×

เสริมบั้นท้ายหลบไป จมูกเด้ง ติ่งหูเฟิร์มต้องมา ศัลยแพทย์เผยเทรนด์ความงามล่าสุดของคนดังฮอลลีวูด

27.07.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • การเสริมบั้นท้าย (ที่สาวๆ บ้านคาร์ดาเชียนทำให้บูมสุดๆ) ถือว่าเริ่มจะตกเทรนด์ไปแล้ว และสิ่งที่กำลังมาแทนคือการฉีดฟิลเลอร์เติมปลายจมูกให้ดูเชิด และฉีดติ่งหูให้ดูอวบอิ่ม ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่ผู้คนหันมาสนใจเพื่อเอาชนะความชราวัยกันเพิ่มขึ้น
  • แม้กระแสความนิยมที่เน้นให้แลดู ‘เป็นธรรมชาติ’ กำลังฮอตอยู่ในปัจจุบัน แต่นั่นกลับทำให้ศัลยกรรมพลาสติกเป็นที่พึ่งอันดับต้นๆ มากขึ้นเสียอีกเพื่อผลลัพธ์ที่คล้ายกัน

แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญคนโปรดของเหล่าคนดัง ดร.ฮาโรลด์ แลนเซอร์ (Dr. Harold Lancer) เผยถึงเทรนด์ศัลยกรรมยอดฮิตในหมู่คนดังระดับเอลิสต์ รวมถึงการปรับแต่งเรือนร่างที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยของคนในแวดวงฮอลลีวูด

 

เทรนด์ความงามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ ดร.ฮาโรลด์ ต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อเสริมเติมความงามให้กับลูกค้าขาประจำ อาทิ คิม คาร์ดาเชียน เวสต์, บียอนเซ่, เจนนิเฟอร์ โลเปซ ไปจน มาร์โกต์ ร็อบบี้

 

Photo: drlancerrx / instagram.com

 

ดร.ฮาโรลด์ ให้สัมภาษณ์กับ Hollywood Reporter ถึงศัลยกรรมและผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในหมู่ดารา และความรู้สึกถึงการเป็นแพทย์ผิวหนังไม่กี่คนที่ยังได้รับความนิยม ในขณะที่คนหันไปหาศัลยแพทย์กันมากขึ้น เขายังกล่าวอีกว่า การผ่าตัดที่มีลักษณะบอกให้รู้ว่าไปผ่าตัดเสริมความงามมานั้น ‘เชย’ ไปเสียแล้ว เพราะคนหันมาพึ่งพาการผ่าตัดที่ทิ้งร่องรอยไว้น้อยที่สุด ซึ่ง 90 เปอร์เซ็นต์ของศัลยกรรมความงามขณะนี้เป็นเช่นนั้น

 

ดร.ฮาโรลด์เผยอีกว่า การโบท็อกซ์และดูดไขมันยังคงเป็นอันดับ 1 ครองแชมป์ศัลยกรรมตกแต่งที่คนถามหา แต่ปัจจุบันนี้แทนที่การสร้างซิกซ์แพ็กขึ้นมาทั้งแผง เหล่าเซเลบหันมาสนใจทำในส่วนที่เล็กลง เช่น เหนียง เป็นต้น

 

นั่นแปลว่าการเสริมบั้นท้าย (ที่สาวๆ บ้านคาร์ดาเชียนทำให้บูมสุดๆ) ถือว่าเริ่มจะตกเทรนด์ไปแล้วเช่นกัน “ความฮิตของการเสริมก้นให้ดูใหญ่เบิ้มนั่นเริ่มจะเอาต์ไปแล้วครับ” เขาเสริม แต่เดาสิว่าอะไรมาแทนที่?

 

การเสริมปลายจมูกและเติมติ่งหูให้ดูเต็มนั่นไง

 

 

ดร.ฮาโรลด์ระบุว่า การฉีดฟิลเลอร์เติมปลายจมูกให้ดูเชิด และฉีดติ่งหูให้ดูอวบอิ่มเป็นเทรนด์ใหม่ที่ผู้คนหันมาสนใจมากขึ้นเพื่อเอาชนะความชราวัย

 

แม้จะฟังดูตลกดีแท้ แต่แพทย์ศัลยกรรมพลาสติก ดร.เจฟฟรีย์ ร็อกมอร์ (Dr. Jeffrey Rockmore) กลับเห็นตรงกันถึงเทรนด์ศัลยกรรมติ่งหูที่กำลังมา

 

“เมื่อแก่ตัวลง ติ่งหูของเราจะแลดูห้อยหรือหย่อนยาน ซึ่งทำให้แลดูสูงอายุทั้งในหญิงและชาย โดยในบางกรณียังดูเหี่ยวฝ่ออีกด้วย แต่เราแก้ได้ด้วยการฉีดไขมันเข้าไปให้แลดูเต่งตึงและแลดูเยาว์วัย” เขาบอกหนังสือพิมพ์ The Independent ของอังกฤษ

 

นอกจากนี้ผู้หญิงยังเลิกพึ่งมีดหมอ หันมาหาเทคนิคการแพทย์อย่างการใช้เข็มขนาดจิ๋ว (micro-needle) บริเวณร่องอก ซึ่ง ดร.ฮาโรลด์ เผยว่า เป็นความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

 

การใช้เข็มขนาดเล็กจิ้มซ้ำๆ ลงบนผิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและเสริมสร้างอิลาสตินให้แลดูเต่งตึง ทั้งยังลดริ้วรอยที่มักทิ้งไว้บนผิวหลังการผ่าตัด คลื่นความถี่วิทยุของเข็มจิ๋วนี้ยังช่วยให้หัวนมเต่งตึงขึ้น 2-3 มิลลิเมตรอีกด้วย

 

 

และเทรนด์นี้หาใช่เป็นความลับของชาวฮอลลีวูดเสียเมื่อไร ดร.ฮาโรลด์ เปิดเผยว่า กลุ่มลูกค้าวัยเยาว์ที่นิยมใส่เสื้อผ้าที่มักเปิดผิวบริเวณนั้นก็นิยมไม่แพ้กัน แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าคือ ไม่เพียงแต่ผู้หญิงที่ถามหาขั้นตอนนี้กับ ดร.ฮาโรลด์ เพราะผู้ชายเองก็ถามหาสิ่งช่วย ‘อัป’ ลุคของพวกเขาไม่แพ้กัน

 

ดร.ฮาโรลด์ ผู้เคยทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณสุภาพบุรุษร่วมกับพิธีกรคนดังประจำฮอลลีวูดอย่าง ไรอัน ซีเครสต์ ยังระบุอีกว่า “เมื่อ 5 ปีก่อน จากคนไข้ 20 คน จะมีผู้ชายในนั้น 1 คนที่เข้ามาทำศัลยกรรมพลาสติก แต่ทุกวันนี้นับเป็นจำนวน 1 ใน 8 คนได้”

 

แม้กระแสความนิยมที่เน้นให้แลดู ‘เป็นธรรมชาติ’ กำลังฮอตอยู่ในปัจจุบัน แต่นั่นกลับทำให้ศัลยกรรมพลาสติกเป็นที่พึ่งอันดับต้นๆ มากขึ้นเสียอีก

 

“ทรีตเมนต์หรือวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดกำลังโตอย่างรวดเร็ว ลูกค้าที่ไม่ต้องการระยะเวลาฟื้นตัวหรือจ่ายเงินไปกับการผ่าตัดเริ่มมองหาทางเลือกอย่าง Coolsculpting, Ultherapy, การยกกระชับก้นแบบบราซิเลียนที่ไม่ต้องผ่า, การดึงผิวบริเวณคอแบบไม่ต้องใช้มีด หรือเสริมดั้งจมูกด้วยการฉีดเข้าไป เป็นต้น และสารที่ใช้ใส่เข้าไปในร่างกายก็มีให้เลือกอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน และความต้องการก็เพิ่มสูงขึ้นอีกเมื่อแขกที่มาใช้บริการพอใจกับผลลัพธ์ที่แลดูเป็น ‘ธรรมชาติ’ นั่นเอง” ดร.ร็อกมอร์กล่าว

 

คำนิยามของคำว่า ‘ธรรมชาติ’ อาจกำลังจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือใจรักในความสวยความงามของมนุษย์ที่ไม่ว่าเพศใดก็ถวิลหาทั้งนั้น และอาจจะยิ่งกว่าเก่าเสียด้วยซ้ำ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising