“มหาสมุทรคือรากฐานของชีวิต ให้อากาศเราหายใจและอาหารที่เรากิน มหาสมุทรเป็นแหล่งกักเก็บความหลากหลายทางชีวภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เราควรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมหาสมุทร แต่ตอนนี้มนุษยชาติเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุด”
– António Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ
เราต่างรู้ดีว่ามหาสมุทรเป็นแหล่งน้ำเค็มที่มีปริมาณมากที่สุดในโลกและเชื่อมต่อทุกทวีปให้เป็นหนึ่งเดียว ทุกวันนี้นอกจากการประมง มนุษย์ยังใช้มหาสมุทรเป็นแหล่งเชื้อเพลิงสำคัญ และบางส่วนก็ถูกใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจด้วย ด้วยความคุ้นชิน เราลืมไปว่ามหาสมุทรเป็นมากกว่านั้น กว่า 70% ของออกซิเจนที่มีอยู่บนโลกล้วนผลิตมาจากแพลงก์ตอนพืชที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร คุณเชื่อไหมว่า ‘ถ้าระบบนิเวศของมหาสมุทรพังทลาย มนุษย์จะตาย’ ประโยคนี้ไม่เกินจริงเลยสักนิด ถ้าคุณรู้ว่าเราพึ่งพาอะไรจากท้องทะเลบ้าง
- 3 ใน 4 ของพื้นผิวโลกเป็นมหาสมุทร ส่วนหนึ่งของวัฏจักรคาร์บอน ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตเจริญเติบโต
- มีอิทธิพลต่อลมฟ้าอากาศ
- เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมากกว่า 230,000 สปีชีส์ และคาดว่ามีอีกกว่า 2 ล้านสายพันธุ์ที่ยังไม่ถูกค้นพบ
- ช่วยลดภาวะโลกร้อน แพลงก์ตอนพืชใช้คาร์บอน 30-50% ในอากาศในการสังเคราะห์แสง
- ออกซิเจนในอากาศที่เราหายใจมากกว่า 70% มาจากสาหร่ายเซลล์เดียวหรือแพลงก์ตอนในมหาสมุทร
- 94% ของปริมาณน้ำทั้งโลกอยู่ในมหาสมุทร
- แหล่งกำเนิดเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ
- แหล่งเกลือและแร่ธาตุต่างๆ
ฉะนั้น การรักษ์และดูแลท้องทะเลและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำย่อมหมายถึงความยั่งยืนของสิ่งมีชีวิตและเหล่ามวลมนุษย์ด้วย
ทุกวันนี้มนุษย์เราทำลายมหาสมุทรโดยไม่รู้ตัว เราใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรทั้งงานด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การดำรงชีพ ไปจนถึงที่พักผ่อนหย่อนใจ เรากินสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในทะเล เราทำลายบ้านของสัตว์น้ำโดยพลั้งเผลอและเจตนา เพราะคิดว่าแค่สวยงามและไม่น่ามีผลอะไรต่อระบบนิเวศ นอกจากนี้เรายังสร้างปัญหาขยะจากการดำรงชีพที่ถูกน้ำกวาดต้อนและชะล้างให้ไหลรวมลงไปกองอยู่ในทะเล
เนื่องจากวันที่ 8 มิถุนายน เป็นวันทะเลโลก เราอยากให้คุณรู้ว่า มหาสมุทรหรือทะเลที่เราเห็นจนคุ้นชินมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตมากกว่าที่เราคิด THE STANDARD LIFE ไม่อยากให้วันนี้มีไว้อย่างไร้ประโยชน์ เราหวังว่าทุกคนจะตระหนักถึงความสำคัญของมหาสมุทร และช่วยรักษาไว้ให้คงอยู่ตราบเท่าที่เราทำได้
ภาพ: Shutterstock