×

ธรรมะแกลเลอรี… คอมมูนิตี้กลางหุบเขาใกล้กรุงเทพฯ ‘หอมนสิการ’ ที่ท่องเที่ยวใหม่ มีนักท่องเที่ยวทะลุแล้วกว่า 10,000 คน

โดย THE STANDARD TEAM
12.06.2023
  • LOADING...

หากคุณกำลังมองหาทริปเที่ยวที่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 90 นาที แต่ได้เห็นวิวภูเขาสุดลูกหูลูกตา แวะดื่มกาแฟกับคาเฟ่สุดชิค และปิดทริปด้วยอาหารระดับโรงแรม 5 ดาว เราขอให้คุณเสิร์ช Google Maps แล้วมากันที่ ‘หอมนสิการ’ จังหวัดสระบุรี

 

‘หอมนสิการ’ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกของโลก ที่มาในรูปแบบของหลักคำสอนทางพุทธศาสนาผนวกเข้ากับพุทธประวัติในแบบที่เป็นภาพ แสง สี และเสียงบรรยาย รวมถึงวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์ซึ่งเป็นหนึ่งในงานศิลปะร่วมสมัย ให้คุณได้ซึมซับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 แบบที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ‘หอมนสิการ’ จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและวัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ปลุกจิตสำนึกในศีลธรรม และเผยแผ่ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนสู่สาธารณชนวงกว้าง โดยไม่มีเส้นแบ่งทางศาสนา

 

 

นอกจากหอมนสิการจะมีฉากหลังเป็นทัศนียภาพที่งดงามตระการตา และเหมาะแก่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกช่วงเวลาเป็นอย่างยิ่งแล้ว ภายในยังมีนิทรรศการจำลองเส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประหนึ่งได้ย้อนเวลาไปที่อินเดียเมื่อ 2,500 ปีก่อน ด้านในสุดของหอคือ หอจัตุรัส มีการประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อการสักการะ ทำให้ผู้มาเยือนเดินทางกลับไปแบบไม่ว่างเปล่า ได้ทั้งข้อคิดเกี่ยวกับหลักการดำรงชีวิต เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา และยังมีการออกแบบให้ผู้เข้าชมได้ทดลองเรียนรู้ฝึกสมาธิเบื้องต้นแบบไม่มีพิธีรีตอง เพื่อสัมผัสความสงบใจ และนำกลับไปใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน

 

 

ทุกส่วนของมนสิการมี 2 ภาษากำกับ เพื่อรองรับทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนนิทรรศการด้านในหอมนสิการมีให้บริการ Audio Guide ถึง 9 ภาษา ทั้งภาษาไทย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมัน, สเปน, รัสเซีย, จีน และญี่ปุ่น ด้วยความตั้งใจของผู้สร้าง เพื่อให้ประสบการณ์ที่ได้รับทั้งหมดนำมาสู่หลักการดำเนินชีวิตอย่างมีศีลธรรม หรือเรียกอีกอย่างว่า การไตร่ตรองโดยแยบคาย คือคำแปลของคำว่า ‘มนสิการ’ 

 

สถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน

 

 

ส่วนแรก: ด้านหน้ามีกันสาดที่มีลวดลายอาคารแบบนีโอคลาสสิก  

 

ทางเดินด้านในช่วงนิทรรศการมีลักษณะเป็นอุโมงค์โค้งมน แบบอุโมงค์ทางเดินริมฝั่งแม่น้ำ Arno ด้านหน้าของ Uffizi Museum ที่ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ก่อให้เกิดมิติที่สวยงามและน่าค้นหา  

 

ตัวอาคารเป็นหอประดิษฐานพระบรมโลกนาถ พระพุทธรูปองค์สีทอง ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ตลอดจนพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาต่างวาระ 18 พระองค์ และภาพปักพระบรมโลกนาถ โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมแรกเริ่มทั้งภายนอกและภายในมีความร่วมสมัย ไม่เป็นตามแนวประเพณีจนเกินไป และยอดหลังคาได้แรงบันดาลใจมาจากโบสถ์วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นศิลปะอยุธยาตอนต้นผสมผสานศิลปะแบบขอม 

 

“เมื่อผู้เข้าชมได้เห็นและเข้ามาในบริเวณนี้ จะสัมผัสได้ทันทีถึงความสง่างามและความร่วมสมัยที่น้อมใจของผู้ที่ได้พบเห็น เกิดความนอบน้อมต่อพระบรมศาสดาอย่างสูงสุด”  

 

ส่วนการแสดง: ทางเดินนิทรรศการเส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า (The Buddha’s Path: An Exhibition Passageway)

 

จุดแรกที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสคือ ทางเดินนิทรรศการ ‘เส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า’ นิทรรศการร่วมสมัย ‘จำลองมรรคาและคำสอนของพระพุทธเจ้า’ หรือ ‘Journey to the Life of Buddha’ วิถีแห่งความเสียสละกว่าที่พระพุทธองค์จะทรงบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า ในบรรยากาศแบบโบราณแต่ยังคงมีความทันสมัย ผ่านการจัดแสดงแบบ Interactive ด้วยงานศิลปะร่วมสมัย ให้ได้ซึมซับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 นำพาผู้ชมย้อนสู่ครั้งพุทธกาล บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะที่กว่าจะพบทางแห่งธรรมอันสูงสุด จนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า 

 

 

ฝั่งนิทรรศการขาออกจะนำผู้ชมกลับมาสู่ยุคปัจจุบัน ให้ได้พิจารณาพระธรรมคำสอนที่แฝงอยู่ในงาน การใช้ชีวิตบนเส้นทางแห่งความดีงามด้วยการรักษาศีล 5 อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเกิดปัญญา เห็นความจริงของโลก จนนำไปสู่การเข้าธรรมแห่งการหลุดพ้น 

 

 

ส่วนชั้นใน: กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปพระบรมโลกนาถ และภาพปักพระบรมโลกนาถ

 

ณ หอจัตุรัสอันศักดิ์สิทธิ์และงดงามอร่ามด้วยสีทอง ตัดกับผ้าไหมสีแดงที่ตกแต่งอย่างละเอียดและประณีต ส่งผลให้เกิดบรรยากาศแห่งความสง่างาม หอนี้เป็นที่ประดิษฐาน ‘พระบรมโลกนาถ’ พระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ปิดทองคำบริสุทธิ์งดงามผุดผ่อง 

 

หนึ่งในมวลสารหลักที่ใช้หล่อพระพุทธรูปคือ มวลสารดินจากกุสินารา และทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งพิธีเททองหล่อพระจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ บริเวณหน้าหอมนสิการ 

 

องค์พระบรมโลกนาถนั้น เป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบอินเดียที่มีลักษณะเสมือนมนุษย์ เพื่อให้ผู้บูชาสามารถน้อมจิตได้ใกล้ชิดพระพุทธองค์ในแบบกายเนื้อมนุษย์มากยิ่งขึ้น ต่างจากพระพุทธรูปที่เรามักพบเห็นและนิยมสร้างในประเทศไทย 

 

พระพักตร์ของพระบรมโลกนาถมีความงดงามและสงบเย็น พระเนตรเปี่ยมด้วยความเมตตา เกิดความสงบเมื่อได้มอง โดยภายในหอยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาด้วยพุทธปาฏิหาริย์ใน 3 วาระ รวมทั้งสิ้น 18 พระองค์ และยังมีภาพปักพระบรมโลกนาถที่ปักโดย สุวลักษณ์ เสนานุช ผู้เป็นศิษย์วิปัสสนา ภาพปักมีจำนวนฝีเข็มกว่า 651,000 ฝีเข็ม ใช้ไหมทั้งหมด 49 สี โดยปักครั้งละ 3 เส้น (ปกติทั่วไปจะใช้ 2 เส้น) มีความหมายถึงพระรัตนตรัย เส้นที่ 1 แทนพระพุทธ เส้นที่ 2 แทนพระธรรม และเส้นที่ 3 แทนพระสงฆ์ ซึ่งผู้ปักภาพบริกรรมคำว่า “นิพพาน” ทุกฝีเข็ม และถือศีล 8 ตลอดระยะเวลาการปัก 8 เดือน

 

ส่วนบริเวณโดยรอบ: มีนิทรรศการ ‘Spiritual Life’ เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพระพุทธศาสนา

 

 

ด้านนอกหอมนสิการมีอาคารจัดแสดงนิทรรศการ ‘Spiritual Life’ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า หลักการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องต่อพระบรมศาสดาและพระพุทธสัญลักษณ์ อีกทั้งยังมีอาคารสอนและปฏิบัติสมาธิ โดยมีอาจารย์สอนสมาธิจัดสอนฝึกนั่งสมาธิเบื้องต้นให้กับผู้ที่สนใจ

 

หลังจากเต็มอิ่มกับงานนิทรรศการแล้ว สามารถแวะไปผ่อนกายคลายใจได้ที่ By the Hill Cafe แวะช้อปปิ้งที่ตลาดชุมชน หรือจะแอบพักผ่อนในมุม Snack & Nap ก็ไม่ว่ากัน และที่นี่ยังมีชุดไทยไว้บริการให้เช่าถ่ายรูปในราคาที่เป็นมิตรอีกด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังใกล้กับ The Soul Resort รีสอร์ตระดับลักชัวรี ที่มี The Harmony Tearoom ร้านชายามบ่ายในบรรยากาศสุดหรู ตกแต่งด้วยคอนเซปต์ Color Therapy ที่เติมเต็ม Energy เพิ่มความชุ่มชื่นให้จิตและกาย

 

ด้านข้างยังมี Pim-Piman ห้องอาหารไทยและอินเตอร์เนชันแนลเลิศรส ที่รังสรรค์จากเชฟ 5 ดาว เป็นสถานที่พักผ่อนที่ส่งมอบความสุขสงบ ความอิ่มเอิบทั้งกายและใจ โดยมีคำขวัญประจำว่า The Soul the Magical Blend of Harmony and Luxury Restaurant เพื่อให้ทริปนี้ได้ทั้งการพักผ่อนแบบเต็มรูปแบบ และซึมซับพลังธรรมชาติจากการโอบกอดขุนเขา ได้พลังบุญแห่งความศรัทธาในรูปแบบสุดพิเศษ และรีชาร์จพลังกลับไปแบบแท้จริง

 

 


 

รายละเอียด ‘หอมนสิการ’

 

แผนที่เดินทาง: https://goo.gl/maps/7D18tfqfttupP3Di8

 

 

 

เวลาเปิดทำการ

วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 10.00-17.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-18.00 น.
วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30-18.00 น.

*หยุดทุกวันจันทร์

(รับนักท่องเที่ยวชุดสุดท้ายก่อนเวลาปิด 30 นาที)

 

ค่าเข้าชม

คนไทย 30 บาท

คนต่างชาติ 100 บาท

เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา, ผู้สูงวัย, ผู้พิการ และนักบวช เข้าฟรี!

*ค่าเข้าชมนี้เพื่อช่วยสนับสนุนค่าน้ำและค่าไฟ

 

หอมนสิการ 86/3 หมู่ 10 ต.สองคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 18110

Email: [email protected]

Facebook: Manasikarn Hall

Website: https://manasikarn.com/th

Tel: 09 5760 0885  

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X