หลังคัมแบ็กมาพร้อมคว้าชัยชนะเหนือ เดนิเซ โกเมซ คู่ต่อสู้จากบราซิล ในศึก UFC Fight Night: Sandhagen vs. Song ณ สังเวียน UFC APEX ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2022
ล่าสุด โลมา ลูกบุญมี หรือ หล้า-สุภิสรา คนหลัก สาวนักสู้ MMA วัย 26 ปี เจ้าของสถิติชก 10 ไฟต์ ชนะ 7 แพ้ 3 กำลังจะมีไฟต์สำคัญอีกครั้งกับคู่ชกสาวชาวอเมริกันอย่าง เอลิเซ รีด ในศึก UFC 284 ที่มีกำหนดจัดขึ้นที่เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์นี้
THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยสั้นๆ กับ โลมา ลูกบุญมี ถึงความพร้อมก่อนไฟต์นี้ ไปจนถึงแพลนที่เธอตั้งเป้าที่จะทำให้สำเร็จในปี 2023 ด้วยการไต่แรงกิ้งไปถึงท็อป 15 ในรุ่นสตรอว์เวตหญิง และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากแชมป์โลก รุ่นสตรอว์เวต อย่าง จางเหว่ยลี่
สภาพความพร้อมก่อนไฟต์นี้เป็นอย่างไรบ้าง
โลมา ลูกบุญมี: แมตช์นี้เราเตรียมตัวมาดีมากๆ เราซ้อมกันเยอะมากๆ เราซ้อมกันวันละ 4-5 รอบ
ไฟต์ล่าสุดที่ชนะ เดนิเซ โกเมซ ทำให้มีกำลังใจบ้างขึ้นไหม
โลมา ลูกบุญมี: ได้กำลังใจเยอะขึ้นมากๆ มันทำให้หนูมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
หลังศึกษาคู่ชกอย่าง เอลิเซ รีด มาแล้ว มีอะไรที่ต้องรับมือนักสู้คนนี้เป็นพิเศษไหม
โลมา ลูกบุญมี: หนูดูเขาชกแค่ไฟต์เดียว หนูไม่ค่อยชอบดูวิดีโอคู่ต่อสู้เท่าไร ส่วนมากโค้ชของเราจะเป็นคนดู แล้วก็คอยโน้ตเป็นการบ้านเอาไว้ ก็จะได้โค้ชในค่ายทุกคนมาช่วยกันติว เพื่อดูว่าเขาเก่งทักษะการต่อสู้ด้านไหน เก่งลูกเตะหรือลูกต่อยตรงไหนบ้าง เราต้องจัดการศึกษาเพื่อรับมือทุกอย่าง ตอนนี้เราก็วางแผนที่จะสู้กับเขาทุกอย่างเลย ไม่ว่าเขาจะยืนสู้หรือนอนสู้ ไม่ว่าจะเจอสิ่งไหนเราก็พร้อมสู้
ทำไมถึงไม่ชอบดูเทปของคู่ชก
โลมา ลูกบุญมี: หนูไม่ค่อยชอบดู เพราะเวลาดูจะชอบมีคำถามในใจว่าทำไมเขาถึงเก่งจัง
ยกตัวอย่าง พอเราดูแล้วจะชอบคิดตามว่าทำไมเขาใช้เข่าเก่งจังเลย แล้วหนูก็เป็นมวยที่เก่งเข่าเหมือนกัน พอเราเจออะไรที่มันเก่งเหมือนกัน หนูจะกังวลว่าเขาจะเก่งกว่าหนูไหม
มันจะทำให้หนูไม่กล้าออกอาวุธเข่า หนูก็เลยตัดสินใจไม่ดูเลยดีกว่า ขอดูแค่รอบเดียวก็คือจบเลย แล้วออกมาทำการบ้านนอกรอบดีกว่า
เอลิเซ รีด จะเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากกว่าคู่ชกคนก่อนไหม
โลมา ลูกบุญมี: มันแล้วแต่แนวทางการสู้ของแต่ละคน เพราะแต่ละคนมีแนวทางไม่เหมือนกัน
บางคนเราอาจมองว่าเหมือนเขาดูไม่ค่อยเก่ง แต่พอไปชกจริงก็ได้สัมผัสว่าทำไมเขาเก่งจังเลย มันก็แล้วแต่ว่าเราจะเจอใครด้วย
เราจะสามารถเอาชนะเขาได้ไหมในไฟต์นี้
โลมา ลูกบุญมี: หนูไม่เคยบอกว่าเราจะต้องชนะ ชนะ และชนะ อย่างเดียว แต่ที่หนูให้สัญญาได้คือจะทำอย่างเต็มที่แน่นอน ถึงแม้เป้าหมายหลักของทุกคนคือต้องการชัยชนะอยู่แล้ว แต่หนูคิดว่าไฟต์นี้หนูจะไม่แพ้
ช่วงที่หยุดพัก 3-4 เดือน ได้เสริมทักษะประเภทไหนมาบ้าง หรือมีทักษะไหนที่อยากพัฒนาเป็นพิเศษ
โลมา ลูกบุญมี: หลังจบไฟต์ที่ผ่านมา เราก็ทำทุกอย่าง เราพัฒนาทุกอย่างในส่วนที่เรายังคิดว่าไม่ดีพอ ตั้งแต่การนอนสู้ การเทกดาว รวมถึงการยืนชกแบบบ็อกซิ่ง เรากลับมาฝึกซ้อมทุกอย่างเลย
นอกจากสู้เพื่อเก็บชัยชนะไปเรื่อยๆ ในปี 2023 มีเป้าหมายอะไรบ้าง
โลมา ลูกบุญมี: ปีนี้หนูวางเป้าหมายไว้แล้ว วางทีละสเตปเอาไว้เลย ปีนี้ขอติดสักท็อป 15 ของรุ่นสตรอว์เวต แล้วปีหน้าค่อยว่ากันใหม่
สาเหตุที่เริ่มมองถึงการไต่แรงก์ใน UFC แสดงว่ามองถึงเป้าหมายการชิงแชมป์ในอนาคตด้วยไหม
โลมา ลูกบุญมี: หนูไม่ได้มองถึงแชมป์นะ ถึงทุกคนที่เข้ามายืนตรงนี้ มีความฝันที่อาจจะอยากเป็นแชมป์ แต่ตอนนี้หนูมองไปถึงแค่ติดท็อป 15 แล้วขยับไปเป็นท็อป 10, ท็อป 5 แล้วไปติดท็อป 3 ไปเรื่อยๆ แบบนี้มากกว่า
มีมุมมองต่อเจ้าของแชมป์ในรุ่นสตรอว์เวตอย่าง จางเหว่ยลี่ อย่างไรบ้าง
โลมา ลูกบุญมี: สำหรับ จางเหว่ยลี่ หนูมีโอกาสซ้อมกับเขาเหมือนกัน เขาเคยมาซ้อมที่ค่ายบางเทา จังหวัดภูเก็ต เขาเป็นคนเก่งมากๆ หนูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงเป็นแชมป์ เขาซ้อมหนักมากเลย แข็งแรงมากๆ หนูก็จะพยายามไปถึงจุดนั้นให้ได้
เรียนรู้อะไรจาก จางเหว่ยลี่ ในวันที่เขามาฝึกซ้อมกับเรา
โลมา ลูกบุญมี: เท่าที่หนูมองคือ ในหัวมีแต่คำว่าไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นแชมป์ เขาซ้อมหนักและมีความตั้งใจ วันหนึ่งเขาซ้อมเยอะมากๆ ซ้อมหลายสกิลในหนึ่งวัน เสร็จอันนี้ ก็ไปอันโน้น เขาซ้อมแบบไม่มีพัก ไม่มีหยุดเลย
อยากซ้อมแบบ จางเหว่ยลี่ บ้างไหม
โลมา ลูกบุญมี: หนูก็อยากซ้อมแบบนั้นนะคะ ที่ผ่านมาหนูซ้อมในแบบของหนูมาตลอด เพียงแต่ก่อนไฟต์นี้หนูยอมรับเลยว่าซ้อมค่อนข้างหนักมากๆ ไฟต์นี้น่าจะเป็นการซ้อมที่หนักที่สุดในชีวิตของหนูเลย
แฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA ชาวไทย สามารถติดตามชมและเชียร์ โลมา ลูกบุญมี ในไฟต์สำคัญครั้งนี้กับศึก UFC 284 ได้ทาง TrueVisions ช่อง True Sport HD 3 (668) เริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ตามเวลาประเทศไทย