×

Loki ซีซัน 2 บทสรุปของเทพจอมเจ้าเล่ห์และ ‘รอยยิ้ม’ ที่ไร้เล่ห์เหลี่ยม

15.11.2023
  • LOADING...
Loki ซีซัน 2

หมายเหตุ: มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์ Loki ซีซัน 2

 

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนจบกันแล้วสำหรับ Loki ซีซัน 2 ซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Marvel Studios ที่ได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชมอย่างเนืองแน่นในทุกตอนที่ออกฉาย โดยซีรีส์ได้คะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 81% และคะแนนจากผู้ชมทั่วไปอยู่ที่ 81% เช่นกัน

 

โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ส่งให้ Loki ซีซัน 2 สามารถเอาชนะใจผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด เห็นจะเป็นการเดินทางของเทพจอมเจ้าเล่ห์อย่าง Loki (Tom Hiddleston) ที่ไม่ใช่แค่พาเราไปรับชมบทสรุปของเขาในฐานะซีรีส์ความยาว 2 ซีซันจบเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงบทสรุปของเขาในฐานะหนึ่งในตัวละครสำคัญที่อยู่คู่กับจักรวาล MCU มายาวนานร่วม 12 ปี นับตั้งแต่เขาปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Thor (2011)

 

Tom Hiddleston as Loki in Marvel Studios’ LOKI, Season 2, exclusively on Disney+. Photo by Gareth Gatrell. © 2023 MARVEL.

 

 

ย้อนกลับไปในวันที่ภาพยนตร์เรื่อง The Avengers (2012) เข้าฉาย แม้ว่าฉากการรวมทีมครั้งแรกของเหล่าฮีโร่นั้นจะน่าตื่นตาตื่นใจ แต่เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เปี่ยมสีสันคือตัวร้ายหลักของเรื่องอย่าง Loki กับคาแรกเตอร์ของเทพจอมเจ้าเล่ห์ที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าในภาพยนตร์เรื่อง Thor ฉากตลกขบขันของตัวละครที่ถูกนำเสนอมาได้อย่างพอเหมาะ รวมถึงการแสดงของ Tom Hiddleston ที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองออกมาได้อย่างโดดเด่น จนส่งให้ Loki มีฉากอันเป็นที่จดจำของผู้ชมมากมายไม่แพ้เหล่าฮีโร่ (โดยเฉพาะฉาก ‘เทพกระจอก’ ที่แฟนๆ ยังคงหยิบมาใช้ล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง)

 

หลังจากนั้น Loki ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีพัฒนาการอันโดดเด่น ไล่ตั้งแต่ Thor: The Dark World (2013) ที่แม้ภาพรวมของเรื่องจะไม่กลมกล่อมนัก แต่เราก็ได้เห็นแง่มุมของ Loki ที่อ่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม หรือจะเป็น Thor: Ragnarok (2017) ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวละครแย่งซีนประจำเรื่อง รวมถึง Avengers: Infinity War (2018) ที่แม้เขาจะปรากฏตัวออกมาสั้นๆ ในตอนต้นเรื่อง แต่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งฉากจำของเรื่องไม่แพ้กัน

 

 

(L-R): Ke Huy Quan as O.B., Wunmi Mosaku as Hunter B-15, Tom Hiddleston as Loki, and Owen Wilson as Mobius in Marvel Studios’ LOKI, Season 2, exclusively on Disney+. Photo by Gareth Gatrell. © 2023 MARVEL.

 

มาจนถึงซีรีส์ Loki ที่คราวนี้เขาไม่ได้เป็นเพียงตัวละครสมทบที่คอยสร้างสีสัน แต่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวละครหลักที่เราจะได้เข้าไปสำรวจเรื่องราวของเขาอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น โดยเฉพาะกับการเลือกใช้ Loki ในเวอร์ชันของ The Avengers ภาคแรกที่เสมือนว่าผู้สร้างตั้งใจที่จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปทำความรู้จักเขากันใหม่อีกครั้ง ทั้งการเป็นเทพผู้เย่อหยิ่ง เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม และหมายมั่นที่จะขึ้นเป็นผู้ครองบัลลังก์เพียงอย่างเดียว

 

ก่อนที่ตัวซีรีส์จะค่อยๆ พาเราไปติดตามพัฒนาการของเขาที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ผ่านความสัมพันธ์ของตัวละครรอบข้างอย่าง Mobius (Owen Wilson) ที่ทำให้เขาเข้าใจความหมายของคำว่ามิตรภาพและความเชื่อใจ หรือ Sylvie (Sophia Di Martino) ตัวแปรของ Loki ที่เสมือนเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เขามองเห็นและรู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้น

 

จนในท้ายที่สุด Loki ก็ได้พบกับสิ่งที่เขาโหยหามาโดยตลอด นั่นคือ ‘ผองเพื่อน’ ที่เข้ามาเติมเต็มให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป และพร้อมจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผู้คนเหล่านั้นไว้ แม้กระทั่งการยอมกลายเป็นเทพผู้อยู่เหนือทุกเส้นเวลาเพียงลำพัง เพื่อเฝ้ามองเพื่อนๆ ของเขาได้เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองอย่างอิสระก็ตาม

 

  

 

ซึ่ง Tom Hiddleston ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและการเปลี่ยนแปลงของ Loki ตลอดทั้ง 2 ซีซันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า แววตา และรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความทะนงตนและความไม่น่าไว้วางใจ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนสีหน้าท่าทางที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวทางอารมณ์ ความวิตกกังวลว่าเขาอาจจะไม่สามารถปกป้องผู้คนที่เขาผูกพันไว้ได้ ไปจนถึงรอยยิ้มในช่วงท้ายเรื่องที่ไม่ได้เป็นรอยยิ้มเพื่อโน้มน้าวผู้อื่น แต่เป็นรอยยิ้มที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ

 

(L-R): Owen Wilson as Mobius and Tom Hiddleston as Loki in Marvel Studios’ LOKI, Season 2, exclusively on Disney+. Photo by Gareth Gatrell. © 2023 MARVEL.

 

และหากเราลองทบทวนการเดินทางของ Loki ตลอด 2 ซีซันที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ตัวซีรีส์นำเสนอผ่านเรื่องราวของเทพจอมเจ้าเล่ห์ออกมาได้อย่างแจ่มชัด เห็นจะเป็นการบอกกับเราอย่างอ้อมๆ ว่า ‘อย่าให้ใครมาบอกว่าเราเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ได้’ เพราะตลอด 2 ซีซันที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า Loki มักจะถูกผู้คนรอบข้างเน้นย้ำเสมอว่า Loki จะต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้และความโดดเดี่ยวอันเนื่องมาจากความเย่อหยิ่ง มองเห็นแต่เป้าหมายของตัวเอง และไม่เคยคิดถึงผู้คนรอบข้าง

 

แต่ Loki ก็ได้ทำลายคำครหาเหล่านั้นได้สำเร็จ เพราะในที่สุดเขาก็สามารถปกป้องทุกเส้นเวลาได้จริงๆ และแม้ว่าสิ่งที่ต้องแลกมานั้นคือการที่ต้องนั่งอยู่บนบัลลังก์เพียงลำพังก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะเขายังมีเพื่อนพ้องอย่าง Mobius, Sylvie และผู้คนใน TVA อีกมากมายที่ยังคงคิดถึงและจดจำทุกเรื่องราวของเขา ไม่ใช่ในฐานะของเทพจอมเจ้าเล่ห์ แต่ในฐานะของ ‘มิตรสหาย’ ที่ช่วยปกป้องทุกเส้นเวลาไว้นั่นเอง

 

สำคัญที่สุด Loki คงจะไม่สามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เลยหากเขาไม่มี Sylvie ที่ช่วยให้เขาได้ทบทวนตัวเองในอดีต จนค้นพบสิ่งที่เขาต้องการจากใจจริง รวมไปถึง Mobius ที่แม้ช่วงแรกพวกเขาจะไม่ไว้วางใจกันก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็น Mobius ที่เชื่อใจและพร้อมจะช่วยเหลือเขามากกว่าใคร ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ช่วยเน้นย้ำความหมายของคำพูดที่ Mobius เคยกล่าวกับ Loki ไว้ในซีซันแรกที่ว่า

 

“นายเป็นได้ทุกๆ อย่าง ทุกสิ่งที่นายอยากเป็น แม้แต่เป็นคนดี บอกไว้เผื่อมีใครบอกนายว่าเป็นไปไม่ได้”

 

สามารถรับชมซีรีส์ Loki ทั้ง 2 ซีซันได้แล้วทาง Disney+ Hotstar

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่:

 

 

 

ภาพ: Marvel Studios

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising