×

บาร์เซโลนา v เปแอสเช: วันดูตัวของ ลิโอเนล เมสซี กับว่าที่ทีมใหม่?

16.02.2021
  • LOADING...
บาร์เซโลนา v เปแอสเช: วันดูตัวของ ลิโอเนล เมสซี กับว่าที่ทีมใหม่?

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • กีเยม บาลาเก กูรูลูกหนังแดนกระทิงดุ เปิดเผยในบทวิเคราะห์ชิ้นล่าสุดว่า เมื่อครั้งที่เมสซีได้บอกกับครอบครัวในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาว่าเขาตั้งใจจะไปจากบาร์ซาเพื่อเล่นยังต่างแดน ทุกคนที่ได้ยินต่างร้องไห้กันถ้วนหน้า
  • เปแอสเชเองที่เหมือนจะไม่น่ายุ่งยาก ความจริงแล้วก็ลำบากอยู่ลึกๆ เพราะต่อให้มีอำนาจทางการเงินล้นฟ้าแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถจะเก็บนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกเอาไว้ในทีมได้พร้อมกันถึง 3 คน
  • บาร์ซายกระดับทีมกลับมาอยู่ในมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยหลังจากที่เริ่มฤดูกาลอย่างกระท่อนกระแท่นและเต็มไปด้วยปัญหา แต่ล่าสุดพวกเขาไม่แพ้ใครติดต่อกันมา 12 นัดในลาลีกา โดยเป็นการชนะถึง 9 นัด และรอยยิ้มของเมสซีเริ่มกลับมา

เรื่องราวระหว่าง ลิโอเนล เมสซี ราชาลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์กับสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือ เปแอสเช ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด หลังจากที่มีการเปิดเผยท่าทีของทั้งสองฝ่ายมามากพอสมควร

 

สำหรับเมสซี แม้ว่าจะยังสงวนท่าที ขอเปิดเผยการตัดสินใจในเรื่องของอนาคตว่าจะเอาอย่างไรต่อไปหลังสัญญากับต้นสังกัดบาร์เซโลนาจะหมดลงในสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และสามารถย้ายทีมได้อย่างเป็นอิสระจริงๆ ไม่ถูกขู่เข็ญและบังคับขืนใจให้อยู่เหมือนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่บนโลกนี้ดูเหมือนจะมีเพียง 2 สโมสรที่สามารถจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับเขาได้ไหว

 

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งต่างก็มีข้อดีคนละแบบ เพียงแต่ดูเหมือนทิศทางข่าวจะเทน้ำหนักให้สตาร์วัย 33 ปีย้ายมาสู่นครหลวงแห่งความรักอย่างปารีส มากกว่าเมืองแห่งสายฝนอย่างแมนเชสเตอร์ เพราะมีทั้งคู่ซี้ในทีมชาติอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, เนย์มาร์ รุ่นน้องที่รักและรอคอยวันที่จะได้กลับมาเล่นร่วมกันอีกครั้งมาหลายปี และผู้จัดการทีมคนบ้านเดียวกันอย่าง เมาริซิโอ​ โปเช็ตติโน

 

ทั้งหมดนี้ออกตัวค่อนข้างแรง โดยเฉพาะเนย์มาร์ที่เคยประกาศหลังเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ในเกมแชมเปียนส์ลีกเมื่อเดือนธันวาคมว่า “สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือการได้เล่นกับเมสซีอีกครั้ง เพื่อจะได้สนุกกับการได้เล่นกับเขาในสนามอีกครั้ง

 

เขาสามารถจะเล่นในตำแหน่งของผมได้เลย เขาจะไม่มีปัญหาแน่นอนผมมั่นใจ ผมอยากจะเล่นกับเขาอีกครั้ง และผมมั่นใจว่าเราจะได้เล่นด้วยกัน”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว France Football นิตยสารลูกหนังชื่อก้องโลกเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์เองถึงขั้นตีพิมพ์นิตยสารฉบับอื้อฉาว เมื่อมีภาพของเมสซีถูกตัดต่ออยู่ในชุดเสื้อของทีมเปแอสเช พร้อมกับการพาดหัวว่า ‘การ์ดลับของเปแอสเช’ ที่ส่อให้เข้าใจว่าอนาคตของเขาไม่แคล้วจะอยู่ที่นี่

 

อย่างไรก็ดี สำหรับเมสซี การตัดสินใจเรื่องนี้ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ต่อให้ลั่นวาจาไปแล้วว่าต้องการจะไปจากบาร์เซโลนาหลังหมดสัญญาก็ตาม

 

และสำหรับเปแอสเชเอง การจะเซ็นสัญญากับเมสซีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน 

 

เรา-สอง-สาม-คน

 

ความซับซ้อนนั้นเกิดขึ้นจากการที่สถานการณ์ของทั้งสองฝั่งเองไม่ได้ชัดเจนมากพอ โดยฟากของเมสซีนั้นยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไร แรงกดดันจากทุกฝ่ายที่มีต่อเขาก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น

 

หลายคน – แม้กระทั่งเพื่อนสนิท คนใกล้ชิด – เองก็อยากให้เขาบอกมาเลยว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่ละเอียดอ่อนและสงวนพื้นที่ส่วนตัวอย่างเมสซีไม่ค่อยพอใจนักที่ถูกคนรอบข้างกดดันแบบนี้

 

การตัดสินใจครั้งนี้อาจจะไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาลเหมือนเมื่อครั้งตัดสินใจที่จะอยู่ที่สเปนกับพ่อต่อเมื่ออายุ 12 ปี โดยไม่ขอกลับไปอาร์เจนตินา ซึ่งส่งผลกระทบต่อครอบครัวที่ต้องแยกกันอยู่ด้วยความจำเป็น

 

แต่การตัดสินใจที่จะไปจากสโมสรที่เขาใช้เวลาค่อนชีวิต รวมถึงเป็นเมืองที่ครอบครัวอยู่ร่วมกันมาตลอดโดยไม่เคยคิดว่าจะต้องพลัดถิ่นไปที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

 

กีเยม บาลาเก กูรูลูกหนังแดนกระทิงดุ เปิดเผยในบทวิเคราะห์ชิ้นล่าสุดว่า เมื่อครั้งที่เมสซีได้บอกกับครอบครัวในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาว่าเขาตั้งใจจะไปจากบาร์ซาเพื่อเล่นยังต่างแดน ทุกคนที่ได้ยินต่างร้องไห้กันถ้วนหน้า

 

มันบ่งบอกให้เห็นถึงน้ำหนักของการตัดสินใจที่ไม่ธรรมดา และเขาไม่อยากจะผลีผลามอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีการเลือกตั้งประธานสโมสรของบาร์เซโลนารออยู่ในวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งหนึ่งในตัวเต็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานคือ โจน ลาปอร์ตา อดีตประธานสโมสรผู้มีส่วนปลุกปั้นเขามาตั้งแต่เล็ก และมั่นใจว่าหากชนะการเลือกตั้งก็อาจจะรั้งตัวเขาไว้ได้

 

แม้ว่าการรั้งตัวเมสซีอาจจะต้องแลกมาด้วยการปล่อยตัวนักเตะอย่าง อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล, เกลมองต์ ลองเลต์ และ ซามูเอล อุมติตี้ เพื่อระดมทุน 200 ล้านยูโรก็ตาม

 

ไม่นับเรื่องการใช้ฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ในปี 2022 เป็นข้ออ้างในการรั้งให้เขาอยู่ต่อ เพราะการอยู่ในทีมที่เล่นมาตลอดชีวิตนั้น จะทำให้การเตรียมตัวในฟุตบอลโลกที่น่าจะเป็นความหวังสุดท้ายสำหรับเขาในการลุ้นคว้าแชมป์โลกสักครั้งในชีวิต ง่ายกว่าการไปเริ่มต้นใหม่ในทีมใหม่ ลีกใหม่ และประเทศใหม่อย่างฝรั่งเศส

เอาไว้ผ่านฟุตบอลโลกแล้วค่อยคิดถึงการผจญภัยครั้งสุดท้าย ซึ่งเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เป็นตัวเลือกที่เมสซีเองก็สนใจมานาน และภรรยาของเขาอันโตเนลลาก็จะได้พบกับเพื่อนสนิทของเธออย่าง ดานิเอลลา เซมานน์ ภรรยาของเพื่อนซี้อย่าง เชส ฟาเบรกาสด้วย

 

สำหรับเปแอสเชเองที่เหมือนจะไม่น่ายุ่งยาก ความจริงแล้วก็ลำบากอยู่ลึกๆ เพราะต่อให้มีอำนาจทางการเงินล้นฟ้าแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถจะเก็บนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกเอาไว้ในทีมได้พร้อมกันถึง 3 คน

 

เนย์มาร์ เวลานี้ชัดเจนว่าเขาล้มเลิกความคิดที่จะย้ายออกไป เพราะโควิด-19 ทำให้ไม่มีสโมสรไหนที่จะสามารถดึงตัวเขาไปได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด ที่สถานการณ์ทางการเงินย่ำแย่อย่างหนัก

เจ้าชายลูกหนังชาวบราซิลจึงอยู่ในกระบวนการของการต่อสัญญายาวฉบับใหม่ และทำให้เขาจะอยู่กับทีมค่อนข้างแน่

 

คนที่เป็นปัญหาคือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ สตาร์ลูกหนังอีกรายที่ยังยักแย่ยักยันกันอยู่ เนื่องจากกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสมีสัญญากับสโมสรถึงปี 2022 ทำให้มีอำนาจในการต่อรองกับสโมสรสูง และที่ผ่านมามีกระแสข่าวมาโดยตลอดว่าอาจจะย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้

 

นั่นทำให้เปแอสเชมีความเป็นไปได้ที่จะคว้าตัวเมสซีเข้ามา เพื่อเป็นการทดแทนในเชิงของสถานะนักเตะระดับเวิลด์คลาส

 

แต่ล่าสุด เอ็มบัปเป้กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ และมีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจขอต่อสัญญาและอยู่กับทีมต่อไป ซึ่งถ้าออกมาในรูปแบบนี้ โอกาสของเมสซีที่จะย้ายมาปาร์ก เดส์ แพรงซ์ก็จะลดลงอย่างมากจนแทบไม่เหลือโอกาส

 

 

วันดูตัวของทั้งเมสซีและเปแอสเช

 

เรื่องการย้ายทีมนั้นเป็นสิ่งที่ต้องว่ากันในอนาคต สิ่งที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้คือการประลองฝีเท้ากันของสองทีมที่ห้ำหั่นกันบ่อยในแชมเปียนส์ลีกหลายปีหลัง

สิ่งที่น่าเสียดายและน่าเสียใจคือ การที่เนย์มาร์โชคร้าย ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่สะโพกจนไม่สามารถจะลงสนามได้ในเกมนี้ – ซึ่งเป็นอีกครั้งที่สตาร์ลูกหนังชาวบราซิลได้รับบาดเจ็บหนักในช่วงเวลาประมาณนี้ของฤดูกาล

 

นั่นหมายถึงเราหมดสิทธิ์ได้เห็นการดวลกันระหว่างเมสซีและเนย์มาร์ในคืนนี้ที่คัมป์นู และอาจจะรวมถึงในเกมที่ 2 ที่ปาร์ก เดส์ แพรงซ์ด้วย เพราะอาการบาดเจ็บนั้นต้องใช้ระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งกระชั้นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ดี เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก เพราะบาร์ซายกระดับทีมกลับมาอยู่ในมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยหลังจากที่เริ่มฤดูกาลอย่างกระท่อนกระแท่นและเต็มไปด้วยปัญหา แต่ล่าสุดพวกเขาไม่แพ้ใครติดต่อกันมา 12 นัดในลาลีกา โดยเป็นการชนะถึง 9 นัด

 

โดยที่สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในทีมบาร์ซาที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

 

หนึ่งในคนที่ทำได้ดีที่สุดคือเมสซี ที่กลับมาเข้าฝักทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และกลับมาเป็นคีย์แมนคนเก่าที่สามารถพลิกเกมได้ด้วยตัวเองเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ซึ่งถือเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในระดับมาตรฐานเหนือมนุษย์ของราชาลูกหนังร่างเล็ก

 

ดังนั้น ในเกมนี้จึงอาจเป็นเหมือนเกมทดสอบฝีเท้าของเขากลายๆ ซึ่งหากทำผลงานได้น่าประทับใจ ก็มีโอกาสที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจของเปแอสเชในการจะเลือกตาหมากต่อไปในเรื่องนี้

 

ในทางกลับกัน เมสซีเองก็จะได้เห็นว่า หนึ่งในทีมที่อาจจะกลายเป็นอนาคตของเขานั้นเป็นอย่างไร หากจะไปนั้นเปแอสเชดีกว่าบาร์ซาที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือไม่?

 

โดยระหว่างที่สองฝ่ายต่างดูตัวกันและกันในเกมนี้ ก็ยังมีอีกฝ่ายอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่จับจ้องสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดีดลูกคิดคำนวณตัวเลขไปด้วย

 

คุ้มหรือไม่คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย

 

ดูในสนามก็รู้

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

FYI
  • สำหรับแฟนฟุตบอล ไม่ว่าจะชอบหรือเชียร์ทั้งสองทีมหรือไม่ นี่คือการเผชิญหน้ากันของสองทีมที่เล่นได้น่าดูชมที่สุดของโลก และในสนามก็ไม่ได้มีแค่เมสซี แต่ยังมียอดนักเตะคนอื่นๆอย่างเอ็มบัปเป้, กรีซมันน์, เดมเบเล, ดิ มาเรีย หรือไอ้หนูตัวแสบอย่าง มอยเซ คีน, เปดรี, ตรินเกา, แฟรงกี เดอ ยอง ให้ได้ติดตามไปด้วย
  • หนึ่งในเกมที่เหลือเชื่อที่สุดคือวันที่บาร์ซาถล่มเปแอสเช 6-1 พลิกสถานการณ์จากที่เกมแรกแพ้มา 0-4 จนเข้ารอบแชมเปียนส์ลีกได้เมื่อปี 2017 ซึ่งเกมนั้นได้รับชื่อว่า La Remontada ซึ่งเป็นภาษาสเปนที่แปลได้ว่า ‘การกลับมา’ โดยที่หลังจากเกมนี้แล้วบาร์ซาไม่เคยทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบนี้อีกเลย
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising