สืบเนื่องจากกรณี MASK-OFF EVENTS ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับการขอวีซ่าของศิลปินหนุ่ม นนท์-ธนนท์ จำเริญ และทีมงาน ที่ไม่ผ่านการพิจารณา จนเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนการจัดคอนเสิร์ต NONT TANONT AUSTRALIAN TOUR 2022 โดยมีแอดมิน LINE Official ของ MASK-OFF EVENTS ท่านหนึ่งได้ให้ข้อมูลแก่ลูกค้าเกี่ยวกับเหตุผลที่วีซ่าของนนท์ไม่ผ่านว่า ‘เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่านนท์เป็นศิลปิน’ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียล พร้อมกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการสอบถามเพื่อความชัดเจนต่อไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (LOVEiS) ค่ายผู้ดูแล นนท์ ธนนท์ ได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดต่อและขอให้บุคคลที่เผยแพร่ข้อความออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ด้วยการขอโทษบริษัทฯ และศิลปิน ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในครั้งนี้
พร้อมยืนยันว่าศิลปินและทีมงานได้ดำเนินการขอวีซ่าเพื่อกิจกรรมชั่วคราว (ประเภท 408) เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อปฏิบัติงานชั่วคราวในระยะเวลาสั้น และได้แนบเอกสารและหลักฐานการพิจารณาที่ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่เนื่องด้วยการขอวีซ่าครั้งนี้ได้ขอแบบกลุ่ม หากมีคนใดคนหนึ่งในกลุ่มไม่ผ่านการพิจารณาจะทำให้คำร้องขอวีซ่าถูกตีกลับหรือไม่ผ่านทั้งกลุ่มนั่นเอง ดังนั้นบริษัทฯ จึงไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ที่ทำให้เกิดการไม่ได้รับวีซ่าในครั้งนี้
สำหรับรายละเอียดคำชี้แจงจาก LOVEiS ฉบับเต็ม ระบุว่า
“บริษัท เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ขอชี้แจงการไม่ผ่านการพิจารณาการขอวีซ่า
“เนื่องจากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว เรื่อง การไม่ผ่านการพิจารณาการขอวีซ่าจากสถานทูตของศิลปิน นนท์ ธนนท์ และทีมงาน ที่จะไปแสดง NONT TANONT AUSTRALIAN TOUR 2022 ที่ออกไปในวงกว้างนั้นเกิดการบิดเบือนจากการตอบข้อความทาง LINE Official ของผู้จัดงาน และไม่เป็นความจริง ทางบริษัทฯ จึงดำเนินการติดต่อและขอให้บุคคลดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ด้วยการขอโทษบริษัทฯ และศิลปิน ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในครั้งนี้
“นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ศิลปินและทีมงานได้ดำเนินการขอวีซ่าเพื่อกิจกรรมชั่วคราว (ประเภท 408) เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อปฏิบัติงานชั่วคราวในระยะเวลาสั้น และได้แนบเอกสารและหลักฐานการพิจารณาที่ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่เนื่องด้วยการขอวีซ่าครั้งนี้ได้ขอแบบกลุ่ม หากมีคนใดคนหนึ่งในกลุ่มไม่ผ่านพิจารณา จะทำให้คำร้องขอวีซ่าถูกตีกลับหรือไม่ผ่านทั้งกลุ่มนั่นเอง ดังนั้นบริษัทฯ จึงไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ที่ทำให้เกิดการไม่ได้รับวีซ่าในคราวนี้
“สุดท้ายนี้ทางบริษัทฯ อยากขอความกรุณาให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพและแชร์ข่าวที่อาจไม่เป็นความจริง รวมถึงขอความกรุณาให้ทางพี่ๆ นักข่าวทุกสำนักสามารถติดต่อเข้ามาขอข้อมูลจากทางบริษัทฯ ก่อนการนำเสนอข่าวจากทางเราได้โดยตรงค่ะ
“จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน”
อ้างอิง:
