สภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิสมีมติเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมาย ‘เมืองปลอดภัย (Sanctuary City)’ เพื่อปกป้องผู้อพยพที่อาศัยอยู่ภายในเมือง ซึ่งถือเป็นการเผชิญหน้าโดยตรงกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศคำมั่นระหว่างการหาเสียงว่าจะเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งประธานาธิบดี
ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองหรือใช้ทรัพยากรของเมืองในการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง และยังห้ามแบ่งปันข้อมูลบางอย่างระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกับหน่วยงานของเมืองด้วย
นครลอสแอนเจลิสถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้อพยพอาศัยอยู่กว่า 1.3 ล้านคน จากจำนวนประชากรภายในเมืองทั้งหมดราว 3.8 ล้านคน
โดยกฎหมายฉบับใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้หลังจากที่ คาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรีของเมืองลงนามรับรอง
นอกจากนี้โรงเรียนของรัฐภายในเมืองยังประกาศตัวเป็น ‘สถานที่ปลอดภัย’ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียนที่มาจากครอบครัวของกลุ่มผู้อพยพที่ไร้เอกสาร
ทั้งนี้ ทางการในหลายเมืองของสหรัฐฯ เช่น บอสตันและนิวยอร์ก ก็แสดงท่าทีในลักษณะคล้ายกัน คือจะไม่มีการจัดสรรทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางในการบังคับใช้กฎหมาย
ท่าทีดังกล่าวเชื่อว่าจะก่อให้เกิดความขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของทรัมป์
ขณะที่ ทอม โฮแมน อดีตผู้อำนวยการรักษาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ที่ทรัมป์ประกาศเลือกเป็น ‘ผู้ควบคุมพรมแดน (Border Czar)’ ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าการกำหนดให้เมืองต่างๆ เป็นเมืองปลอดภัย จะไม่สามารถขัดขวางรัฐบาลกลางจากการปฏิบัติตามเป้าหมายในนโยบายตรวจคนเข้าเมือง และยืนยันว่าจะไม่มีอะไรหยุดยั้งรัฐบาลในการเนรเทศกลุ่มผู้อพยพที่ผิดกฎหมายได้
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/articles/c4gx7rd4nj7o
- https://www.reuters.com/world/us/los-angeles-passes-sanctuary-city-ordinance-protect-migrants-2024-11-19/