×

เขี่ยซานโช-โละแข้งส่วนเกิน เปิดแผนแมนฯ ยูไนเต็ด ตลาดฤดูหนาว

03.01.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • ในช่วงก่อนหน้านี้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มีการสื่อสารออกมาให้แฟนบอลเข้าใจว่าอย่าคาดหวังอะไรมากมายนักในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบฤดูหนาว เพราะไม่น่าจะมีความเคลื่อนไหวอะไรมากนัก
  • ตามข้อมูลบัญชีในเดือนมิถุนายน 2023 เงินสำรองของสโมสรมีอยู่ที่ 76 ล้านปอนด์ แม้จะเหลือให้ใช้จ่ายได้อีกไม่เกิน 40 ล้านปอนด์ แต่ก็เป็นตัวเลขที่ต้องระวัง การเข้ามาของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ในนาม INEOS ไม่ได้แปลว่าจะมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่สโมสรเสมอไป
  • ดังนั้นเป้าหมายจริงๆ สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบนี้จึงไม่ใช่เรื่องของการเสริมทัพ แต่เป็นการโละนักเตะส่วนเกินออกจากสโมสรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การเดินทางถึงเมืองแมนเชสเตอร์ในฐานะ ‘หุ้นส่วน’​ ของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ที่เตรียมพบกับ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมและบุคลากรในทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมากบ้างน้อยบ้างก็นำพาความหวังมาสู่แฟนฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั่วโลก

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหวังที่จะได้เห็นการปรับทัพเสริมทีมในช่วงตลาดการซื้อ-ขายฤดูหนาวที่เริ่มไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา และมีเวลาถึงช่วงสิ้นสุดเดือนนี้ เผื่อจะช่วยกอบกู้สถานการณ์ของทีมที่ย่ำแย่เหลือทนให้กลับมาดีได้อีกครั้ง

 

แต่นั่นเป็นเรื่องของความหวัง เพราะความจริงดูเหมือนจะโหดร้ายพอสมควรสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด

 

สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาอาจจะทำได้ในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบนี้คือ การปล่อยนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกไปให้ได้มากที่สุด

 

เริ่มจากคนแรก จาดอน ซานโช…

 

ในช่วงก่อนหน้านี้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มีการสื่อสารออกมาให้แฟนบอลเข้าใจว่าอย่าคาดหวังอะไรมากมายนักในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบฤดูหนาว เพราะไม่น่าจะมีความเคลื่อนไหวอะไรมากนัก

 

เอริก เทน ฮาก ในฐานะผู้จัดการทีม ก็ยืนยันว่าไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเสริมทัพอะไรเข้ามา และส่วนตัวของเขาเอง ‘พอใจ’ กับสภาพทีมในปัจจุบัน อีกทั้งเชื่อว่าหากนักเตะแกนหลักที่ได้รับบาดเจ็บต้องพักการเล่นยาวอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คาเซมิโร และ เมสัน เมาท์ ทยอยหายกลับมา ก็ไม่ต่างอะไรจากการซื้อผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม

 

จอห์น เมอร์เทอห์ ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอล ก็ได้กล่าวในการเสวนากับแฟนบอลในครั้งล่าสุดว่า ถึงแม้จะมีโอกาสในการที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในทีม แต่ช่วงตลาดเดือนมกราคมไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะนักสำหรับการปรับทัพ กลยุทธ์ของสโมสรยังคงเน้นไปยังตลาดการซื้อ-ขายรอบฤดูร้อนมากกว่า

 

เรื่องนี้เป็นความจริงไหม?

 

 

ตลาดฤดูหนาวที่เหงาและเงียบ

 

แกะรอยกลับไปในตลาดการซื้อ-ขายรอบฤดูหนาว 3 ครั้งหลังสุดนั้น เริ่มจากปีกลาย (2023) พวกเขาเสริมทัพผู้เล่น 3 ตำแหน่งด้วยกัน

 

คนแรกคือ เวาต์ เวกฮอร์สต์ ศูนย์หน้าร่างยักษ์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งขอยืมต่อจากเบซิคตัสที่ขอยืมมาจากเบิร์นลีย์อีกทอดหนึ่ง เพื่อนำมาแทนที่ของ คริสเตียโน โรนัลโด นักเตะระดับตำนานของสโมสรที่แตกหักกับเทน ฮาก และขอยกเลิกสัญญาในช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึง

 

การยืมตัวต่อครั้งนั้นทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเบซิคตัสเป็นจำนวน 2.6 ล้านปอนด์ อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าเหนื่อยเต็มอัตราด้วย

 

อีกสองคนที่มีการยืมตัวมาคือ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กองกลางห้องเครื่องที่ขอยืมตัวมาจากบาเยิร์น มิวนิก ในสัญญายืมตัวแค่ 6 เดือน และอีกรายคือ แจ็ค บัตแลนด์ ประตูสำรองที่ขอยืมมาจากคริสตัล พาเลซ

 

ในปี 2022 แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีการเสริมทีมในช่วงตลาดการซื้อ-ขายฤดูหนาวแม้แต่รายเดียว

 

ส่วนในปี 2021 พวกเขาซื้อ อามัด ดิยาลโล ปีกดาวรุ่งมาจากอตาลันตา ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 19 ล้านปอนด์ พร้อมกับเงื่อนไขการจ่ายส่วนต่างอีก 18 ล้านปอนด์หากทำผลงานได้ดี

 

ครั้งสุดท้ายที่มีการเสริมทัพที่น่าตื่นเต้นต้องย้อนกลับไปในปี 2020 เมื่อได้ บรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางตัวทำเกมจากสปอร์ติง ลิสบอน มาด้วยค่าตัวเริ่มต้น 47 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการย้ายทีมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก และเป็นการแจ้งเกิดผู้สื่อข่าวสารการย้ายทีมคนดังอย่าง ‘Here We Go’ ฟาบริซิโอ โรมาโน ที่เกาะติดถึงขั้นมีภาพบรูโนในเครื่องบินส่วนตัวที่เดินทางมาแมนเชสเตอร์ด้วย

 

นั่นหมายความว่า การคาดหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นมากมายในช่วงตลาดฤดูหนาวสำหรับแฟนปีศาจแดงอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสักนิด

 

คำถามต่อมาคือ แล้วแมนฯ ยูไนเต็ด มีเงินคงคลังแค่ไหน?

 

 

ผีที่รัดเข็มขัด

 

เรื่องนี้เหมือนเป็นคำถามที่หยาบคายสำหรับสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ในข้อเท็จจริงแล้วแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในสภาวะที่ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายอย่างมาก เพราะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะผิดต่อกฎการเงิน Financial Fair Play

 

ตามข้อมูลบัญชีในเดือนมิถุนายน 2023 เงินสำรองของสโมสรมีอยู่ที่ 76 ล้านปอนด์ แม้จะเหลือให้ใช้จ่ายได้อีกไม่เกิน 40 ล้านปอนด์ แต่ก็เป็นตัวเลขที่ต้องระวัง

 

การเข้ามาของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ในนาม INEOS ไม่ได้แปลว่าจะมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่สโมสรเสมอไป อีกเหตุผลที่สำคัญคือ ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องจากพรีเมียร์ลีกที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกราว 6-8 สัปดาห์กว่าจะมีการประกาศรับรองการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น

 

ในระหว่างนี้ INEOS ก็ยังขยับลำบาก และตามแผนการของแรตคลิฟฟ์แล้ว เงินอัดฉีดราว 300 ล้านดอลลาร์ที่จะเข้าสู่สโมสรนั้นตั้งใจจะใช้สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างของสโมสรเป็นหลัก ไม่ได้มีการระบุว่าจะลงทุนเพื่อเสริมทีมอะไร

 

เรื่องนี้ยังย้อนแย้งกับข้อตกลงที่ฝ่ายสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องแจ้งและขอการอนุมัติทุกความเคลื่อนไหวในระหว่างกระบวนการตรวจสอบจากพรีเมียร์ลีกก็ตาม เพราะหมายความว่าในขณะที่ฝ่ายคนทำงานอย่างเมอร์เทอห์ไม่น่าจะได้รับงบเพิ่มขึ้น พวกเขายังทำงานยุ่งยากมากขึ้นด้วย

 

 

เป้าหมายใหญ่ไม่ใช่การเสริมทัพ

 

ดังนั้นเป้าหมายจริงๆ สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบนี้จึงไม่ใช่เรื่องของการเสริมทัพ

 

แต่เป็นการโละนักเตะส่วนเกินออกจากสโมสรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเสริมสภาพคล่องและลดภาระค่าเหนื่อยที่มากมายมหาศาลลง

 

คนแรกที่มีข่าวในเวลานี้คือ จาดอน ซานโช ปีกจอมเทคนิคที่แตกหักกับเทน ฮาก อย่างรุนแรง ซึ่งมีข่าวพยายามเจรจาย้ายกลับไปอยู่ทีมเดิมอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเวลานี้

 

ปัญหาในการเจรจามีอยู่บ้าง เพราะดอร์ทมุนด์ไม่ต้องการระบุเงื่อนไขการซื้อขาดเมื่อสิ้นสุดสัญญายืมตัว และพวกเขาไม่พร้อมรับผิดชอบค่าเหนื่อยมหาศาล 3 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ทั้งหมด โดยรับไหวแค่การจ่าย 1 ใน 3 เท่านั้น แต่ก็เชื่อว่าทุกฝ่ายจะผลักดันให้การย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้น

 

คนไหนอีกที่มีข่าวว่าจะถูกโละ?

 

ราฟาเอล วาราน ปราการหลังดีกรีแชมป์โลก เป็นหนึ่งในนักเตะที่สามารถย้ายทีมได้อย่างอิสระในช่วงปิดฤดูกาลนี้ หลังจากที่สโมสรตัดสินใจไม่ขยายเงื่อนไขในสัญญาออกไปอีก 1 ปี แต่หากสามารถมีช่องทางจำหน่ายออกไปได้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจพิจารณา

 

อองโตนี มาร์กซิยาล ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งคนที่จะหมดสัญญาเช่นกัน ซึ่งหากมีโอกาสใหม่เข้ามาก็อาจพิจารณาการย้ายทีมได้ เช่นเดียวกับ คาเซมิโร กองกลางจอมเก๋า ที่แม้จะทำได้ดีในฤดูกาลที่แล้วหลังจากดึงตัวมาจากเรอัล มาดริด แต่ผลงานในฤดูกาลนี้ตกลงอย่างน่าใจหายและกลายเป็นจุดอ่อนที่ทีมงานของเทน ฮาก โดนวิจารณ์ เพราะซื้อนักเตะอายุมากเข้ามาแพง แถมค่าเหนื่อยมหาศาล

 

แต่นักเตะกลุ่มนี้ก็ไม่ถึงกับย้ายทีมได้ง่ายนัก คนที่ดูแล้วมีโอกาสง่ายกว่าคือ เมสัน กรีนวูด ที่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับเคตาเฟอย่างสวยงามไม่น้อย ตอนนี้มีข่าวกับหลายสโมสรในลาลีการวมถึงบาร์เซโลนาด้วย

 

หากกรีนวูดย้ายทีมจริง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องแบ่งเงินค่าตัวให้กับเคตาเฟอีก 20 เปอร์เซ็นต์ด้วยในฐานะทีมที่ชุบตัวให้ใหม่ เพียงแต่คาดว่าการย้ายทีมของกรีนวูดน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลมากกว่า

 

 

ตกลงจะไม่มีใครย้ายเข้ามา?

 

ฟุตบอลไม่มีอะไรที่แน่นอน แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็แสดงให้เห็นอยู่ว่าถึงเวลาจริงๆ แล้วพวกเขาก็พร้อมจะดึงตัวนักเตะเข้ามาเสริมทีมเหมือนกัน

 

สำหรับตลาดการซื้อ-ขายในรอบนี้อาจจะไม่สามารถคาดหวังการทุ่มเงินมหาศาลดึงใครมาได้ แต่ก็มีข่าวกับนักเตะบางราย เช่น เอริก มักซิม ชูโป-โมติง และ โธมัส มุลเลอร์ สองกองหน้าประสบการณ์สูงจากบาเยิร์น มิวนิก ที่จะเข้ามาเสริมแนวรุกแบ่งเบาภาระของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้

 

เพียงแต่หากมีโอกาสจริงๆ อาจเป็นชูโป-โมติง อดีตศูนย์หน้าสโต๊ก ซิตี้ ที่เป็นไปได้มากกว่ามุลเลอร์ที่เป็นสมบัติของบาเยิร์น มิวนิก

 

อีกคนที่มีข่าวคือ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าดีกรีทีมชาติเยอรมนี ที่ทำผลงานไม่ร้อนแรงนักกับแอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลนี้ แต่ก็ดูน่าสนใจสำหรับการยืมตัวมาใช้งานเป็นการชั่วคราว

 

แต่คนที่เป็นนักเตะแห่งอนาคตที่น่าจับตามองคือ เซร์ฮู กุยราสซี ศูนย์หน้าสตุตการ์ตที่ทำไปแล้ว 17 ประตู จากการลงสนามในบุนเดสลีกา 14 นัด ซึ่งมีค่าปล่อยตัวตามสัญญาแค่ 15.2 ล้านปอนด์ ซึ่งถูกมากและไม่สะเทือนกับเรื่องการเงินของแมนฯ ยูไนเต็ดนัก

 

ปัญหาคือกุยราสซีจะต้องไปรับใช้ทีมชาติในช่วงแอฟริกันคัพออฟเนชันส์ในเดือนนี้กับทีมชาติกินี และน่าจะมีคู่แข่งอีกหลายสโมสรที่อยากได้กองหน้าวัย 27 ปี

 

แต่จากรายงานข่าวทั้งหมดแล้วจะเห็นได้ว่า กองหน้าเป็นเป้าหมายหลักที่เทน ฮาก ต้องการได้นักเตะมาช่วย เพราะทีมประสบปัญหาอย่างมากในฤดูกาลนี้ ยิงได้แค่ 22 ประตู จากการลงสนาม 20 นัดในพรีเมียร์ลีก

 

ถ้าจะไม่มีใครเข้ามาจุดความหวังเลย ก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising