเฉพาะผลงานในฤดูกาลก่อนที่เอาชนะได้ทั้ง 3 นัดที่ดวลกัน และเมื่อมองผลงานในระยะยาวทีมของ เป๊ป กวาดิโอลา ไม่แพ้ทัพสิงห์บลูส์มานานกว่า 8 เกม
โดยนัดล่าสุดที่เชลซีสามารถเอาชนะแมนฯ ซิตี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่ทัพสิงห์บลูส์เฉือนเอาชนะได้ 1-0 ในยุคการคุมทีมโดย โธมัส ทูเคิล
และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เชลซี (Premier League 2023/24)
- เชลซี 4-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Premier League 2023/24)
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เชลซี (Premier League 2022/23)
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 เชลซี (FA Cup 2022/23)
- เชลซี 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Premier League 2022/23)
โปรแกรมถ่ายทอดสด
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ 2023/24 เกมบิ๊กแมตช์ระหว่างทัพ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ แข่งขันในเวลา 23.15 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN SPORTS 3