×

ลูตัน ทาวน์ กับการเสกสนามเคนิลเวิร์ธโรดให้พร้อมสำหรับพรีเมียร์ลีกใน 15 สัปดาห์!

01.09.2023
  • LOADING...

ในวันส่งท้ายตลาดการซื้อขายนักเตะที่เร้าใจ คืนนี้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะมีเกม ‘Friday Night’ ให้ได้ติดตาม เป็นการพบกันระหว่างลูตัน ทาวน์กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

           

คู่นี้หากมองผิวเผินตามตารางก็ถือว่าเป็นคู่เล็กที่ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก แต่สำหรับแฟน ‘เดอะ แฮตเตอร์ส’ (สมญาของลูตัน) เกมนี้เป็นเกมที่มีความหมายอย่างมาก

           

เพราะนี่จะเป็นวันที่สนามเคนิลเวิร์ธโรด หรือ ‘เดอะ เคนนี’ ได้ต้อนรับเกมลีกสูงสุดของวงการฟุตบอลอังกฤษเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992 ที่พวกเขาตกชั้นไปจากดิวิชัน 1 ก่อนที่จะเกิดพรีเมียร์ลีก (หรือพรีเมียร์ชิป)

           

โดยความมหัศจรรย์อยู่ที่ลูตันสามารถปรับปรุงสนามที่มีความเก่าแก่เกินกว่า 100 ปีที่ทรุดโทรมและดูไม่น่าจะพร้อมสำหรับเกมการแข่งขันมาตรฐานลีกที่ดีที่สุดในโลกให้เสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลา 15 สัปดาห์

           

พวกเขาทำอะไรลงไปบ้าง?

            

ย้อนกลับไปในช่วงเกมนัดชิงชนะเลิศรอบเพลย์ออฟกับโคเวนทรี ซิตี้ที่มีตั๋วเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกใบสุดท้ายที่มีมูลค่ามากเกินกว่า 150 ล้านปอนด์เป็นเดิมพัน ฝ่ายบอร์ดบริหารของลูตัน ทาวน์ได้รับการเตือนด้วยความหวังดี

           

การเตือนนั้นเพื่อบอกว่าถ้าพวกเขาได้เลื่อนชั้นขึ้นมาปัญหาใหญ่จะเกิดทันที และบอกได้เลยว่างานนี้ ‘งานช้าง’

           

ที่มาของคำเตือนนั้นเป็นเพราะสนามเคนิลเวิร์ธโรดที่พวกเขาใช้งานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1905 นั้นเก่าและทรุดโทรมมาก

 

แฟนลูตัน ทาวน์ในอดีต

           

ปัญหานั้นมีตั้งแต่ไฟสนามที่มืดเกินไป ไม่มีที่ว่างพอสำหรับการวางตำแหน่งของกล้องถ่ายทอดสดรวมถึงกล้อง VAR ในเรื่องของระบบต่างๆ ที่ทำรองรับการถ่ายทอดสดก็ไม่ได้มีการอัปเกรดใดๆ มาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปีแล้ว (ซึ่งช่วงนั้นลูตันยังได้อยู่ในลีกสูงสุด)

           

ยังมีเรื่องของที่นั่งทำงานของผู้สื่อข่าวหรือเพรสบ็อกซ์ที่มุมมองเข้าไปในสนามเลวร้ายอย่างมาก โดยมีตัวอย่างเหตุการณ์ที่ แบรด พอตต์ส กองหน้าจากทีมเปรสตัน นอร์ธเอนด์ ทำประตูด้วยลูกวอลเลย์สุดตระการตาที่สนามแห่งนี้ แต่ว่าผู้สื่อข่าวกลับไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะว่าที่นั่งถูกบังจากหลังคาที่ยื่นออกมา จนทำให้มีนักข่าวเดาเอาเองว่าเป็นประตูจากลูกโหม่งและมีการเขียนรายงานข่าวไปแบบนั้น

           

หรือแม้แต่ห้องแต่งตัวนักกีฬาที่เก่าและโทรมอย่างมาก จนบางทีก็น่าจะอนุรักษ์ไว้ดูเป็นตัวอย่างสำหรับคนรุ่นหลัง

           

ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ผ่านมาตรฐานของพรีเมียร์ลีก ขณะที่สนามแห่งใหม่ที่มีความจุ 22,000 คนก็ยังไม่เสร็จสิ้นจนกว่าจะถึงฤดูกาล 2025/26

           

ดังนั้นเมื่อลูตันเอาชนะโคเวนทรีได้ งานช้างของสโมสรจึงเริ่มต้นทันทีตั้งแต่รุ่งเช้าของวันถัดไป โดยที่พวกเขามีเวลาแค่ประมาณ 3 เดือนสำหรับการจัดการทุกอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะทำได้ทันเวลาอย่างไร

           

แต่ทีมอุตส่าห์สู้จนเลื่อนชั้นขึ้นมาได้แบบนี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วสำหรับลูตันนอกจากทำให้ดีที่สุด

 

อัฒจันทร์ฝั่งเดอะ บ็อบเบอร์ส ซึ่งเคยเป็นบ็อกซ์ผู้บริหาร (และมีตาข่ายขึงกันลูกบอลลอยข้ามไปโดนบ้านคน!) ถูกทุบทำใหม่

           

หัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของเรื่องนี้คือ ‘น้าหวาน’ แกรี สวีต ซีอีโอของสโมสรที่รับหน้าที่ในการจัดการเนรมิตสนามเคนิลเวิร์ธโรดให้พร้อมสำหรับพรีเมียร์ลีกให้ได้ แม้ว่าการก่อสร้างจะยากลำบากเพราะสนามแห่งนี้อยู่ติดกับบ้านคน ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นทางเข้าอัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือน ‘โอ๊กสแตนด์’ อันโด่งดัง ที่ถูกขนาบด้วยระเบียบของบ้าน 2 หลัง และฝั่งเดอะ บ็อบเบอร์ส (ซึ่งมีที่มาจากการที่เป็นอัฒจันทร์ฝั่งยืนและค่าเข้าชมถูกมากในสมัยก่อน แค่ชิลลิงเดียว) ก็ติดกับสวนหลังบ้านของชาวบ้านตรงนั้น

           

แต่ตั้งใจแล้วก็ต้องทำ! โดยสิ่งแรกเลยที่จัดการคือการ ‘ทุบ’ อัฒจันทร์ฝั่งเดอะ บ็อบเบอร์ส สแตนด์ ที่เป็นบ็อกซ์ผู้บริหาร (ความจริงเหมือนเอากล่องมาวางตั้งๆ ไว้) แล้วสร้างอัฒจันทร์ใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับระบบการถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่

           

ความยากคือการที่สนามติดกับบ้านเรือนทำให้การลำเลียงอุปกรณ์การก่อสร้างเป็นไปอย่างทุลักทุเล ทางเดียวที่เครื่องจักรก่อสร้างจะทำงานได้คือต้องเข้าไปติดตั้งด้วยการผ่านสนามอีกด้านหนึ่ง

           

พื้นสนามเดอะ เคนนี จึงต้องถูกคลุมด้วยผ้าในแบบเดียวกับที่ใช้สำหรับคอนเสิร์ตวงร็อกเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องจักรมาทำให้พื้นสนามเสียหาย

           

เมื่อติดตั้งเครื่องจักรเรียบร้อยการก่อสร้างก็ดำเนินไปอย่างเร่งรีบโดยที่สโมสรเองก็คอยอัปเดตให้เห็นภาพความคืบหน้าของการก่อสร้างที่เป็นเหมือนไซต์ก่อสร้างขนาดย่อมๆ ที่อยู่บนสนามฟุตบอลที่ทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้ทุกอย่างทันเวลา

           

เดอะ บ็อบเบอร์สโฉมใหม่ เปลี่ยนบ็อกซ์ผู้บริหารให้กลายเป็นสถานที่สำหรับการถ่ายทอดสดและทำงานของสื่อ และมีที่นั่งผู้บริหารอีกมากกว่า 1,000 ที่นั่ง และยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นม้านั่งสำรองข้างสนาม ห้องแต่งตัวใหม่ ฯลฯ

           

โดยทั้งหมดใช้งบประมาณราว 10 ล้านปอนด์ และใช้เวลาในการก่อสร้างแบบจริงจังๆ 13 สัปดาห์ (แต่ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่ได้เลื่อนชั้นคือ 15 สัปดาห์)

           

“มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเลย เกือบทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างละเล็กละน้อย” ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้จัดการทีมลูตันกล่าวโดยยืนยันว่าจำนวนสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงมันเยอะจนแทบคลั่ง เพียงแต่สิ่งที่เขาต้องการไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าห้องแต่งตัวใหม่

           

“ที่ผมต้องการคือห้องแต่งตัว ซึ่งผมพอใจมาก ผมไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรมากมาย ผมเป็นคนง่ายๆ” เอ็ดเวิร์ดส์กล่าว

 

ทางเข้าอัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือน หรือ ‘โอ๊กสแตนด์’ อันโด่งดัง คือไฮไลต์ของเคนิลเวิร์ธโรดที่แฟนบอลทีมไหนมาเยือนก็ต้องขอถ่ายรูปไว้แบบนี้

           

ทั้งนี้แม้ว่าการสร้างอัฒจันทร์ใหม่และการปรับปรุงสนามเคนิลเวิร์ธโรดจะเสร็จไม่ทันเกมนัดแรกของฤดูกาล ซึ่งลูตันเป็นเจ้าบ้านต้องรับมือเบิร์นลีย์เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม จนต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน พร้อมกับคำถามว่าพวกเขาจะได้ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกในบ้านตัวเองเมื่อไร

           

ผลของความพยายามอย่างหนักก็ทำให้สนามเสร็จจนได้ และได้มีการทดลองเปิดใช้งานเต็มสูบในเกมลีกคัพกับจิลลิงแฮม โดยที่ทุกอย่างออกมาดีและสวยงาม

           

นั่นทำให้พวกเขาได้รับไฟเขียวให้ใช้เคนิลเวิร์ธโรดสำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่จะพบกับเวสต์แฮมในค่ำคืนนี้

           

“มันจะเป็นคืนที่พิเศษแน่ๆ” นายใหญ่ลูตันกล่าว “เราเฝ้ารอมันอยู่ ผมหวังว่าทุกคนที่ได้ดูทางโทรทัศน์จะได้เห็นด้านดีของสโมสร จะได้ยินเสียงกองเชียร์ในสนาม และหวังว่าเราจะเก็บแต้มได้ในบ้านบ้างในฤดูกาลนี้ แฟนๆ ของพวกเขาต้องเจอกับช่วงเวลามืดมนอนธการมามากแล้ว การได้มาที่เดอะ เคนนี และได้ดูเกมพรีเมียร์ลีกคือสิ่งที่พิเศษจริงๆ สำหรับพวกเขา”

           

ความจริงแล้วมันไม่ได้พิเศษแค่เฉพาะกับแฟนลูตัน

           

คนรักฟุตบอลทุกคนเองก็อยากเห็นพรีเมียร์ลีกในสนามสุดขลังอย่างเดอะ เคนนีเหมือนกัน

           

คืนนี้ตี 2 เจอกันนะ!

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising