เคยไหม ความมั่นใจหดหายเมื่อส่องดูหน้าตัวเองในกระจก แล้วพบว่าเมกอัพที่อุตส่าห์บรรจงแต่งมาอย่างตั้งใจค่อยๆ เลือนหายไประหว่างวัน แถมยังต้องทัชอัพบ่อยๆ จนหน้าเนียนๆ ยามเช้ากลายเป็นหน้าที่หนาเตอะไปด้วยแป้งทัชอัพนับครั้งไม่ถ้วน THE STANDARD มีกุญแจสำคัญที่ช่วยไขความลับของปัญหาจุกจิกยอดฮิตเวลาแต่งหน้าให้กลายเป็นเรื่องง่ายและถูกต้อง นี่คือวิธีแต่งหน้าในแต่ละจุดที่จะขจัดความกลุ้มใจจากปัญหาแต่งหน้าไม่ติด คอนซีลเลอร์เป็นคราบ หรือขนตาพับลงมาระหว่างวัน ไปดูกันว่าเลยว่าจะเริ่มสเต็ปการแต่งหน้าให้เซียนให้อย่างไร
บำรุงผิวทุกครั้งก่อนแต่งหน้า
หัวใจสำคัญของการแต่งหน้าด่านแรกคือ ขั้นตอนการบำรุงผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวมัน ก็ต้องผ่านขั้นตอนนี้ก่อนทุกครั้ง เพราะการบำรุงผิวจะช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า สเต็ปที่แนะนำสำหรับผิวแต่ละประเภทมีดังนี้
- คนผิวแห้ง ล้างหน้าเสร็จ ตามด้วยโทนเนอร์ โดยค่อยๆ เช็ดตามแนวเส้นขนบนผิว อาจเริ่มวางสำลีบริเวณข้างจมูกแล้วเช็ดออกด้านข้างเป็นแนวนอนตามเส้นขน ตามด้วยการทาเอสเซนส์บำรุงผิวหน้าที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ปิดท้ายด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ใช้ประจำ และตามด้วยครีมกันแดด
- คนผิวธรรมดา ล้างหน้าเสร็จ ตามด้วยโทนเนอร์ โดยค่อยๆ เช็ดตามแนวเส้นขนบนผิวเป็นวิธีเดียวกับคนผิวแห้ง ส่วนสกินแคร์ที่ใช้เลือกตามสภาพผิวที่ไม่ค่อยมีปัญหาได้เลย จึงสามารถใช้ได้ทั้งแบบเจล โลชัน ครีม แต่ต้องไม่ลืมทาครีมกันแดด
- คนผิวมัน ใส่ใจตั้งแต่การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสาวผิวมัน เช็ดด้วยโทนเนอร์เพื่อมอบสารบำรุงให้ผิวและปรับผิวให้พร้อมสำหรับการทาครีมบำรุง ซึ่งสาวผิวมันควรเลือกสกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก และใช้ในปริมาณที่พอดี
We Say: แนะนำให้ทาอายครีมทุกครั้งก่อนแต่งหน้า เพราะจะช่วยให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาได้รับการบำรุง เมื่อใช้คอนซีลเลอร์ลงใต้ตาจะได้ผลลัพธ์ที่เนียนสวยกว่าการไม่ทาอายครีม
จบปัญหาเมกอัพไหลกองรวมกันด้วยไพรเมอร์
ปัญหาเมกอัพไหลเยิ้ม ส่วนใหญ่เกิดจากความมันบนใบหน้า อย่าลืมว่าหลายคนแต่งหน้าออกจากบ้านภายในห้องแอร์ก็จริง แต่พอก้าวขาออกจากบ้าน สิ่งแรกที่ต้องเผชิญคือแสงแดดและมลภาวะ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เมกอัพที่เราแต่งมาอย่างตั้งใจ ค่อยๆ หลอมละลายและไหลเยิ้มไปพร้อมๆ กับอุณหภูมิภายนอก สิ่งที่จะช่วยรับมือกับปัญหานี้ได้คือการทาไพรเมอร์ ซึ่งทำหน้าเป็นเหมือนสิ่งที่ผสานผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ และช่วยยึดเมกอัพให้ติดผิว จากคุณสมบัติการป้องกันความมัน ยิ่งคนที่มีรูขุมขนกว้างๆ ยิ่งต้องใช้ไพรเมอร์ เพราะเนื้อไพรเมอร์นี่แหละจะช่วยอุดรูขุมขนให้เรียบสม่ำเสมอทั่วใบหน้า เวลาลงเมกอัพต่างๆ ก็จะติดผิวดีด้วย
We Say: ปีกจมูก เป็นบริเวณยอดฮิตที่เหล่าเครื่องสำอางชอบไหลมารวมกัน ดังนั้นอย่าลืมทาไพรเมอร์บริเวณปีกจมูก ใช้นิ้วเกลี่ยให้เนียนไปกับผิว
คอนซีลเลอร์ต้องแม่นเรื่องเฉดสี
ปัญหาโลกแตกของหลายๆ คนในการใช้คอนซีลเลอร์คือ ทาเฉดสีผิดๆ นั่นเป็นเพราะไม่เข้าใจหัวใจสำคัญในการปกปิดให้เนียนแบบมืออาชีพ เทคนิคการจำง่ายๆ ที่จะนำไปใช้ได้ตลอดคือ หากต้องการกลบรอยคล้ำใต้ตา จำไว้ว่าให้เลือกเฉดสว่างกว่าสีผิวไม่เกิน 1 เฉดเสมอ และไม่ควรใช้คอนซีลเลอร์เฉดเดียวกับใต้ตาไปลงเพื่อปกปิดริ้วรอย หรือรอยสิวต่างๆ บนใบหน้า เพราะจะยิ่งไปสร้างจุดเด่นให้ริ้วรอยสิวเป็นจุดสังเกตมากกว่าเดิม หากจะปกปิดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ในบริเวณที่ไม่ใช่ใต้ตา จำไว้ว่าควรเป็นเฉดเดียวกับสีผิวเสมอ
We Say: ควรมีคอนซีลเลอร์อย่างน้อย 3 เฉดสี คือสีที่สว่างกว่าผิว 1 เฉด สีที่ตรงกับสีผิว 1 เฉด และควรมีสีที่เข้มอีก 1 เฉด เอาไว้ผสมกับเฉดที่อ่อนกว่าได้ เพื่อแก้ไขเวลาทาพลาดโดยไม่ต้องลบออกไป
ขนตาไม่เด้ง เพราะไม่ดัดขนตา
แม้ว่าหลายคนจะมีมาสคาร่าแท่งเด็ดๆ อยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นสูตรเพิ่มวอลุ่มให้ขนตา สูตรเพิ่มความงอนเด้ง หรือติดทนยาวนานเกิน 10 ชั่วโมง แต่ทำไมกลับเจอปัญหาขนตาพับ ไม่งอนเด้งเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงล่ะ? นั่นเป็นเพราะมาสคาร่าส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำค่อนข้างเยอะ พอไปเจอกับอากาศบ้านเราที่ร้อนจัด ขนตาก็มักจะตกลงมาเสมอ เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้คือ ให้ดัดขนตาก่อนปัดมาสคาร่าทุกครั้ง
We Say: ในการดัดขนตาควรวางที่ดัดขนตาให้ชิดโคนขนตา แล้วกดด้ามที่ดัดขนตาค้างไว้ 5 วินาที แล้วปล่อย จากนั้นเลื่อนระดับมาที่ปลายขนตา ดัดปลายขนตาให้งอนขึ้นโดยค้างไว้ 5 วินาที เหมือนกัน จากนั้นค่อยปัดมาสคาร่า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ขนตาดูยกขึ้น และเด้งได้ยาวนานกว่าการไม่ดัดขนตา
แก้ไขเมกอัพไหลไปกองที่รอยพับเปลือกตา
ปัญหานี้เจอบ่อยๆ นั่นเป็นเพราะบริเวณหนังตาของคนเราผลิตน้ำมันออกมามาก พอตกบ่าย บริเวณรอยพับเปลือกตาก็จะปรากฏรอยเมกอัพเป็นเส้นๆ วิธีแก้ไข อายไพรเมอร์ช่วยได้ ทาบางๆ ทั่วเปลือกตาก่อนลงเมกอัพ จะช่วยให้เมกอัพติดทน ไม่ไหลเยิ้มระหว่างวัน
We Say: ก่อนลงอายแชโดว์ ทาแป้งบางๆ บนเปลือกตา เนื้อแป้งจะทำหน้าที่ซับความมันบริเวณนั้นออกไป จากนั้นค่อยทาอายแชโดว์ ซึ่งจะได้สีที่สดชัดอีกด้วย
ทาลิปสติกทีไร ปากลอกเป็นขุยทุกที
เชื่อว่าหลายคนเซ็งกับปัญหาริมฝีปากลอกเป็นขุยหลังจากทาลิปสติก จริงๆ แล้วปัญหานี้แก้ได้ง่ายนิดเดียว ใช้อุปกรณ์แค่ 3 อย่าง คือลิปบาล์ม คอตตอนบัด และกระดาษทิชชู่ ก่อนแต่งหน้าทุกครั้งให้ทาลิปบาล์มหนาๆ ไว้ที่ริมฝีปาก ทิ้งไว้ราวๆ 10 นาที ปากที่แห้งเป็นขุยจะเริ่มนิ่ม ให้เอาคอตตอนบัด (แนะนำก้านแข็งๆ หน่อย) มาถูๆ เพื่อขูดขุยที่ลอกบริเวณริมฝีปากออก แล้วเช็ดด้วยทิชชู่จนสะอาด แค่นี้ริมฝีปากก็พร้อมสำหรับการทาลิปสติกแบบเนียนสนิท ไม่แห้งลอกเป็นขุยอีกต่อไป
