หลังจากที่ลิเวอร์พูลเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก และมีคะแนนทิ้งห่างระหว่างพวกเขาถึง 13 แต้ม แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 3 ที่มีโอกาสไล่กลับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 กลับโยน 3 คะแนนทิ้งไปหลังจากที่โดนวูล์ฟแฮมป์ตันแซงขึ้นมาเอาชนะไป 3-2 ในศึกพรีเมียร์ลีกคืนวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยซิตี้กลายเป็นรองก่อนตั้งแต่นาทีที่ 12 เมื่อ เอแดร์สัน ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม พุ่งปะทะใส่ ดิโอโก โจตา ทำให้โดนใบแดง และต้องเปลี่ยน เซร์คิโอ อเกวโร ออกแล้วให้ เคลาดิโอ บราโว ลงมาแทน
แม้ว่า ราฮีม สเตอร์ลิง จะยิงพาทีมขึ้นนำก่อนถึง 2-0 จากจุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 21 และ ในครึ่งหลังนาทีที่ 50
แต่ตั้งแต่นาทีที่ 54 วูล์ฟแฮมป์ตันไล่ขึ้นมากเป็น 1-2 จาก อดามา ตราโอเร ต่อด้วย นาที 82 ราอูล ฆิเมเนซ ตีเสมอเป็น 2-2 และปิดท้ายด้วยนาทีที่ 89 แมตต์ โดเฮอร์ตี ยิงประตูชัยพาทีมแซงขึ้นมาชนะซิตี้ไป 3-2 ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีคะแนนเท่าเดิมที่ 38 คะแนน และตามหลังลิเวอร์พูลจ่าฝูงอยู่ถึง 14 คะแนน
หลังเกม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกมายืนยันอีกครั้งว่าการไล่ล่าตำแหน่งหัวตารางจากลิเวอร์พูลเป็นเรื่องเกินจริง และทีมต้องยอมรับว่าในเวลานี้ไม่ใช่ทีมอันดับท่ี 1 อีกต่อไป นอกจากนี้ทีมยังต้องโฟกัสไม่ให้หลุดจากตำแหน่ง Top 4 ให้ได้
“เราไม่สามารถให้ความสำคัญกับฟุตบอลถ้วย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเราอาจจะไม่ได้เล่นในยุโรปในฤดูกาลหน้า
“เราเคยชินกับการเป็นที่ 1 และตอนนี้เราห่างจากตำแหน่งนั้นมาก เราต้องเปลี่ยนวิธีการคิด”
“ผมบอกหลายรอบแล้วว่าเป็นเรื่องเกินจริงที่เราจะไล่ลิเวอร์พูลให้ทัน เราต้องคิดถึงเลสเตอร์ แล้วตอนนี้เราต้องพยายามไล่อันดับที่ 2 เพราะก่อนหน้านี้เรามีโอกาสก้าวขึ้นไปที่ 2 แต่เรากลับคงอยู่ในอันดับที่ 3
“พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ยาก โดยเฉพาะเกมนี้ที่เราสร้างความได้เปรียบก่อน แต่สุดท้ายไม่สามารถรักษามันไว้ได้ พวกเขาต่อสู้อย่างยอดเยี่ยม วิ่งครบจนถึงนาทีสุดท้าย เราเสียประตูที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“ทีมของเราต่อสู้แบบที่ผมไม่มีอะไรต้องเสียดาย ในระดับนี้เราต้องเล่นแบบ 11 เจอ 11 คน คุณจะมีโอกาสป้องกันประตูได้ แต่บางครั้งความเหนื่อยล้าก็ทำให้ทุกอย่างยากลำบากเหลือเกิน”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
