พาชม Republic of Fritz Hansen คอนเซปต์สโตร์ในบ้านทรงไทยแห่งแรกของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ 150 ปี

‘เรียบง่าย ไร้กาลเวลา’

คือคำนิยามที่เรามักจะนึกถึงแทบทุกครั้งที่ได้เห็นงานออกแบบของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกอย่าง Republic of Fritz Hansen และเป็นคำที่ส่องสะท้อนตัวตนและปรัชญา ‘Crafting timeless design since 1872’ ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์กที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 150 ปี โดยยึดหลักการผลิตด้วยมือเป็นหัวใจสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น Fritz Hansen ยังสร้างสรรค์ผลงานคอลเล็กชันร่วมกับนักออกแบบและสถาปนิกชื่อดังในแต่ละยุคสมัย เช่น เก้าอี้ EGG™ และ Swan™ ผลงานออกแบบโดย อาร์เน ยาคอบเซน (Arne Jacobsen) และเก้าอี้รุ่น PK22™ โดย พอล เคโฮล์ม (Poul Kjaerholm) ซึ่งล้วนแต่เป็นงานออกแบบระดับตำนานทั้งสิ้น

ล่าสุด (26 ก.ค. 60) บริษัท Nørse Republics ซึ่งเคยประสบความสำเร็จจากการนำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ HAY มาแล้ว ได้เปิดตัวคอนเซปต์สโตร์ของ Republic of Fritz Hansen แห่งแรกในกรุงเทพฯ ในฐานะผู้นำเข้าแบรนด์รายเดียวในประเทศไทย แทนที่จะจัดในโชว์รูมหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ทางบริษัทเลือกนำเฟอร์นิเจอร์จากคอลเล็กชันร่วมสมัยและคลาสสิกมาจัดวางอย่างเรียบง่ายในบ้านไทยอายุกว่า 70 ปีในซอยสมคิด ซึ่งตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูจะสอดรับเข้ากับพื้นที่และสภาพแวดล้อมในบ้านได้อย่างลงตัว ไม่ชวนอึดอัดเคอะเขิน ที่สำคัญบ้านหลังนี้ได้รับการตกแต่งปรับปรุงใหม่ โดยที่ยังคงเก็บรักษาโครงสร้างและหน้าต่างไม้ทุกบาน ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของสถาปัตยกรรมไทยแห่งนี้ไว้อีกด้วย

ที่พิเศษไปกว่านั้น THE STANDARD ยังได้ชมการสาธิตวิธีการเย็บเก้าอี้ EGG™ โดย ฮานส์ แมนเนอร์ฮาเกน (Hans Mannerhagen) ช่างฝีมือระดับตำนานของ Fritz Hansen จุดเด่นของเก้าอี้ตัวนี้คือ รูปทรงร่วมสมัย เรียบง่าย และใช้เทคนิคการเย็บหนังด้วยมือทั้งตัว โดย อาร์เน ยาคอปเซน ได้ออกแบบเก้าอี้ตัวนี้ขึ้นพร้อมกับ Swan™ สำหรับใช้ในล็อบบี้ของโรงแรม SAS Royal Hotel โดยเฉพาะ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนถูกยกย่องให้เป็นผลงานระดับไอคอนแห่งยุค โดยในปี 1971 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยประทับเมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนประเทศเดนมาร์ก

ฮานส์เล่าให้เราฟังว่า เก้าอี้ EGG™ ที่จัดแสดงในงานนี้แตกต่างจากตัวอื่นๆ ที่เคยเย็บมา เพราะใช้วัสดุหนังของควายน้ำ (water-buffalo leather) เย็บเข้ากับเก้าอี้ทั้งตัวและเป็นการจับคู่ระหว่างดีไซน์ระดับตำนานกับวัสดุท้องถิ่นในไทยที่น่าสนใจ

“ถ้าลองสัมผัสดู คุณจะรู้สึกได้เลยว่าหนังของเก้าอี้ตัวนี้ให้สัมผัสที่นุ่มและอบอุ่นกว่าเก้าอี้หนังตัวอื่นๆ”

ฮานส์ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินที่เชี่ยวชาญด้านงานศิลปหัตถกรรม เขาเข้าทำงานที่ Fritz Hansen ตั้งแต่ปี 1988 เย็บเก้าอี้มานับไม่ถ้วน และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาทำงานก่อนปลดเกษียณ
เมื่อถามว่าทำไมเขาจึงยังคงหลงใหลในคุณค่าของงานฝีมือ ฮานส์ตอบว่า

“เวลาทำงาน ผมต้องใส่หัวใจลงไปด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ชอบชิ้นงานที่ออกมาเลย

“สำหรับผม มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก ผมรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่วางแผ่นหนังลงบน template แล้วว่าเก้าอี้ตัวนั้นจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร

“สมมติว่าถ้าผมจะสลับหนังส่วนล่างขึ้นมาใช้แทนส่วนบน ให้ได้ลายที่สวยขึ้นงานชิ้นนั้นก็จะไม่สมบูรณ์ ผมคิดว่าหนังแต่ละแผ่นมีลวดลายและร่องรอยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะอยู่แล้ว”