เว็บไซต์ fashionnetwork.com ได้ลงไปศึกษาเทรนด์การไลฟ์ขายสินค้าแฟชั่นลักชัวรีในแถบประเทศยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศสและอิตาลี หลังประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศจีน บวกกับสถานการณ์โควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้หลายแบรนด์ต้องปิดร้านและหันมาลุยขายสินค้าออนไลน์แทน
โดยทางเว็บไซต์ได้สอบถามไปยังห้างสรรพสินค้าดังใจกลางกรุงปารีสอย่าง Le Printemps ที่เริ่มใช้กลยุทธ์ไลฟ์ขายของมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2021 ผ่านเซสชันที่ชื่อว่า ‘En Mode Printemps’ ที่จัดขึ้นทุกๆ วันพุธบนเว็บไซต์ของห้าง โดยมีผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว (Personal Shopper) เป็นผู้ดำเนินรายการและให้คำแนะนำกับลูกค้า พร้อมกับมีนางแบบมาใส่ชุดฟิตติ้งเสื้อผ้าให้ดูกันสดๆ
นอกจากนี้ทางห้างยังมีการจัดไลฟ์สตรีมผ่านหลากหลายช่องทางพร้อมกัน ทั้ง Facebook, Instagram และ LinkedIn และพบว่า 90% ของการรับชมหน้าเว็บ และการซื้อสินค้ามาจากการดูย้อนหลัง
สวนทางกับห้างดังอย่าง Galeries Lafayette ที่ยังคงชั่งใจกับการลงสนามไลฟ์สตรีม เนื่องจากต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของห้าง ค่าใช้จ่ายในเรื่องโปรดักชัน สต๊อก สินค้า และโฮสต์หรืออินฟลูเอ็นเซอร์ที่ต้องพร้อมตอบคำถามลูกค้า แต่ยังคงใช้กลยุทธ์วิดีโอคอลตัวต่อตัวกับลูกค้าแทน
สำหรับแบรนด์ใหญ่ที่เริ่มใช้ทั้งกลยุทธ์วิดีโอคอลและไลฟ์ก็มีทั้ง Gucci ที่เปิดตัวบริการวิดีโอคอล Gucci Live จาก Gucci 9 หรือแผนกดูแลลูกค้านานาชาติของแบรนด์ที่เมืองฟลอเรนซ์ ไปเมื่อกลางปี 2020 ตอนที่อิตาลีเร่ิมเข้าสู่ช่วงล็อกดาวน์และการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่หนักหน่วง
ส่วนทาง Louis Vuitton ที่มีการไลฟ์ขายสินค้าประเทศจีนผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Xiaohongshu เช่นเดียวกับบริษัทแม่อย่าง LVMH ที่เซ็นสัญญากับบริษัทสตาร์ทอัพจากสวีเดนชื่อว่า Bambuser ให้เข้ามาช่วยเหลือด้านไลฟ์สตรีม
ภาพ: Gucci
อ้างอิง: