หลังจากที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะแอสตัน วิลลาได้อย่างสุดมันในวัน ‘บ็อกซิ่งเดย์’ เมื่อคืนที่ผ่านมา เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หนึ่งในปราการหลังเสาหลักของทีมได้พูดเป็นนัยอย่างน่าสนใจว่า “หวังว่าทีมจะได้ต้อนรับนักเตะใหม่”
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่านักเตะคนดังกล่าวจะเป็น โคดี กักโป กองหน้าดาวเด่นของทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากทีมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ที่คาดว่าค่าตัวจะอยู่ที่ราว 40-50 ล้านยูโร
กระแสข่าวนั้นเริ่มต้นที่การรายงานของนักข่าวระดับหัวแถวของยุโรปอย่าง เดวิด ออร์นสตีน จาก The Athletic ที่เปิดเผยว่าลิเวอร์พูลได้บรรลุข้อตกลงกับพีเอสวีฯ สำหรับการคว้าตัวกองหน้าวัย 23 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่นักเตะเลือกที่จะย้ายมาแอนฟิลด์เอง
ก่อนที่ทางด้านสโมสรจากแดนกังหันลมจะยืนยันเรื่องนี้ผ่านแถลงการณ์ “พีเอสวีฯ และลิเวอร์พูล ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการย้ายทีมของโคดี กักโป กองหน้าวัย 23 ปีจะเดินทางไปอังกฤษทันทีเพื่อดำเนินการในสิ่งที่ต้องจัดการเรื่องการย้ายทีมอย่างเป็นทางการให้เรียบร้อย”
และนั่นเองที่ทำให้ข่าวนี้กลายเป็นกระแสฮือฮา เพราะเป็นการย้ายทีมที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ตกลงเกิดอะไรขึ้นในการเจรจาครั้งนี้?
ลิเวอร์พูลตัดหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด?
เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ในโลกออนไลน์ที่มีการพูดถึงอย่างมากทั้งในหมู่ของแฟนลิเวอร์พูลและแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าตกลงแล้วงานนี้มีการปาดหน้ากันหรือไม่
ถ้ายึดตามการรายงานของ เดวิด ออร์นสตีนแล้วดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น เพราะระบุว่ากักโปได้เลือกลิเวอร์พูลก่อนหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด (และเชลซี) ซึ่งตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมากองหน้าที่กำลังร้อนแรงทั้งกับพีเอสวีฯ ในลีกดัตช์ และเป็นดาวเด่นของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา มีข่าวจะย้ายมาโอลด์แทรฟฟอร์ดมาโดยตลอด
แม้กระทั่งผู้สื่อข่าวที่ถือเป็นมือหนึ่งในเรื่องการย้ายทีมอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน เองยังมีการทวีตก่อนหน้าข่าวการย้ายทีมไม่กี่ชั่วโมงว่าตัวเลือกของกักโปคือแมนฯ ยูไนเต็ด โดยไม่ได้มีการอ้างอิงถึงลิเวอร์พูลเลยแม้แต่น้อย
ในเบื้องหลังนั้นแมนฯ ยูไนเต็ดให้ความสนใจกักโปจริง โดยนักเตะรายนี้เป็นเป้าหมายในใจของ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีม ที่ต้องการได้ตัวมาเสริมกำลังในแนวรุก ซึ่งตัวเลือกลดลงไปอีกสอง จากการยกเลิกสัญญาของ คริสเตียโน โรนัลโด และปัญหาทางสุขภาพจิตของ จาดอน ซานโช ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะพร้อมกลับมาสู่ทีมได้อีกครั้งเมื่อไร
แมนฯ ยูไนเต็ดยังมีการเจรจากับฝ่ายของนักเตะเอาไว้แล้ว โดยสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้เรียบร้อย โดยที่กักโปเองก็แจ้งต่อสโมสรว่าต้องการที่จะย้ายออกจากทีมในช่วงตลาดฤดูหนาวนี้ทันที หลังจากที่พลาดโอกาสในการย้ายทีมช่วงตลาดฤดูร้อนไปแล้วครั้งหนึ่ง ขั้นตอนที่เหลืออยู่คือการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้แก่พีเอสวีฯ เท่านั้น
ปัญหาคือข้อเสนอดังกล่าวไม่เกิดขึ้น เพราะฝ่ายบริหารแมนฯ ยูไนเต็ดมองว่ากักโปไม่ใช่ตำแหน่ง ‘หมายเลข 9’ แบบที่สโมสรต้องการ ดังนั้นต่อให้ผู้จัดการทีมจะอยากได้ นักเตะพร้อมจะย้าย แต่สโมสรไม่ซื้อขายกันก็ทำอะไรไม่ได้ และนั่นเป็นเวลาเดียวกับที่ลิเวอร์พูลเดินเกมเร็วตามสูตรถนัด และเป็นสโมสรเดียวที่มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้แก่พีเอสวีฯ
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ลิเวอร์พูลคว้าตัวกักโปมาร่วมทีมได้แบบเซอร์ไพรส์
ซาดิโอ มาเนคนใหม่
การคว้าตัวกักโปมาร่วมทีมถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในหลายแง่
ประการแรก พวกเขาได้หนึ่งในกองหน้าดาวรุ่งอนาคตไกลที่น่าจับตามองมากที่สุดของยุโรปมาในสนนราคาที่ค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ราคาแรงกว่าเกือบเท่าตัว ขณะที่อายุการใช้งานนั้นเหลือเฟือ โดยเวลานี้อายุ 23 ปีเท่านั้น และทำให้กักโปได้รับสัญญาระยะยาวถึง 6 ปี
ประการต่อมา กักโปเป็นกองหน้าที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก โดยแม้จะโดดเด่นกับพีเอสวีฯ ในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้าย แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นในฟุตบอลโลกว่าเขาสามารถที่จะเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าได้ดีด้วยเช่นกัน
ความอเนกประสงค์ของกักโปนี่เองที่สำคัญ เพราะนับตั้งแต่ที่ลิเวอร์พูลเสีย ซาดิโอ มาเน ที่ขออำลาทีมเพื่อย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิกในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมประสบปัญหาในแนวรุกมาโดยตลอด เมื่อไม่มีคนที่เป็นเสาหลักค้ำยันให้กับทีมได้เหมือนดาวยิงชาวเซเนกัล ที่พร้อมจะลงช่วยทีมได้ทุกตำแหน่งที่ได้รับการร้องขอ
ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การที่เขาจะช่วยประคองทีมในระหว่างที่คนที่เคยเป็นตัวทำเกมอย่าง หลุยส์ ดิอาซ ที่เกิดบาดเจ็บซ้ำที่เข่าและต้องพักการเล่นยาวอีกอย่างน้อยถึงเดือนมีนาคม เช่นเดียวกับกองหน้าอเนกประสงค์อีกคนอย่าง ดีโอโก โชตา ซึ่งต้องพักการเล่นถึงเดือนกุมภาพันธ์
ดังนั้นระหว่างนี้ไปกักโปจะผนึกกำลังร่วมกับ ดาร์วิน นูนเญซ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เป็น 3 ประสานใหม่ของลิเวอร์พูล ‘G-N-S’ โดยที่หากยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงเหมือนในทีมพีเอสวีฯ และทีมชาติ โดยมีส่วนกับการได้ประตูถึง 35 ประตู (ประตูและแอสซิสต์) ได้ ก็จะช่วยลิเวอร์พูลที่หวังจะกลับไปลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ได้มาก
ที่สำคัญคือ การย้ายมาแบบเซอร์ไพรส์เช่นนี้ถือว่าช่วยทำให้บรรยากาศของทีมดีขึ้นอย่างมากในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นของขวัญกล่องใหญ่ให้แฟนเดอะค็อปทั่วโลกได้มีความสุขกัน
แต่ถ้าได้กองกลางเพิ่มอีกสักคนจะดีใจยิ่งกว่านี้อีก เดอะค็อปทั่วโลกกล่าวไว้ 🙂
อ้างอิง:
